เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๔๗ เวลา ๑๓.๑๕ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้นล่าง อาคารรัฐสภา ๑
นายวิรัตน์ ตยางคนนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย
ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการคณะกรรมาธิการ
การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงถึงผลการประชุมพิจารณาเรื่องการหายตัวไปของนายสมชาย
นีละไพจิตร ทนายความเจไอว่า ได้เชิญพลตำรวจโทธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
และพลตำรวจตรีจักรทิพย์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาชี้แจง ถึงผลกระทบ
ต่อความไม่สงบทางภาคใต้ ความขัดแย้งระหว่างทีมสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษกับทีมสืบสวนของตำรวจ
โดยได้ชี้แจงว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ข้อมูลหลักฐานก็มีน้ำหนักเพียงพอที่จะออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง
และขอยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่มีข่าวความ ขัดแย้งของสองทีมสืบสวนนั้น
พลตำรวจโทธานีกล่าวว่า การให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเรื่องไปก็
ไม่ได้ขัดข้อง เพราะถือว่าทุกส่วนราชการใครจะดำเนินการก็ได้ แต่ข้อเท็จจริงกำลังอยู่ระหว่างการ
สืบสวน และยืนยันว่าในการทำคดีดังกล่าวไม่ได้รับความกดดัน และไม่มีผู้ใหญ่คนใดสั่งให้ตัดตอนคดีหรือให้ช่วยใคร
เพราะตำรวจนครบาลทำหน้าที่เป็นคนกลางทำอย่างตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ครั้งหน้า จะได้เชิญพลตำรวจเอกชาญชิด เพียรเลิศ
รองผู้บัญชาการตำรวจ และพลตำรวจตรีบุญฤทธิ์ รัตนาภรณ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจ
ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีดังกล่าวมาชี้แจงในที่ประชุม
-----------------------------------------------------------
นายวิรัตน์ ตยางคนนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย
ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการคณะกรรมาธิการ
การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงถึงผลการประชุมพิจารณาเรื่องการหายตัวไปของนายสมชาย
นีละไพจิตร ทนายความเจไอว่า ได้เชิญพลตำรวจโทธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
และพลตำรวจตรีจักรทิพย์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาชี้แจง ถึงผลกระทบ
ต่อความไม่สงบทางภาคใต้ ความขัดแย้งระหว่างทีมสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษกับทีมสืบสวนของตำรวจ
โดยได้ชี้แจงว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ข้อมูลหลักฐานก็มีน้ำหนักเพียงพอที่จะออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง
และขอยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่มีข่าวความ ขัดแย้งของสองทีมสืบสวนนั้น
พลตำรวจโทธานีกล่าวว่า การให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเรื่องไปก็
ไม่ได้ขัดข้อง เพราะถือว่าทุกส่วนราชการใครจะดำเนินการก็ได้ แต่ข้อเท็จจริงกำลังอยู่ระหว่างการ
สืบสวน และยืนยันว่าในการทำคดีดังกล่าวไม่ได้รับความกดดัน และไม่มีผู้ใหญ่คนใดสั่งให้ตัดตอนคดีหรือให้ช่วยใคร
เพราะตำรวจนครบาลทำหน้าที่เป็นคนกลางทำอย่างตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ครั้งหน้า จะได้เชิญพลตำรวจเอกชาญชิด เพียรเลิศ
รองผู้บัญชาการตำรวจ และพลตำรวจตรีบุญฤทธิ์ รัตนาภรณ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจ
ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีดังกล่าวมาชี้แจงในที่ประชุม
-----------------------------------------------------------