วันนี้(3 พ.ค.47) เวลา 09.10น. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘ข่าวยามเช้า’ ทางคลื่นวิทยุ 101.0 เมกะเฮริต์ ถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางในรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของฝ่ายค้านว่า จะมีการยื่นญัตติประมาณวันที่ 10 พ.ค.นี้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีคนใดบ้าง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ทำงานอย่างเป็นระบบ มีการแบ่งคณะทำงานออกเป็น 19 คณะเพื่อติดตามการทำงานของกระทรวงต่างๆ ซึ่งหากพบข้อทุจริตก็จะมีการกลั่นกรองในเบื้องต้น และนำมาเสนอกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อสรุปอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อยุติว่าจะเปิดอภิปรายรัฐมนตรีคนใดบ้าง ส่วนที่มีการระบุว่าจะอภิปราย 3 คนขึ้นไปนั้นก็เป็นเพียงการคาดการณ์ในเบื้องต้นของบางคณะทำงานเท่านั้น อย่างไรก็ตามคาดว่าในปลายสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปที่แน่นอน ส่วนที่นายอลงกรณ์ออกมาเปิดเผยว่ามีรมต.ที่คาดว่าจะถูกอภิปรายแน่นอนแล้วจำนวน 5 คนนั้น นายบัญญัติกล่าวว่า เป็นเพียงการสรุปข้อมูลในคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นของวิปฝ่ายค้าน ที่มีนายอลงกรณ์เป็นประธานเท่านั้น
เมื่อถามว่ากรณีของนายอดิศัยถือว่าได้ข้อยุติแล้วใช่หรือไม่ นายบัญญัติกล่าวว่า ถือว่าได้ข้อยุติเพราะมีการยื่นถอดถอนไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นประเด็นที่ยื่นถอดถอนก็จะเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ในการอภิปรายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าการถอดถอนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับเรื่องข้อสอบรั่วอย่างแน่นอน แต่จะมีประเด็นดังกล่าวในการอภิปรายหรือไม่นั้น ตนไม่ขอยืนยัน เพราะต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมจากคณะทำงานด้านการศึกษาที่มีดร.วิจิตร ศรีสอ้าน เป็นประธานรวบรวมมาให้อีกครั้งก่อน แต่ทั้งนี้ก็จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องข้อสอบรั่วเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมจับตามอง ‘นี่ไม่ได้หมายถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเด็ก แต่เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทำกัน ผมคิดว่านอกเหนือจากแสดงให้เห็นว่าระบบของเรามันแย่ถึงขนาดนั้นแล้วหรือ 40-50 ปีไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้ ทำไมมาเกิดในยุคนี้ ใครน่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบอย่างไร ผมคิดว่าตรงนั้นถือเป็นปัญหาหลักการใหญ่เหมือนกัน แต่จะพูดหรือไม่พูดก็ขึ้นอยู่กับคณะทำงานที่มีหน้าที่ติดตามเรื่องนี้โดยเฉพาะ’ นายบัญญัติกล่าว
ส่วนที่ไม่ให้อภิปรายพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 นั้น ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงกันมากคือการไปพาดพิงถึงเด็ก แต่คิดว่าอย่าเพิ่งไปวิตกกังวลเพราะพรรคประชาธิปัตย์มีหลักการว่า บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือทำให้เกิดความเสียหายก็ไม่น่ามารับผลกระทบดังกล่าว เมื่อถามถึงรายชื่อที่มีการเปิดเผยว่าจะถูกอภิปรายต่อจากนายอดิศัยว่ามีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.เกษตรฯ นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รมช.พาณิชย์นั้น นายบัญญัติกล่าวว่า เป็นเพียงความเห็นในเบื้องต้นของคณะทำงานที่มีการประมวลออกมาเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะทำงานชุดใหญ่ที่มีนายจุรินทร์เป็นประธานก่อน
ต่อข้อถามว่าจะนำการอภิปรายในครั้งที่ผ่านมาที่มีทั้งการยื่นถอดถอนและการอภิปราย มาเป็นบทเรียนในการอภิปรายครั้งนี้หรือไม่ว่าควรจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร นายบัญญัติกล่าวว่า ความจริงฝ่ายค้านก็อยากจะจำกัดให้มีการอภิปรายน้อยที่สุด แต่ปัญหาคือเมื่อคณะทำงานมีข้อมูลว่ามีการกระทำที่บกพร่องเสียหาย ในฐานะฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลเมื่อพบข้อบกพร่องดังกล่าวจะปล่อยเลยไปโดยไม่มีการคัดค้านหรือตรวจสอบ ก็ถือว่าทำบกพร่องต่อหน้าที่ ส่วนกำหนดระยะเวลาการอภิปรายนั้น นายบัญญัติกล่าวว่า ตนก็อยากได้เวลาที่มากพอสมควร เพราะจะได้นำพยานหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดที่ชัดเจนว่ามีความผิดแน่นอนมาเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ
‘ที่ผ่านมาต้องยอมรับความจริงว่าฝ่ายค้านได้เวลาค่อนข้างน้อย รัฐบาลซึ่งเป็นเสียงข้างมากเองก็พยายามจะปิดการอภิปราย ประท้วงบ้างอะไรบ้าง ก็ทำให้ลำบากใจ แต่เที่ยวนี้เห็นนายกฯพูดว่าจะให้ถึง 10 วันซึ่งท่านพูดจริงหรือไม่ เพราะท่านก็กลับไปกลับมาของท่านเรื่อย ผมก็เลยบอกว่าไม่ต้องถึง 10 หรอก 5 วันก็พอแล้ว แต่ได้มากก็ดี แต่คงหวังยาก’ นายบัญญัติกล่าว
