นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าไปก่อความไม่สงบในจังหวัดสงขลา ปัตตานี และยะลา เมื่อเช้ามืดของวันที่ 28 เม.ย.ว่า เชื่อว่าตอนนี้ฝ่ายข่าวของส่วนราชการมีข้อมูลที่ดีขึ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการย้ำให้เห็นว่าเรื่องในภาคใต้ไม่ใช่เรื่องกระจอกมาตั้งแต่ต้น ส่วนผู้ปฏิบัติการจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือชายฉกรรจ์หรือไม่นั้น ก็ต้องรอดูข้อเท็จจริงก่อน
นายชวนกล่าวว่า ขอยืนยันข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์เคยกล่าวว่าในช่วง 3 ปีมีการฝึกคนขึ้นมาใหม่มาก ตรงนี้รัฐบาลจะต้องมีความระมัดระวัง อย่าไปหลงประเด็นว่าคนก่อเหตุเป็นคน 2 สัญชาติ ที่ก่อเหตุแล้วหนีข้ามฟาก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยเตือนมาแล้วว่าวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้ววิ่งเข้าบ้าน ดังนั้นที่ไปตั้งสมมุติฐานเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ติดยาเสพติด ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าไม่น่ากลัว เพราะเมื่อยาหมดฤทธิ์ปัญหาก็หมดไปด้วย และกลุ่มที่ติดยาจนมึนเมาก็คงก่อเหตุอะไรไม่ได้มากนัก
‘ผมต้องย้ำเรื่องนี้เพราะกลัวว่ารัฐบาลจะหลงประเด็น ถ้าเป็นกลุ่มที่มีการฝึกอาวุธ ฝึกปฏิบัติการ และมีการปลูกฝังอุดมการณ์เรื่องการก่อกาการร้าย เรื่องรัฐปัตตานี อันนี้จะต้องระวัง เพราะมันไม่จบง่ายๆ แต่ถ้าเป็นพวกที่ติดยาเสพติดมันจะจบเร็ว แต่กลุ่มอุดมการณ์มันจะไม่จบง่ายๆ ดังนั้นอย่ามองปัญหาแบบฉายฉวย ผมเคยเตือนมาตลอดตั้งแต่ต้น ถ้าฟังกันตั้งแต่ต้น เหตุร้ายเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เขาได้ฝึกคนเอาไว้มาก การที่เราคิดว่าปัญหาเรื่องแบ่งแยกดินแดนหมดหรือเบาไปแล้ว ความจริงก็ยอมรับว่าเบาไปแล้ว แต่เขาจะใช้ช่วงเวลาที่เราประเมินสถานการณ์ว่าคนเหล่านี้ไม่มีพิษสงอะไรมาฝึกคนที่บอกว่ากระจอกขึ้นมาใหม่ การปฏิบัติการเวลานี้จึงเป็นฝีมือของคนที่เพิ่งถูกฝึกมา ดังนั้นในช่วงที่รัฐบาลคิดว่าเป็นฝีมือของโจรกระจอกจึงกลายเป็นช่วงทองของคนพวกนี้ เขาใช้เวลาในช่วงที่รัฐบาลประมาทฝึกคนขึ้นมา ส่วนราชการก็รู้ดีไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้านอย่างเดียว’ นายชวน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่อยากให้รัฐบาลพุ่งเป้าไปที่ประเด็นว่าเด็กเหล่านี้ติดยาเสพติดใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเพราะยังไม่มีโอกาสได้พบกับพ่อแม่ของเด็กเหล่านี้ จึงไม่มีโอกาสรู้ว่ามาจากปัญหาของผู้ติดยาเสพติดจริงหรือไม่ แต่จากข้อมูลที่มีพบว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการฝึกอาวุธและปลูกฝังอุดมการณ์ให้กับคนเหล่านี้มาก คนที่มีความคิดหรืออุดมการณ์แรงๆ สามารถทำอะไรแรงๆ ได้ ดังนั้นต้องดูข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ทั้งนี้ฝ่ายข่าวก็ไม่ควรจะรีบออกมาบอกชาวบ้านให้เกิดความสับสน เมื่อถามว่ารัฐบาลระบุว่าใกล้จะจับตัวคนร้ายได้แล้ว