นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ใคร่ขออนุญาตที่ประชุม ฯ กล่าวรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารพรรคฯและคณะผู้บริหารพรรคฯ ในรอบปี 2546 เพื่อให้ที่ประชุมได้รับทราบ โดยแบ่งงานที่สำคัญ ๆ ดังนี้
ด้านนิติบัญญัติ
1 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ปฎิบัติงานด้าน นิติบัญญัติอย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง โดยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 81 ฉบับ เสนอญัตติ จำนวน 23 ฉบับ ตั้งกระทู้ถามสดรวม 147 เรื่อง ตลอดจนเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 5 คน และได้ยื่นถอดถอน จำนวน 1 คน คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ ขณะนี้ ปปช. กำลังดำเนินการไต่สวน นอกจากนี้พรรคยังได้ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการออกพระราชกำหนดขัดรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการออกพระราชกำหนดเป็นโมฆะ จำนวน 3 ฉบับ
ด้านการเมือง
ในรอบปีที่ผ่านมา รัฐบาลบริหารประเทศประสบความล้มเหลวในหลายๆ ด้าน เช่น ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ปัญหาหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น
ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นจนน่าเป็นห่วง ปัญหาการทุจริตคอร์รับชั่นตั้งแต่ระดับปฎิบัติการจนถึงระดับนโยบาย ตลอดจนการใช้อำนาจรัฐที่กระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน
พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชน ได้ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อรัฐบาลจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งในการนี้พรรคได้มอบหมายให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคหลายท่านเข้าไปทำหน้าที่หลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็น การกลั่นกรองกฎหมาย การติดตามงานของรัฐบาล การดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
ภายใต้การนำของท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บทบาทและผลงานทางด้านการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ สามารถกล่าวได้ว่า ได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมากขึ้นด้วย
ด้านการบริหารงานพรรค
หลังจากคณะกรรมการบริหารพรรคฯและคณะผู้บริหารพรรคฯ ได้กำหนดยุทธศาสตร์และกรอบการทำงานภายใต้แผนปฎิบัติการหัวหิน ต่อเนื่องถึงการประชุมเพื่อเน้นย้ำพันธกิจเชียงราย และการกำหนดยุทธการระยอง จากทุกแผนงานเหล่านี้ เราได้เดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งของพรรค สาขาพรรค ตลอดจนสมาชิกของพรรค
ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ มีสาขาพรรคทั่วประเทศ จำนวน 193 สาขา จำนวนสมาชิกพรรค ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546 จำนวน 3,869,174 คน ซึ่งมีจำนวนสมาชิกที่สมัครใหม่ในรอบปีจำนวน 81,006 คน
ในส่วนของการให้ความรู้ทางการเมืองและความรู้ทั่วไปแก่สมาชิกพรรคและประชาชนนั้น พรรคได้จัดโครงการอบรมสมาชิกพรรคและประชาชนในเขตพื้นที่เลือกตั้งทั่วประเทศโดยการประสานงานของ ส.ส. / ผู้สมัคร ส.ส. และสาขาพรรค มีโครงการอบรมสาขาเพื่อขยายสมาชิก โครงการเยี่ยมเยียนและหาสมาชิกใหม่ โครงการสัมมนาประชาธิปัตย์เพื่อประชาชน โครงการสัมมนาประชาธิปัตย์แคมปัสทัวร์ โครงการลานประชาธิปไตย โครงการเปิดบ้านประชาธิปัตย์ โครงการสัมมนาสาขา โครงการสัมมนาผู้นำทางการเมือง โครงการคอนเสิร์ตต้านยาเสพติด ตลอดจนการจัดระดมทุนเพื่อหารายได้เข้าพรรค ที่โรงนาบางกอก ในเดือนกันยายน 2546 ซึ่งได้มีคณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส. สก. สข. คณะกรรมการสาขาพรรคจากทั่วประเทศและผู้สนับสนุนพรรคไปร่วมงานกันอย่างคับคั่ง รวมยอดเงินระดมทุนครั้งนี้ได้ประมาณ 30 กว่าล้านบาท
สถานะการเงินของพรรคในรอบปี 2546
มีรายรับรวมในปี 2546 จำนวน 95,167,822.40 บาท ( เก้าสิบห้าล้านหนึ่งแสนหกหมื่นเจ็ดพันแปดร้อยยี่สิบสองบาทเก้าสี่สิบสตางค์ ) โดยในส่วนที่ได้รับการสนันสนุนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 47,410,800.00 บาท ( สี่สิบเจ็ดล้านสี่แสนหนึ่งหมื่นแปดร้อยบาทถ้วน ) อีกส่วนหนึ่งมาจากการบริจาค ส.ส สก. สข. และผู้สนับสนุนอื่น ๆ และมีรายจ่ายรวมในปี 2546 จำนวน 95,025,010.76 บาท ( เก้าสิบห้าล้านสองหมื่นห้าพันสิบบาทเจ็ดสิบหกสตางค์ ) ทำให้มีรายรับมากกว่ารายจ่ายรวม 142,811.64 บาท ( หนึ่งแสนสี่หมื่นสองพันแปดร้อยสิบเอ็ดบาทหกสิบสี่สตางค์ ) ซึ่งท่านเหรัญญิก นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ จะได้รายงานและขอมติรับรองงบการเงินของพรรคต่อไป
