ตามที่กระทรวงการคลังได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศให้เป็นแหล่งระดมทุนในระดับภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ในตลาด รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลาดตราสารหนี้เพื่อรองรับการออกตราสารหนี้ภายใต้กรอบพันธบัตรเอเชีย นั้น
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2547 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การอนุญาตให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย โดยมีรายละเอียดปรากฏตามสำเนาประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. สถาบันการเงินระหว่างประเทศจะต้องขออนุญาตกระทรวงการคลังเป็นคราวๆ ไป โดยจะต้องยื่นเอกสารแสดงความจำนง ซึ่งมีรายละเอียดตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
2. เงินที่ได้จากการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้
2.1 หากคงไว้ในรูปเงินบาท สามารถนำไปลงทุนหรือให้กู้ยืมในราชอาณาจักรไทย หรือในสหภาพพม่า สาธารณรัฐกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีเงื่อนไขว่ากิจการดังกล่าวต้องก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทย และเงินบาทดังกล่าวต้องใช้ชำระค่าสินค้า บริการ หรือภาระผูกพันให้แก่บุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
2.2 หากนำไปลงทุนหรือให้กู้ยืมเป็นเงินตราต่างประเทศ จะต้องแปลงเงินบาทที่ระดมได้เป็นเงินตราต่างประเทศตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
3. พันธบัตรหรือหุ้นกู้ดังกล่าวจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ ลอยตัว หรือกึ่งคงที่กึ่งลอยตัวก็ได้ แต่ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 5 ปี
4. สถาบันการเงินระหว่างประเทศจะต้องแต่งตั้งศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือนายทะเบียนอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนด เป็นนายทะเบียน และพันธบัตรหรือหุ้นกู้ดังกล่าวต้องขึ้นทะเบียนกับศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย
5. สถาบันการเงินระหว่างประเทศได้รับยกเว้นภาระภาษีและหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามพระราชบัญญัติการดำเนินงานของสหประชาชาติและทบวงการชำนัญพิเศษในไทย พ.ศ. 2504 พระราชกฤษฎีการะบุทบวงการชำนัญพิเศษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2521 และ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2533 และพระราชบัญญัติให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับธนาคารพัฒนาเอเชีย พ.ศ. 2509 อย่างไรก็ดี ผู้ถือครองพันธบัตรหรือหุ้นกู้ยังคงมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร
6. การดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ใช้กฎหมายไทยและเขตอำนาจศาลไทย
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 31/2547 22 เมษายน 2547--
-นท-
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2547 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การอนุญาตให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย โดยมีรายละเอียดปรากฏตามสำเนาประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. สถาบันการเงินระหว่างประเทศจะต้องขออนุญาตกระทรวงการคลังเป็นคราวๆ ไป โดยจะต้องยื่นเอกสารแสดงความจำนง ซึ่งมีรายละเอียดตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
2. เงินที่ได้จากการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้
2.1 หากคงไว้ในรูปเงินบาท สามารถนำไปลงทุนหรือให้กู้ยืมในราชอาณาจักรไทย หรือในสหภาพพม่า สาธารณรัฐกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีเงื่อนไขว่ากิจการดังกล่าวต้องก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทย และเงินบาทดังกล่าวต้องใช้ชำระค่าสินค้า บริการ หรือภาระผูกพันให้แก่บุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
2.2 หากนำไปลงทุนหรือให้กู้ยืมเป็นเงินตราต่างประเทศ จะต้องแปลงเงินบาทที่ระดมได้เป็นเงินตราต่างประเทศตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
3. พันธบัตรหรือหุ้นกู้ดังกล่าวจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ ลอยตัว หรือกึ่งคงที่กึ่งลอยตัวก็ได้ แต่ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 5 ปี
4. สถาบันการเงินระหว่างประเทศจะต้องแต่งตั้งศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือนายทะเบียนอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนด เป็นนายทะเบียน และพันธบัตรหรือหุ้นกู้ดังกล่าวต้องขึ้นทะเบียนกับศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย
5. สถาบันการเงินระหว่างประเทศได้รับยกเว้นภาระภาษีและหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามพระราชบัญญัติการดำเนินงานของสหประชาชาติและทบวงการชำนัญพิเศษในไทย พ.ศ. 2504 พระราชกฤษฎีการะบุทบวงการชำนัญพิเศษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2521 และ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2533 และพระราชบัญญัติให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับธนาคารพัฒนาเอเชีย พ.ศ. 2509 อย่างไรก็ดี ผู้ถือครองพันธบัตรหรือหุ้นกู้ยังคงมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร
6. การดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ใช้กฎหมายไทยและเขตอำนาจศาลไทย
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 31/2547 22 เมษายน 2547--
-นท-