นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘ข่าวยามเช้า’ ทางคลื่นวิทยุ 101.0 เมกะเฮิรต์ ถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในจังหวัดภาคใต้ว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาอาจจะทำให้รัฐบาลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งหลักแล้วมองเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนการตัดสินใจเฉพาะหน้าที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ ทั้งสมควรและไม่สมควรนั้น ตนไม่อยากจะไปถกเถียงกัน เพราะว่าสถานการณ์ตอนนั้นเป็นเรื่องยากที่จะประเมินว่าทางออกที่ดีที่สุดคืออะไร
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ตนอยากให้รัฐบาลเข้าใจคือ คำถามหรือการตั้งข้อสังเกตทั้งจากในประเทศและต่างประเทศเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตนคิดว่าส่วนนี้รัฐบาลจะต้องชี้แจงดังนี้คือ 1.ต้องไม่ใช้วิธีการตอบโต้หรือปฏิเสธว่าไม่ใช่ ‘เราต้องลองนึกภาพว่าถ้าเราเป็นคนนอกแล้วเห็นภาพเหล่านี้ เราจะเกิดความเข้าใจอย่างไร ตรงนี้สำคัญเพราะต้องยอมรับว่าปัญหาสถานการณ์ภาคใต้ ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจะยืนยันว่าเป็นเรื่องภายในเป็นหลัก แต่มันก็ยังมีเงื่อนไขและมีสภาวะแวดล้อม จากการเปลี่ยนแปลงในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ที่ทำให้บทบาทของต่างชาติโดยเฉพาะการก่อการร้ายสามารถที่จะมาใช้เหยื่อหรือเป็นโอกาสของเขา ผมคิดว่าการอดทนที่จะชี้แจง การแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดี แล้วก็ความยอมรับเป็นเรื่องที่สำคัญมาก’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ประการที่ 2 รัฐบาลต้องไม่ไปสรุปสาเหตุหรือปัญหาให้เป็นเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นก่อนหน้านี้พูดถึงเรื่องบุคคล 2 สัญชาติ วัยรุ่นติดยาเสพติด แล้วที่ได้ยินมากคือปัญหาเกิดจากความยากจน ซึ่งปัญหาที่แท้จริงตนคิดว่าเป็นความซับซ้อนทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และการใช้อำนาจรัฐไปเกี่ยวข้องกับปัญหาการก่อการร้าย
‘ผมเข้าใจว่าบางทีคนในรัฐบาลอาจจะต้องการพูดบางสิ่งบางอย่างเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา แต่ว่าท่านก็ควรจะที่จะสงวนคำพูดไม่ใช่จะทำให้คนเกิดความเข้าใจผิดขึ้นไปอีกว่า ว่าความเข้าใจปัญหาของท่านเป็นเพียงเท่านั้น เพราะว่าทั้งหมดมันมากระทบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะหากว่าพูดกันไปคนละครั้งก็คนละแบบ นโยบายจริงๆ ก็จะเป็นเรื่องที่มีการยากแก่ความเข้าใจและยากแก่การปฏิบัติ ซึ่งมันทำให้การแก้ปัญหาสำเร็จได้ยาก’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าถึงการตั้งกรรมการอิสระสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ อย่างไรก็ตนก็หวังว่ากรรมการชุดดังกล่าวจะทำหน้าที่อย่างอิสระตรงไปตรงมา เมื่อถามถึงการเขียนนโยบายที่มีรายละเอียดมากจะทำให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจได้ง่ายหรือไม่ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า คำสั่งนี้พยายามจะชี้ให้เห็นก็คงจะเป็นว่า มีเงื่อนไขหลายอย่างซึ่งเป็นที่มาของปัญหา แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าภาษาที่ใช้ในการเขียนนโยบาย เป็นเรื่องยากต่อการทำความเข้าใจของผู้ปฏิบัติ ซึ่งตนคิดว่าในสภาพที่นายกฯ รมว.กลาโหม หรือผู้ปฏิบัติการที่มีส่วนในการกำหนดนโยบายที่ผ่านมาพูดไม่ตรงกันแล้ว จะทำให้เป็นเอกภาพได้อย่างไร อย่างไรก็ตามคิดว่านายกฯ ต้องใช้โอกาสนี้ เพื่อตั้งหลักอีกครั้งและต้องมีความอดทนที่จะชี้แจง