ด้านการเลือกตั้ง
จากการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสงขลาที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณพวกเราชาวประชาธิปัตย์ทุกคนในการดำเนินการรณรงค์หาเสียงกันอย่างเต็มที่ จนทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวจังหวัดสงขลา เขต 3 อย่างท่วมท้น
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง มีความคืบหน้าไปมาก ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯได้เห็นชอบให้คณะผู้บริหารพรรคฯเป็นคณะกรรมการอำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง และได้มีการประชุมในทุกสัปดาห์ เพื่อพิจารณาตัวผู้สมัคร นอกจากนั้น ภายในเวลา 2 เดือนนี้ เราจะมีการจัดอบรมสัมมนาผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งทั่วประเทศ ทุกภาค ประเดิมที่พื้นที่ภาคใต้และภาคอื่น ๆ ตามลำดับ ซึ่งในขณะนี้ถือว่าพรรคได้เตรียมความพร้อม เพื่อรองรับสถานการณ์การเลือกตั้งซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
สำหรับในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นนั้น พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากที่พรรคฯได้ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เมื่อการเลือกตั้ง 14 มีนาคม ที่ผ่านมาและพรรคได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างเป็นที่น่าพอใจ
นอกจากนั้น ในด้านนโยบาย พรรคได้ดำเนินการจัดเตรียมและจัดทำนโยบาย ที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชน และเป็นนโยบายที่มีความสอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานทางการเมืองทั้งก่อนการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อถึงเงื่อนไขเวลาที่เหมาะสมพรรคฯจะประกาศให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบนโยบายพรรคต่อไป
ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรของเรา และด้วยความเชื่อมั่นในความตั้งใจของพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เสนอมา
บัดนี้พรรคประชาธิปัตย์ของท่านทั้งหลาย พร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนและกับประเทศชาติสืบไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24/04/47--จบ--
-สส-
ด้านนิติบัญญัติ
1 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ปฎิบัติงานด้าน นิติบัญญัติอย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง โดยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 81 ฉบับ เสนอญัตติ จำนวน 23 ฉบับ ตั้งกระทู้ถามสดรวม 147 เรื่อง ตลอดจนเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 5 คน และได้ยื่นถอดถอน จำนวน 1 คน คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ ขณะนี้ ปปช. กำลังดำเนินการไต่สวน นอกจากนี้พรรคยังได้ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการออกพระราชกำหนดขัดรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการออกพระราชกำหนดเป็นโมฆะ จำนวน 3 ฉบับ
ด้านการเมือง
ในรอบปีที่ผ่านมา รัฐบาลบริหารประเทศประสบความล้มเหลวในหลายๆ ด้าน เช่น ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ปัญหาหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น
ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นจนน่าเป็นห่วง ปัญหาการทุจริตคอร์รับชั่นตั้งแต่ระดับปฎิบัติการจนถึงระดับนโยบาย ตลอดจนการใช้อำนาจรัฐที่กระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน
พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชน ได้ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อรัฐบาลจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งในการนี้พรรคได้มอบหมายให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคหลายท่านเข้าไปทำหน้าที่หลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็น การกลั่นกรองกฎหมาย การติดตามงานของรัฐบาล การดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
ภายใต้การนำของท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บทบาทและผลงานทางด้านการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ สามารถกล่าวได้ว่า ได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมากขึ้นด้วย
ด้านการบริหารงานพรรค
