ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 47 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นางอัจนา
ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตร
มาสแรกของปี 47 ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่าง
แข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาปัจจัยชี้ภาวะธุรกิจอสังหาริม
ทรัพย์โดยรวม ยังไม่เห็นถึงสัญญาณความร้อนแรงที่จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าราคา
อาคารชุดที่พักอาศัยย่านธุรกิจจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมากก็ตาม (โลกวันนี้, ผู้จัดการรายวัน)
2. สภาพคล่องส่วนเกินในระบบสถาบันการเงินมีแนวโน้มลดลง นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่า
การธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงแนวโน้มสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินว่า ในอนาคต
สภาพคล่องส่วนเกินจะค่อยๆ ลดลง เนื่องจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุน
มากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อสูงขึ้น ประกอบกับมีการโยกย้ายเงินไปลงทุนในแหล่งอื่นๆ เช่น
ตลาดหลักทรัพย์และตลาดพันธบัตรมากขึ้น นอกจากนี้จากการที่รัฐบาลออก พธบ.เพื่อชดเชยความเสียหายให้กับ
กองทุนฟื้นฟูฯ ทำให้กองทุนฟื้นฟูฯ ลดความต้องการเงินในตลาดเงินและช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องส่วนเกิน
ในตลาดเงิน ซึ่งจะทำให้การดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท.ที่ส่งผ่านไปยังสถาบันการเงินมีประสิทธิภาพ
มากขึ้น (สยามรัฐ)
3. ดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อน นายธรรมนูญ เชี่ยว
สกุล รองปลัด ก.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (อัตราเงินเฟ้อ) ประจำเดือน เม.ย.47 อยู่ที่ระดับ
108.5 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.5% และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.47 โดยอัตรา
เงินเฟ้อเฉลี่ย 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ การเพิ่ม
สูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเป็นผลจากการที่ราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 1.5% ขณะที่ดัชนีราคา
สินค้าหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 104.6
ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน มี.ค.47 แต่สูงขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อนึ่ง ผอ.สำนักดัชนี
เศรษฐกิจการค้า กล่าวว่า ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นอีก ก่อนจะปรับ
ลดลงในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นแนวโน้มปกติที่เงินเฟ้อจะสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 ของแต่ละปี ตามวัฏจักรเงินเฟ้อ
(กรุงเทพธุรกิจ)
4. ดัชนีอุตสาหกรรมในเดือน มี.ค.47 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (
สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีอุตสาหกรรมในเดือน มี.ค.47 จากการสำรวจ 2,000 โรงงาน ครอบคลุม 50
กลุ่มอุตสาหกรรม พบว่า ดัชนีอุตสาหกรรมในภาพรวมอยู่ในภาวะที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยดัชนีอุตสาหกรรม 6
รายการหลัก ได้แก่ ดัชนีผลผลิต (มูลค่าเพิ่ม), ดัชนีผลผลิต (มูลค่าผลผลิต), ดัชนีการส่งสินค้า, ดัชนีอัตรา
การใช้กำลังการผลิต, ดัชนีอัตราส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง และดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่ม
ขึ้นที่ระดับ 132.05, 140.64, 140.59, 64.23, 123.71 และ 112.43 ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนี
อุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และก่อสร้าง มีการผลิตและจำหน่ายเพิ่ม
ขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีคำสั่งซื้อรถจักรยานยนต์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับปัจจัยที่จะมีผล
ต่อดัชนีอุตสาหกรรมในระยะต่อไป คือราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงค่าเงินหยวนของจีน รวมทั้ง
ราคาสินค้าทุนของภาคอุตสาหกรรมที่มีความผันผวน โดยเฉพาะราคาเหล็กที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
(ข่าวสด)
5. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้น 92.06% เมื่อเทียบกับปีก่อน
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ในเดือน เม.ย.47 มีจำนวน 625,998 คน เพิ่มขึ้น 92.06% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.46 ซึ่งเป็นช่วงที่มี
การแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ขณะที่เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.45 สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยว
ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.47 มีจำนวน 2.63 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากจำนวน 2.35 ล้านคนในปี 46 (โลกวันนี้)
6. รมว.คลังเชื่อมั่นว่าการที่จีนปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงจะไม่ส่งผลกระทบ
ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่จีนประกาศลดเป้าหมายการขยายตัวทาง
เศรษฐกิจจากเดิม 9% เหลือ 7% ว่า จากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะ
กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าเป็น
ห่วงและจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย เพราะวัตถุประสงค์ของการปรับลดเป้าหมาย
เศรษฐกิจของจีนครั้งนี้ เป็นการลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจภายในประเทศเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับ
ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อีกทั้ง อัตราการขยายตัวที่ระดับ 7% สำหรับจีนถือว่าอยู่ในระดับที่สูง เนื่องจากจีน
เป็นประเทศขนาดใหญ่
(ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตจากยุโรปและเอเชียตะวันออกเห็นว่าธุรกิจได้รับผลดีจาก
เศรษฐกิจขยายตัว รายงานจากลอนดอน เมื่อ วันที่ 3 พ.ค. 47 จากผลการสำรวจอุตสาหกรรมการผลิต
ของกิจการในยูโรโซนเมื่อเดือนที่แล้วมีความเห็นว่าเศรษฐกิจขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในรอบมากกว่า 3 ปี
โดยไม่สนใจว่าอัตราดอกเบี้ยของยูโรโซนจะลดลงอีกหรือไม่ก็ตาม สอดคล้องกับผลการสำรวจของกิจการต่างๆ
ในญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฮ่องกง ที่ส่วนใหญ่ค้าขายกับจีน และ สรอ. ซึ่งเป็นผู้นำในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
โลก ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตของสรอ. คาดว่าตัวเลขของเดือนเม.ย. จะเป็นเดือนที่ดีอีกเดือน
หนึ่งโดยผลการสำรวจจะถูกเปิดเผยในเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่ธ.กลางสรอ.
เตรียมที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อนนี้ตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันไว้ สำหรับนักการเมืองใน
12 ชาติของยูโรโซนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี และฝรั่งเศสนั้นไม่ค่อยมั่นใจนักว่าการพิจารณาปรับลด
อัตราดอกเบี้ยของธ.กลางยุโรปจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจชะงักงันได้ อย่างไรก็
ตามดัชนี PMI ของยูโรโซนซึ่งสำรวจจากกิจการ 3,000 แห่งในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นที่ระดับ 54.0 จากระดับ
53.3 ในเดือนก่อน สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 53.6 และ สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน
พ.ย. 43 ซึ่งเป็นช่วงท้ายยุคเทคโนโลยี่เฟื่องฟู อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์จาก NTC Research เห็นว่า
เศรษฐกิจของยูโรโซนได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (รอยเตอร์)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมของ สรอ.ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจากเดือนก่อน
รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 3 พ.ค.47 ดัชนีชี้วัดผลผลิตอุตสาหกรรมซึ่งเป็นผลสำรวจรายเดือนจากความเห็น
ของผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อของธุรกิจจำนวนกว่า 400 แห่ง อยู่ที่ระดับ 62.4 ในเดือน เม.ย. 47 ลดลงจากเดือน
มี.ค.47 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 62.5 หลังจากที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีที่ 63.6 เมื่อเดือน ม.ค.47 แต่
อย่างไรก็ดีตัวเลขที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นถึงการขยายตัว และนับเป็นการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเป็น
เดือนที่ 11 ติดต่อกัน แม้ว่าราคาวัตถุดิบจะสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 25 ปีก็ตาม เช่นเดียวกับภาค
การก่อสร้างที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในเดือน มี.ค. 47 ร้อยละ 1.5 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเพิ่มขึ้นร้อย
ละ 0.4 ในเดือน ก.พ. 47 ในส่วนดัชนีชี้วัดการจ้างงานก็เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันมาอยู่ที่ระดับ 57.8
ในเดือน เม.ย. 47 จากระดับ 57.0 ในเดือน มี.ค. 47 โดยอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 30
ตัวเลขดัชนีดังกล่าวข้างต้นประกอบกับราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้คาดกันว่า ธ.กลาง สรอ.จะขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 1.0 ต่ำสุดในรอบ 46 ปีเร็วกว่าที่คาดไว้ (รอยเตอร์)