นายชวนกล่าวว่า ได้ยินพูดทำนองนี้มาตลอด ที่ผ่านมานายกฯ ก็ออกมาพูดว่าเป็นฝีมือของนักการเมือง ซึ่งหากเป็นจริงก็ควรจับกุมเพราะตอนนี้ตัวเองเป็นรัฐบาลอยู่ และหากเป็นนักการเมืองทำจริงก็น่าจะรีบจัดการ หรือไปกลัวอะไรนักการเมืองอยู่ ตนก็คิดเหมือนกันว่ามัวแต่พูดออกมา ไม่รู้ว่าพูดแล้วรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าไม่เป็นเรื่องจริงก็กลายเป็นพูดพร่อยๆ ออกมา ถ้าพูดออกมาแล้วไม่ทำก็ถือว่าผิดปกติ
‘พรรคประชาธิปัตย์พูดมาตลอดว่านโยบายของรัฐบาลผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ที่มีนโยบายให้ฆ่าทิ้งทันทีที่รู้ว่าเป็น ขจก.ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความผิดพลาด เพราะมันไม่เหมือนกลุ่มโจรหรือกลุ่มยาเสพติด ถ้ากลุ่มที่เป็น ขจก.โดยเฉพาะชาวมุสลิมมันจะไม่จบง่ายๆ จะยิ่งขยายบานปลายออกมา ซึ่งเราบอกตั้งแต่ต้นว่าอย่าใช้วิธีนี้แต่ก็ไม่ฟัง พึ่งจะมาปรับเปลี่ยนในช่วงเดือนเศษ หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านมา 3 ปีแล้ว วันนี้ฝ่ายข่าวของรัฐบาลคงจะดีขึ้นแล้ว จึงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถป้องกันตัวเองได้ดีกว่าเดิม แต่ประเด็นผู้ก่อเหตุเป็นใครคงต้องรอส่วนราชการให้ข้อมูลก่อน และถ้าเป็นอย่างไรก็ควรจะพูดอย่างนั้น อย่าไปเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อหลีกเลี่ยงว่าไม่ใช่ความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าคนเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ถูกปลูกฝังอุดมการณ์ก็ควรจะออกมาบอกกันตรงๆ ถ้าเป็นกลุ่มติดยาเสพติดก็ต้องบอกว่าติดยา’ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30/04/47--จบ--
-สส-
นายชวนกล่าวว่า ขอยืนยันข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์เคยกล่าวว่าในช่วง 3 ปีมีการฝึกคนขึ้นมาใหม่มาก ตรงนี้รัฐบาลจะต้องมีความระมัดระวัง อย่าไปหลงประเด็นว่าคนก่อเหตุเป็นคน 2 สัญชาติ ที่ก่อเหตุแล้วหนีข้ามฟาก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยเตือนมาแล้วว่าวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้ววิ่งเข้าบ้าน ดังนั้นที่ไปตั้งสมมุติฐานเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ติดยาเสพติด ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าไม่น่ากลัว เพราะเมื่อยาหมดฤทธิ์ปัญหาก็หมดไปด้วย และกลุ่มที่ติดยาจนมึนเมาก็คงก่อเหตุอะไรไม่ได้มากนัก
‘ผมต้องย้ำเรื่องนี้เพราะกลัวว่ารัฐบาลจะหลงประเด็น ถ้าเป็นกลุ่มที่มีการฝึกอาวุธ ฝึกปฏิบัติการ และมีการปลูกฝังอุดมการณ์เรื่องการก่อกาการร้าย เรื่องรัฐปัตตานี อันนี้จะต้องระวัง เพราะมันไม่จบง่ายๆ แต่ถ้าเป็นพวกที่ติดยาเสพติดมันจะจบเร็ว แต่กลุ่มอุดมการณ์มันจะไม่จบง่ายๆ ดังนั้นอย่ามองปัญหาแบบฉายฉวย ผมเคยเตือนมาตลอดตั้งแต่ต้น ถ้าฟังกันตั้งแต่ต้น เหตุร้ายเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เขาได้ฝึกคนเอาไว้มาก