หลังจากคณะกรรมการบริหารพรรคฯและคณะผู้บริหารพรรคฯ ได้กำหนดยุทธศาสตร์และกรอบการทำงานภายใต้แผนปฎิบัติการหัวหิน ต่อเนื่องถึงการประชุมเพื่อเน้นย้ำพันธกิจเชียงราย และการกำหนดยุทธการระยอง จากทุกแผนงานเหล่านี้ เราได้เดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งของพรรค สาขาพรรค ตลอดจนสมาชิกของพรรค
ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ มีสาขาพรรคทั่วประเทศ จำนวน 193 สาขา จำนวนสมาชิกพรรค ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546 จำนวน 3,869,174 คน ซึ่งมีจำนวนสมาชิกที่สมัครใหม่ในรอบปีจำนวน 81,006 คน
ในส่วนของการให้ความรู้ทางการเมืองและความรู้ทั่วไปแก่สมาชิกพรรคและประชาชนนั้น พรรคได้จัดโครงการอบรมสมาชิกพรรคและประชาชนในเขตพื้นที่เลือกตั้งทั่วประเทศโดยการประสานงานของ ส.ส. / ผู้สมัคร ส.ส. และสาขาพรรค มีโครงการอบรมสาขาเพื่อขยายสมาชิก โครงการเยี่ยมเยียนและหาสมาชิกใหม่ โครงการสัมมนาประชาธิปัตย์เพื่อประชาชน โครงการสัมมนาประชาธิปัตย์แคมปัสทัวร์ โครงการลานประชาธิปไตย โครงการเปิดบ้านประชาธิปัตย์ โครงการสัมมนาสาขา โครงการสัมมนาผู้นำทางการเมือง โครงการคอนเสิร์ตต้านยาเสพติด ตลอดจนการจัดระดมทุนเพื่อหารายได้เข้าพรรค ที่โรงนาบางกอก ในเดือนกันยายน 2546 ซึ่งได้มีคณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส. สก. สข. คณะกรรมการสาขาพรรคจากทั่วประเทศและผู้สนับสนุนพรรคไปร่วมงานกันอย่างคับคั่ง รวมยอดเงินระดมทุนครั้งนี้ได้ประมาณ 30 กว่าล้านบาท
สถานะการเงินของพรรคในรอบปี 2546
มีรายรับรวมในปี 2546 จำนวน 95,167,822.40 บาท ( เก้าสิบห้าล้านหนึ่งแสนหกหมื่นเจ็ดพันแปดร้อยยี่สิบสองบาทเก้าสี่สิบสตางค์ ) โดยในส่วนที่ได้รับการสนันสนุนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 47,410,800.00 บาท ( สี่สิบเจ็ดล้านสี่แสนหนึ่งหมื่นแปดร้อยบาทถ้วน ) อีกส่วนหนึ่งมาจากการบริจาค ส.ส สก. สข. และผู้สนับสนุนอื่น ๆ และมีรายจ่ายรวมในปี 2546 จำนวน 95,025,010.76 บาท ( เก้าสิบห้าล้านสองหมื่นห้าพันสิบบาทเจ็ดสิบหกสตางค์ ) ทำให้มีรายรับมากกว่ารายจ่ายรวม 142,811.64 บาท ( หนึ่งแสนสี่หมื่นสองพันแปดร้อยสิบเอ็ดบาทหกสิบสี่สตางค์ ) ซึ่งท่านเหรัญญิก นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ จะได้รายงานและขอมติรับรองงบการเงินของพรรคต่อไป
ด้านการเลือกตั้ง
จากการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสงขลาที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณพวกเราชาวประชาธิปัตย์ทุกคนในการดำเนินการรณรงค์หาเสียงกันอย่างเต็มที่ จนทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวจังหวัดสงขลา เขต 3 อย่างท่วมท้น
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง มีความคืบหน้าไปมาก ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯได้เห็นชอบให้คณะผู้บริหารพรรคฯเป็นคณะกรรมการอำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง และได้มีการประชุมในทุกสัปดาห์ เพื่อพิจารณาตัวผู้สมัคร นอกจากนั้น ภายในเวลา 2 เดือนนี้ เราจะมีการจัดอบรมสัมมนาผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งทั่วประเทศ ทุกภาค ประเดิมที่พื้นที่ภาคใต้และภาคอื่น ๆ ตามลำดับ ซึ่งในขณะนี้ถือว่าพรรคได้เตรียมความพร้อม เพื่อรองรับสถานการณ์การเลือกตั้งซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
สำหรับในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นนั้น พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากที่พรรคฯได้ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เมื่อการเลือกตั้ง 14 มีนาคม ที่ผ่านมาและพรรคได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างเป็นที่น่าพอใจ
นอกจากนั้น ในด้านนโยบาย พรรคได้ดำเนินการจัดเตรียมและจัดทำนโยบาย ที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชน และเป็นนโยบายที่มีความสอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานทางการเมืองทั้งก่อนการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อถึงเงื่อนไขเวลาที่เหมาะสมพรรคฯจะประกาศให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบนโยบายพรรคต่อไป
ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรของเรา และด้วยความเชื่อมั่นในความตั้งใจของพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เสนอมา
บัดนี้พรรคประชาธิปัตย์ของท่านทั้งหลาย พร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนและกับประเทศชาติสืบไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24/04/47--จบ--
-สส-