3. PMI ของสิงคโปร์ในเดือน เม.ย.47 อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 รายงาน
จากสิงคโปร์ เมื่อ 3 พ.ค.47 Singapore’s Institute of Purchasing Materials Management
เปิดเผยว่า Purchasing Managers’ Index (PMI) ของสิงคโปร์ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้น 1.8 จุด
อยู่ที่ระดับ 55.2 จากเดือนก่อน ซึ่งอยู่เหนือระดับ 50 จุดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 อันเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจ
สิงคโปร์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวเลข PMI ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มสูงขึ้น
อย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์หมวดอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของ
มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 55.9 หรือเพิ่มขึ้น 2.9 จุด ซึ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
เป็นไตรมาสที่ 10 จากการที่มีคำสั่งซื้อใหม่ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการ
ผลิตเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศสิงคโปร์โดยมีสัดส่วนถึง 1 ใน 4 อันเป็นพลังขับเคลื่อน
การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในปี 47 เศรษฐกิจสิงคโปร์จะขยายตัวระหว่างร้อย
ละ 3.5-5.5 (รอยเตอร์)
4. ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ ณ สิ้นเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นจำนวน 78 ล้าน
ดอลลาร์ สรอ. เทียบต่อเดือน รายงานจากโซล เมื่อ 4 พ.ค.47 ธ.กลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ทุนสำรอง
เงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ ณ สิ้นเดือน เม.ย.47 อยู่ที่จำนวน 163.64 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. เพิ่ม
ขึ้นจากเดือนก่อนจำนวน 78 ล้านดอลลาร์ สรอ. อันเป็นผลมาจากกำไรจากการลงทุน ซึ่งถูกชดเชยไปกับการ
ลดลงของมูลค่าสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปเงินสกุลอื่น จากการแข็งขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ สรอ. (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 1/5/47 30/4/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.012 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.8089/40.0993 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1250 - 1.2500 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 648.15/20.56 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,350/7,450 7,350/7,450 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 32.97 32.89 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* ปตท.
* ปรับลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 47 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นางอัจนา
ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตร
มาสแรกของปี 47 ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่าง
แข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาปัจจัยชี้ภาวะธุรกิจอสังหาริม
ทรัพย์โดยรวม ยังไม่เห็นถึงสัญญาณความร้อนแรงที่จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าราคา
อาคารชุดที่พักอาศัยย่านธุรกิจจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมากก็ตาม (โลกวันนี้, ผู้จัดการรายวัน)
2. สภาพคล่องส่วนเกินในระบบสถาบันการเงินมีแนวโน้มลดลง นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่า
การธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงแนวโน้มสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินว่า ในอนาคต
สภาพคล่องส่วนเกินจะค่อยๆ ลดลง เนื่องจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุน
มากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อสูงขึ้น ประกอบกับมีการโยกย้ายเงินไปลงทุนในแหล่งอื่นๆ เช่น
ตลาดหลักทรัพย์และตลาดพันธบัตรมากขึ้น นอกจากนี้จากการที่รัฐบาลออก พธบ.เพื่อชดเชยความเสียหายให้กับ
กองทุนฟื้นฟูฯ ทำให้กองทุนฟื้นฟูฯ ลดความต้องการเงินในตลาดเงินและช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องส่วนเกิน
ในตลาดเงิน ซึ่งจะทำให้การดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท.ที่ส่งผ่านไปยังสถาบันการเงินมีประสิทธิภาพ
มากขึ้น (สยามรัฐ)
3. ดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อน นายธรรมนูญ เชี่ยว
สกุล รองปลัด ก.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (อัตราเงินเฟ้อ) ประจำเดือน เม.ย.47 อยู่ที่ระดับ
108.5 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.5% และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.47 โดยอัตรา