ส่วนการอภิปรายครั้งนี้จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับฝ่ายค้านได้มากแค่ไหนนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ความจริงก็เป็นเพียงการพยายามทำหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญมอบให้ฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์เท่านั้น อย่าไปคิดมากถึงว่าการอภิปรายครั้งนี้จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง เพราะหลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายก็ไม่มีใครรู้ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือสร้างกระแสอื่นมากลบหรือไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3/05/47--จบ--
-สส-
เมื่อถามว่ากรณีของนายอดิศัยถือว่าได้ข้อยุติแล้วใช่หรือไม่ นายบัญญัติกล่าวว่า ถือว่าได้ข้อยุติเพราะมีการยื่นถอดถอนไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นประเด็นที่ยื่นถอดถอนก็จะเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ในการอภิปรายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าการถอดถอนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับเรื่องข้อสอบรั่วอย่างแน่นอน แต่จะมีประเด็นดังกล่าวในการอภิปรายหรือไม่นั้น ตนไม่ขอยืนยัน เพราะต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมจากคณะทำงานด้านการศึกษาที่มีดร.วิจิตร ศรีสอ้าน เป็นประธานรวบรวมมาให้อีกครั้งก่อน แต่ทั้งนี้ก็จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องข้อสอบรั่วเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมจับตามอง ‘นี่ไม่ได้หมายถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเด็ก แต่เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทำกัน ผมคิดว่านอกเหนือจากแสดงให้เห็นว่าระบบของเรามันแย่ถึงขนาดนั้นแล้วหรือ 40-50 ปีไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้ ทำไมมาเกิดในยุคนี้ ใครน่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบอย่างไร ผมคิดว่าตรงนั้นถือเป็นปัญหาหลักการใหญ่เหมือนกัน แต่จะพูดหรือไม่พูดก็ขึ้นอยู่กับคณะทำงานที่มีหน้าที่ติดตามเรื่องนี้โดยเฉพาะ’ นายบัญญัติกล่าว
ส่วนที่ไม่ให้อภิปรายพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 นั้น ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงกันมากคือการไปพาดพิงถึงเด็ก แต่คิดว่าอย่าเพิ่งไปวิตกกังวลเพราะพรรคประชาธิปัตย์มีหลักการว่า บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือทำให้เกิดความเสียหายก็ไม่น่ามารับผลกระทบดังกล่าว เมื่อถามถึงรายชื่อที่มีการเปิดเผยว่าจะถูกอภิปรายต่อจากนายอดิศัยว่ามีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.เกษตรฯ นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รมช.พาณิชย์นั้น นายบัญญัติกล่าวว่า เป็นเพียงความเห็นในเบื้องต้นของคณะทำงานที่มีการประมวลออกมาเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะทำงานชุดใหญ่ที่มีนายจุรินทร์เป็นประธานก่อน
ต่อข้อถามว่าจะนำการอภิปรายในครั้งที่ผ่านมาที่มีทั้งการยื่นถอดถอนและการอภิปราย มาเป็นบทเรียนในการอภิปรายครั้งนี้หรือไม่ว่าควรจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร นายบัญญัติกล่าวว่า ความจริงฝ่ายค้านก็อยากจะจำกัดให้มีการอภิปรายน้อยที่สุด แต่ปัญหาคือเมื่อคณะทำงานมีข้อมูลว่ามีการกระทำที่บกพร่องเสียหาย ในฐานะฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลเมื่อพบข้อบกพร่องดังกล่าวจะปล่อยเลยไปโดยไม่มีการคัดค้านหรือตรวจสอบ ก็ถือว่าทำบกพร่องต่อหน้าที่ ส่วนกำหนดระยะเวลาการอภิปรายนั้น นายบัญญัติกล่าวว่า ตนก็อยากได้เวลาที่มากพอสมควร เพราะจะได้นำพยานหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดที่ชัดเจนว่ามีความผิดแน่นอนมาเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ
‘ที่ผ่านมาต้องยอมรับความจริงว่าฝ่ายค้านได้เวลาค่อนข้างน้อย รัฐบาลซึ่งเป็นเสียงข้างมากเองก็พยายามจะปิดการอภิปราย ประท้วงบ้างอะไรบ้าง ก็ทำให้ลำบากใจ แต่เที่ยวนี้เห็นนายกฯพูดว่าจะให้ถึง 10 วันซึ่งท่านพูดจริงหรือไม่ เพราะท่านก็กลับไปกลับมาของท่านเรื่อย ผมก็เลยบอกว่าไม่ต้องถึง 10 หรอก 5 วันก็พอแล้ว แต่ได้มากก็ดี แต่คงหวังยาก’ นายบัญญัติกล่าว
ส่วนการอภิปรายครั้งนี้จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับฝ่ายค้านได้มากแค่ไหนนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ความจริงก็เป็นเพียงการพยายามทำหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญมอบให้ฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์เท่านั้น อย่าไปคิดมากถึงว่าการอภิปรายครั้งนี้จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง เพราะหลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายก็ไม่มีใครรู้ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือสร้างกระแสอื่นมากลบหรือไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3/05/47--จบ--
-สส-