การที่เราคิดว่าปัญหาเรื่องแบ่งแยกดินแดนหมดหรือเบาไปแล้ว ความจริงก็ยอมรับว่าเบาไปแล้ว แต่เขาจะใช้ช่วงเวลาที่เราประเมินสถานการณ์ว่าคนเหล่านี้ไม่มีพิษสงอะไรมาฝึกคนที่บอกว่ากระจอกขึ้นมาใหม่ การปฏิบัติการเวลานี้จึงเป็นฝีมือของคนที่เพิ่งถูกฝึกมา ดังนั้นในช่วงที่รัฐบาลคิดว่าเป็นฝีมือของโจรกระจอกจึงกลายเป็นช่วงทองของคนพวกนี้ เขาใช้เวลาในช่วงที่รัฐบาลประมาทฝึกคนขึ้นมา ส่วนราชการก็รู้ดีไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้านอย่างเดียว’ นายชวน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่อยากให้รัฐบาลพุ่งเป้าไปที่ประเด็นว่าเด็กเหล่านี้ติดยาเสพติดใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเพราะยังไม่มีโอกาสได้พบกับพ่อแม่ของเด็กเหล่านี้ จึงไม่มีโอกาสรู้ว่ามาจากปัญหาของผู้ติดยาเสพติดจริงหรือไม่ แต่จากข้อมูลที่มีพบว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการฝึกอาวุธและปลูกฝังอุดมการณ์ให้กับคนเหล่านี้มาก คนที่มีความคิดหรืออุดมการณ์แรงๆ สามารถทำอะไรแรงๆ ได้ ดังนั้นต้องดูข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ทั้งนี้ฝ่ายข่าวก็ไม่ควรจะรีบออกมาบอกชาวบ้านให้เกิดความสับสน เมื่อถามว่ารัฐบาลระบุว่าใกล้จะจับตัวคนร้ายได้แล้ว นายชวนกล่าวว่า ได้ยินพูดทำนองนี้มาตลอด ที่ผ่านมานายกฯ ก็ออกมาพูดว่าเป็นฝีมือของนักการเมือง ซึ่งหากเป็นจริงก็ควรจับกุมเพราะตอนนี้ตัวเองเป็นรัฐบาลอยู่ และหากเป็นนักการเมืองทำจริงก็น่าจะรีบจัดการ หรือไปกลัวอะไรนักการเมืองอยู่ ตนก็คิดเหมือนกันว่ามัวแต่พูดออกมา ไม่รู้ว่าพูดแล้วรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าไม่เป็นเรื่องจริงก็กลายเป็นพูดพร่อยๆ ออกมา ถ้าพูดออกมาแล้วไม่ทำก็ถือว่าผิดปกติ
‘พรรคประชาธิปัตย์พูดมาตลอดว่านโยบายของรัฐบาลผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ที่มีนโยบายให้ฆ่าทิ้งทันทีที่รู้ว่าเป็น ขจก.ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความผิดพลาด เพราะมันไม่เหมือนกลุ่มโจรหรือกลุ่มยาเสพติด ถ้ากลุ่มที่เป็น ขจก.โดยเฉพาะชาวมุสลิมมันจะไม่จบง่ายๆ จะยิ่งขยายบานปลายออกมา ซึ่งเราบอกตั้งแต่ต้นว่าอย่าใช้วิธีนี้แต่ก็ไม่ฟัง พึ่งจะมาปรับเปลี่ยนในช่วงเดือนเศษ หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านมา 3 ปีแล้ว วันนี้ฝ่ายข่าวของรัฐบาลคงจะดีขึ้นแล้ว จึงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถป้องกันตัวเองได้ดีกว่าเดิม แต่ประเด็นผู้ก่อเหตุเป็นใครคงต้องรอส่วนราชการให้ข้อมูลก่อน และถ้าเป็นอย่างไรก็ควรจะพูดอย่างนั้น อย่าไปเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อหลีกเลี่ยงว่าไม่ใช่ความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าคนเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ถูกปลูกฝังอุดมการณ์ก็ควรจะออกมาบอกกันตรงๆ ถ้าเป็นกลุ่มติดยาเสพติดก็ต้องบอกว่าติดยา’ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30/04/47--จบ--
-สส-