นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยเพิ่มเติมหลังพบความไม่โปร่งใสในโครงการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)ว่า คณะทำงานฯจะตรวจสอบใน 2 ประเด็นหลัก คือ ขั้นตอนการประกวดราคาและมูลค่าของโครงการ เพราะเป็นการใช้งบดำเนินการที่สูงและสร้างภาระให้ กฟภ. ซึ่งในที่สุดจะเป็นการผลักภาระให้ประชาชนโดยการขึ้นค่าไฟ
ทั้งนี้นายอลงกรณ์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทเพอร์ทัลเน็ท จำกัด ที่ชนะการประมูลนั้น มีกรรมการบริษัทเป็นเครือญาติกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นโดย บ.เอ็มลิ้งค์ เอเชียคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาถือหุ้นเกินกว่า 90% เท่ากับว่า บริษัทเพอร์ทัลเน็ท จำกัด เป็นบริษัทลูกของ บ.เอ็มลิ้งค์ เอเชียคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้น 2 ใน 3 ของบริษัทนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับนายกฯและเลขาธิการพรรคไทยรักไทย
ประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตฯ กล่าวว่า ข้อสังเกตที่น่าสนใจมากคือ การเช่าระบบคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่า 3,192 ล้านบาทนั้น มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี ต้องชำระค่าเช่าเฉลี่ยปีละประมาณ 638 ล้านบาท และเมื่อสิ้นสัญญาเช่า 5 ปี ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ก็ต้องคืนให้บริษัทผู้เช่า ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็จะไม่มีอะไรเหลือแม้แต่นิดเดียว แต่ต้องจ่ายเงินกว่า 3 พันล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งประเด็นนี้น่าพิจารณาว่าโครงการนี้มีความคุ้มค่าหรือไม่กับการใช้เป็นงบดำเนินการ
‘จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริษัทเพอร์ทัลเน็ทมีกรรมการบริษัทคือน้องสาวนายกฯ ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น แต่ว่าทุนจดทะเบียนยังเท่าเดิม บริษัทที่เข้ามาถือหุ้นใหม่ประธานกรรมการก็คือพี่ชายแท้ๆของเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และผมได้ตรวจสอบผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาที่ทำการศึกษาเรื่องนี้แก่ กฟภ.มีการระบุชัดเจนว่า ในปี 2548 กฟภ.จะมีกำไรสุทธิเพียง 702 ล้านบาท และ ปี 2549 จะมีกำไร 996 ล้านบาท ในขณะที่จะต้องมีภาระในการจ่ายค่าเช่าระบบคอมฯถึง 600 กว่าล้านบาท จะต้องรอคำชี้แจงของบอร์ดของ กฟภ. ว่าเหตุผลและข้อพิจารณาดังกล่าวนั้นทำไมจึงตัดสินใจเป็นเรื่องของการเช่า และการเช่าครั้งนี้มูลค่าสูงเกินไปหรือไม่ เพราะระบบคอมพิวเตอร์ซอฟแวร์สำเร็จรูปดังกล่าวนั้นมีขายโดยทั่วไปอยู่แล้ว’ นายอลงกรณ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19/04/47--จบ--
-สส-
ทั้งนี้นายอลงกรณ์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทเพอร์ทัลเน็ท จำกัด ที่ชนะการประมูลนั้น มีกรรมการบริษัทเป็นเครือญาติกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นโดย บ.เอ็มลิ้งค์ เอเชียคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาถือหุ้นเกินกว่า 90% เท่ากับว่า บริษัทเพอร์ทัลเน็ท จำกัด เป็นบริษัทลูกของ บ.เอ็มลิ้งค์ เอเชียคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้น 2 ใน 3 ของบริษัทนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับนายกฯและเลขาธิการพรรคไทยรักไทย
ประธานคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตฯ กล่าวว่า ข้อสังเกตที่น่าสนใจมากคือ การเช่าระบบคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่า 3,192 ล้านบาทนั้น มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี ต้องชำระค่าเช่าเฉลี่ยปีละประมาณ 638 ล้านบาท และเมื่อสิ้นสัญญาเช่า 5 ปี ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ก็ต้องคืนให้บริษัทผู้เช่า ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็จะไม่มีอะไรเหลือแม้แต่นิดเดียว แต่ต้องจ่ายเงินกว่า 3 พันล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งประเด็นนี้น่าพิจารณาว่าโครงการนี้มีความคุ้มค่าหรือไม่กับการใช้เป็นงบดำเนินการ
‘จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริษัทเพอร์ทัลเน็ทมีกรรมการบริษัทคือน้องสาวนายกฯ ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น แต่ว่าทุนจดทะเบียนยังเท่าเดิม บริษัทที่เข้ามาถือหุ้นใหม่ประธานกรรมการก็คือพี่ชายแท้ๆของเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และผมได้ตรวจสอบผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาที่ทำการศึกษาเรื่องนี้แก่ กฟภ.มีการระบุชัดเจนว่า ในปี 2548 กฟภ.จะมีกำไรสุทธิเพียง 702 ล้านบาท และ ปี 2549 จะมีกำไร 996 ล้านบาท ในขณะที่จะต้องมีภาระในการจ่ายค่าเช่าระบบคอมฯถึง 600 กว่าล้านบาท จะต้องรอคำชี้แจงของบอร์ดของ กฟภ. ว่าเหตุผลและข้อพิจารณาดังกล่าวนั้นทำไมจึงตัดสินใจเป็นเรื่องของการเช่า และการเช่าครั้งนี้มูลค่าสูงเกินไปหรือไม่ เพราะระบบคอมพิวเตอร์ซอฟแวร์สำเร็จรูปดังกล่าวนั้นมีขายโดยทั่วไปอยู่แล้ว’ นายอลงกรณ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19/04/47--จบ--
-สส-