เงินเฟ้อเฉลี่ย 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ การเพิ่ม
สูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเป็นผลจากการที่ราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 1.5% ขณะที่ดัชนีราคา
สินค้าหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 104.6
ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน มี.ค.47 แต่สูงขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อนึ่ง ผอ.สำนักดัชนี
เศรษฐกิจการค้า กล่าวว่า ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นอีก ก่อนจะปรับ
ลดลงในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นแนวโน้มปกติที่เงินเฟ้อจะสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 ของแต่ละปี ตามวัฏจักรเงินเฟ้อ
(กรุงเทพธุรกิจ)
4. ดัชนีอุตสาหกรรมในเดือน มี.ค.47 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (
สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีอุตสาหกรรมในเดือน มี.ค.47 จากการสำรวจ 2,000 โรงงาน ครอบคลุม 50
กลุ่มอุตสาหกรรม พบว่า ดัชนีอุตสาหกรรมในภาพรวมอยู่ในภาวะที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยดัชนีอุตสาหกรรม 6
รายการหลัก ได้แก่ ดัชนีผลผลิต (มูลค่าเพิ่ม), ดัชนีผลผลิต (มูลค่าผลผลิต), ดัชนีการส่งสินค้า, ดัชนีอัตรา
การใช้กำลังการผลิต, ดัชนีอัตราส่วนสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง และดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่ม
ขึ้นที่ระดับ 132.05, 140.64, 140.59, 64.23, 123.71 และ 112.43 ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนี
อุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และก่อสร้าง มีการผลิตและจำหน่ายเพิ่ม
ขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีคำสั่งซื้อรถจักรยานยนต์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับปัจจัยที่จะมีผล
ต่อดัชนีอุตสาหกรรมในระยะต่อไป คือราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงค่าเงินหยวนของจีน รวมทั้ง
ราคาสินค้าทุนของภาคอุตสาหกรรมที่มีความผันผวน โดยเฉพาะราคาเหล็กที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
(ข่าวสด)
5. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้น 92.06% เมื่อเทียบกับปีก่อน
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ในเดือน เม.ย.47 มีจำนวน 625,998 คน เพิ่มขึ้น 92.06% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.46 ซึ่งเป็นช่วงที่มี
การแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ขณะที่เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.45 สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยว
ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.47 มีจำนวน 2.63 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากจำนวน 2.35 ล้านคนในปี 46 (โลกวันนี้)
6. รมว.คลังเชื่อมั่นว่าการที่จีนปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงจะไม่ส่งผลกระทบ
ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่จีนประกาศลดเป้าหมายการขยายตัวทาง
เศรษฐกิจจากเดิม 9% เหลือ 7% ว่า จากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะ
กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าเป็น
ห่วงและจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย เพราะวัตถุประสงค์ของการปรับลดเป้าหมาย
เศรษฐกิจของจีนครั้งนี้ เป็นการลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจภายในประเทศเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับ
ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อีกทั้ง อัตราการขยายตัวที่ระดับ 7% สำหรับจีนถือว่าอยู่ในระดับที่สูง เนื่องจากจีน
เป็นประเทศขนาดใหญ่
(ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตจากยุโรปและเอเชียตะวันออกเห็นว่าธุรกิจได้รับผลดีจาก
เศรษฐกิจขยายตัว รายงานจากลอนดอน เมื่อ วันที่ 3 พ.ค. 47 จากผลการสำรวจอุตสาหกรรมการผลิต
ของกิจการในยูโรโซนเมื่อเดือนที่แล้วมีความเห็นว่าเศรษฐกิจขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในรอบมากกว่า 3 ปี
โดยไม่สนใจว่าอัตราดอกเบี้ยของยูโรโซนจะลดลงอีกหรือไม่ก็ตาม สอดคล้องกับผลการสำรวจของกิจการต่างๆ
ในญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฮ่องกง ที่ส่วนใหญ่ค้าขายกับจีน และ สรอ. ซึ่งเป็นผู้นำในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
โลก ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตของสรอ. คาดว่าตัวเลขของเดือนเม.ย. จะเป็นเดือนที่ดีอีกเดือน
หนึ่งโดยผลการสำรวจจะถูกเปิดเผยในเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่ธ.กลางสรอ.
