นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่ฝ่ายรัฐบาลออกมาระบุทำนองว่าจะมีการฟ้อง หากการอภิปรายของฝ่ายค้านมีการพาดพิงถึงตัวนายกฯและครอบครัวว่า จากคำพูดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความจริง 2 เรื่องคือ 1.อาการข่มขู่ของรัฐบาลต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้าน 2.รัฐบาลกำลังกลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงได้ออกมาแสดงอาการข่มขู่เช่นนี้ ตนคิดว่าความจริงหากไม่มีลักษณะที่มีแผลหรือวัวสันหลังหวะ ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องออกมาข่มขู่ นอกจากนี้ฝ่ายค้านก็รู้รัฐธรรมนูญดีว่าหากไปพาดพิงบุคคลที่ 3 สภาก็ไม่คุ้มครองและอาจถูกฟ้องร้องได้
ส่วนกรณีที่นายกฯออกมาท้าทายฝ่ายค้านว่ายินดีให้อภิปราย 7 วันหรือ10 วันนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เป็นการสะท้อนว่านายกฯตี 2 หน้าทางการเมือง เพราะหน้าหนึ่งนายกฯพูดทำนองว่าไม่กลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่อีกหน้าหนึ่งสมาชิกพรรคไทยรักไทยก็ออกมาขู่ฝ่ายค้านว่าห้ามอภิปรายพาดพิงถึงนายกฯและครอบครัว และที่นายกฯกล่าวว่ายินดีจะให้พูดเต็มที่ 7-10 วัน ก็ขอให้นายกฯรักษาคำพูด หวังว่านายกฯจะไม่ตระบัดสัตย์ในทางการเมือง ต้องเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายอย่างเต็มที่จริง และไม่อยากให้ใช้วิธีเหมือนกับการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาคือ ความพยายามสกัดการอภิปรายและจำกัดเวลาทุกวิถีทาง อย่างไรก็ตามขอให้ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ในการตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน
‘เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่จะตรวจสอบรัฐบาล และในหนึ่งปีรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้ทำหน้าที่เพียงครั้งเดียว ทั้งหมดจะต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของงรัฐมนตรี และขึ้นอยู่กับโอกาสที่เราจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้มากน้อยแค่ไหน พฤติกรรมรัฐมนตรีนั้นผมคิดว่ามีในเรื่องความไม่ชอบมาพากล รวมทั้งเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว แต่ว่าโอกาสในการรวบรวมพยานหลักฐานที่จะครบถ้วน 100% แม้ว่าเราจะใช้ความพยายามมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องยอมรับความจริงว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโอกาสการทิ้งร่องรอยนั้นมีความแยบยลทำให้ตรวจสอบได้ยากขึ้น’ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าว
ส่วนที่รัฐบาลเลื่อนการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบปีนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ปีนี้ถือว่าช้าผิดปกติเพราะ 2 ปีที่ผ่านมาจะมีการอภิปรายประมาณเดือนมีนาคม แต่ในปีนี้รัฐบาลก็ยังไม่ทีท่าจะเสนอเข้ามา ส่วนที่นายกฯอ้างว่าเป็นความผิดพลาดในการจัดพิมพ์เอกสารนั้น ตนคิดว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะมีการลากยาวการแถลงผลการดำเนินงานไปให้ใกล้กับการอภิปรายให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่ายนั้น ตนคิดว่าหากเป็นความจริงก็จะสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลนี้เล่นเกมการเมืองตลอดเวลา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20/04/47--จบ--
-สส-
ส่วนกรณีที่นายกฯออกมาท้าทายฝ่ายค้านว่ายินดีให้อภิปราย 7 วันหรือ10 วันนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เป็นการสะท้อนว่านายกฯตี 2 หน้าทางการเมือง เพราะหน้าหนึ่งนายกฯพูดทำนองว่าไม่กลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่อีกหน้าหนึ่งสมาชิกพรรคไทยรักไทยก็ออกมาขู่ฝ่ายค้านว่าห้ามอภิปรายพาดพิงถึงนายกฯและครอบครัว และที่นายกฯกล่าวว่ายินดีจะให้พูดเต็มที่ 7-10 วัน ก็ขอให้นายกฯรักษาคำพูด หวังว่านายกฯจะไม่ตระบัดสัตย์ในทางการเมือง ต้องเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายอย่างเต็มที่จริง และไม่อยากให้ใช้วิธีเหมือนกับการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาคือ ความพยายามสกัดการอภิปรายและจำกัดเวลาทุกวิถีทาง อย่างไรก็ตามขอให้ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ในการตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน
‘เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่จะตรวจสอบรัฐบาล และในหนึ่งปีรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้ทำหน้าที่เพียงครั้งเดียว ทั้งหมดจะต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของงรัฐมนตรี และขึ้นอยู่กับโอกาสที่เราจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้มากน้อยแค่ไหน พฤติกรรมรัฐมนตรีนั้นผมคิดว่ามีในเรื่องความไม่ชอบมาพากล รวมทั้งเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว แต่ว่าโอกาสในการรวบรวมพยานหลักฐานที่จะครบถ้วน 100% แม้ว่าเราจะใช้ความพยายามมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องยอมรับความจริงว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโอกาสการทิ้งร่องรอยนั้นมีความแยบยลทำให้ตรวจสอบได้ยากขึ้น’ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าว
ส่วนที่รัฐบาลเลื่อนการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบปีนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ปีนี้ถือว่าช้าผิดปกติเพราะ 2 ปีที่ผ่านมาจะมีการอภิปรายประมาณเดือนมีนาคม แต่ในปีนี้รัฐบาลก็ยังไม่ทีท่าจะเสนอเข้ามา ส่วนที่นายกฯอ้างว่าเป็นความผิดพลาดในการจัดพิมพ์เอกสารนั้น ตนคิดว่าเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะมีการลากยาวการแถลงผลการดำเนินงานไปให้ใกล้กับการอภิปรายให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่ายนั้น ตนคิดว่าหากเป็นความจริงก็จะสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลนี้เล่นเกมการเมืองตลอดเวลา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20/04/47--จบ--
-สส-