เตรียมที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อนนี้ตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันไว้ สำหรับนักการเมืองใน
12 ชาติของยูโรโซนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี และฝรั่งเศสนั้นไม่ค่อยมั่นใจนักว่าการพิจารณาปรับลด
อัตราดอกเบี้ยของธ.กลางยุโรปจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจชะงักงันได้ อย่างไรก็
ตามดัชนี PMI ของยูโรโซนซึ่งสำรวจจากกิจการ 3,000 แห่งในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นที่ระดับ 54.0 จากระดับ
53.3 ในเดือนก่อน สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 53.6 และ สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน
พ.ย. 43 ซึ่งเป็นช่วงท้ายยุคเทคโนโลยี่เฟื่องฟู อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์จาก NTC Research เห็นว่า
เศรษฐกิจของยูโรโซนได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (รอยเตอร์)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมของ สรอ.ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจากเดือนก่อน
รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 3 พ.ค.47 ดัชนีชี้วัดผลผลิตอุตสาหกรรมซึ่งเป็นผลสำรวจรายเดือนจากความเห็น
ของผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อของธุรกิจจำนวนกว่า 400 แห่ง อยู่ที่ระดับ 62.4 ในเดือน เม.ย. 47 ลดลงจากเดือน
มี.ค.47 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 62.5 หลังจากที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีที่ 63.6 เมื่อเดือน ม.ค.47 แต่
อย่างไรก็ดีตัวเลขที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นถึงการขยายตัว และนับเป็นการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเป็น
เดือนที่ 11 ติดต่อกัน แม้ว่าราคาวัตถุดิบจะสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 25 ปีก็ตาม เช่นเดียวกับภาค
การก่อสร้างที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในเดือน มี.ค. 47 ร้อยละ 1.5 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเพิ่มขึ้นร้อย
ละ 0.4 ในเดือน ก.พ. 47 ในส่วนดัชนีชี้วัดการจ้างงานก็เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันมาอยู่ที่ระดับ 57.8
ในเดือน เม.ย. 47 จากระดับ 57.0 ในเดือน มี.ค. 47 โดยอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 30
ตัวเลขดัชนีดังกล่าวข้างต้นประกอบกับราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้คาดกันว่า ธ.กลาง สรอ.จะขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 1.0 ต่ำสุดในรอบ 46 ปีเร็วกว่าที่คาดไว้ (รอยเตอร์)
3. PMI ของสิงคโปร์ในเดือน เม.ย.47 อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 รายงาน
จากสิงคโปร์ เมื่อ 3 พ.ค.47 Singapore’s Institute of Purchasing Materials Management
เปิดเผยว่า Purchasing Managers’ Index (PMI) ของสิงคโปร์ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้น 1.8 จุด
อยู่ที่ระดับ 55.2 จากเดือนก่อน ซึ่งอยู่เหนือระดับ 50 จุดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 อันเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจ
สิงคโปร์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวเลข PMI ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มสูงขึ้น
อย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์หมวดอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของ
มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 55.9 หรือเพิ่มขึ้น 2.9 จุด ซึ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
เป็นไตรมาสที่ 10 จากการที่มีคำสั่งซื้อใหม่ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการ
ผลิตเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศสิงคโปร์โดยมีสัดส่วนถึง 1 ใน 4 อันเป็นพลังขับเคลื่อน
การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในปี 47 เศรษฐกิจสิงคโปร์จะขยายตัวระหว่างร้อย
ละ 3.5-5.5 (รอยเตอร์)
4. ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ ณ สิ้นเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นจำนวน 78 ล้าน
ดอลลาร์ สรอ. เทียบต่อเดือน รายงานจากโซล เมื่อ 4 พ.ค.47 ธ.กลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ทุนสำรอง
เงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ ณ สิ้นเดือน เม.ย.47 อยู่ที่จำนวน 163.64 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. เพิ่ม
ขึ้นจากเดือนก่อนจำนวน 78 ล้านดอลลาร์ สรอ. อันเป็นผลมาจากกำไรจากการลงทุน ซึ่งถูกชดเชยไปกับการ
ลดลงของมูลค่าสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปเงินสกุลอื่น จากการแข็งขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ สรอ. (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 1/5/47 30/4/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.012 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.8089/40.0993 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1250 - 1.2500 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 648.15/20.56 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,350/7,450 7,350/7,450 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 32.97 32.89 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* ปตท.
* ปรับลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-