‘การชี้แจงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าอย่างที่ผมได้ตั้งต้นมาว่า เราลองหลับตานึกภาพว่าเราเป็นคนที่อยู่ข้างนอก แล้วเราเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าเราจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านหรือที่เกี่ยวข้อง คือชายแดนติดต่อกันโดยตรง แล้วก็คำนึงถึงความแตกต่าง ของวัฒนธรรมของศาสนาของอะไรต่างๆ ในประเทศที่ที่เห็นภาพเหล่านี้เราต้องเข้าใจที่เดียวเลยว่ามันจะไปสร้างความรู้สึกอะไร จะไปสร้างความคิดอ่าน นะครับเราก็ต้องสามารถชี้แจงหรือไปคลี่คลายสิ่งที่จะเป็นปมที่นำไปสู่ปัญหาที่อาจจะลุกลามเพิ่มเติมได้’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6/05/47--จบ--
-สส-
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ตนอยากให้รัฐบาลเข้าใจคือ คำถามหรือการตั้งข้อสังเกตทั้งจากในประเทศและต่างประเทศเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตนคิดว่าส่วนนี้รัฐบาลจะต้องชี้แจงดังนี้คือ 1.ต้องไม่ใช้วิธีการตอบโต้หรือปฏิเสธว่าไม่ใช่ ‘เราต้องลองนึกภาพว่าถ้าเราเป็นคนนอกแล้วเห็นภาพเหล่านี้ เราจะเกิดความเข้าใจอย่างไร ตรงนี้สำคัญเพราะต้องยอมรับว่าปัญหาสถานการณ์ภาคใต้ ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจะยืนยันว่าเป็นเรื่องภายในเป็นหลัก แต่มันก็ยังมีเงื่อนไขและมีสภาวะแวดล้อม จากการเปลี่ยนแปลงในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ที่ทำให้บทบาทของต่างชาติโดยเฉพาะการก่อการร้ายสามารถที่จะมาใช้เหยื่อหรือเป็นโอกาสของเขา ผมคิดว่าการอดทนที่จะชี้แจง การแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดี แล้วก็ความยอมรับเป็นเรื่องที่สำคัญมาก’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ประการที่ 2 รัฐบาลต้องไม่ไปสรุปสาเหตุหรือปัญหาให้เป็นเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นก่อนหน้านี้พูดถึงเรื่องบุคคล 2 สัญชาติ วัยรุ่นติดยาเสพติด แล้วที่ได้ยินมากคือปัญหาเกิดจากความยากจน ซึ่งปัญหาที่แท้จริงตนคิดว่าเป็นความซับซ้อนทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และการใช้อำนาจรัฐไปเกี่ยวข้องกับปัญหาการก่อการร้าย
‘ผมเข้าใจว่าบางทีคนในรัฐบาลอาจจะต้องการพูดบางสิ่งบางอย่างเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา แต่ว่าท่านก็ควรจะที่จะสงวนคำพูดไม่ใช่จะทำให้คนเกิดความเข้าใจผิดขึ้นไปอีกว่า ว่าความเข้าใจปัญหาของท่านเป็นเพียงเท่านั้น เพราะว่าทั้งหมดมันมากระทบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะหากว่าพูดกันไปคนละครั้งก็คนละแบบ นโยบายจริงๆ ก็จะเป็นเรื่องที่มีการยากแก่ความเข้าใจและยากแก่การปฏิบัติ ซึ่งมันทำให้การแก้ปัญหาสำเร็จได้ยาก’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าถึงการตั้งกรรมการอิสระสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ อย่างไรก็ตนก็หวังว่ากรรมการชุดดังกล่าวจะทำหน้าที่อย่างอิสระตรงไปตรงมา เมื่อถามถึงการเขียนนโยบายที่มีรายละเอียดมากจะทำให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจได้ง่ายหรือไม่ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า คำสั่งนี้พยายามจะชี้ให้เห็นก็คงจะเป็นว่า มีเงื่อนไขหลายอย่างซึ่งเป็นที่มาของปัญหา แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าภาษาที่ใช้ในการเขียนนโยบาย เป็นเรื่องยากต่อการทำความเข้าใจของผู้ปฏิบัติ ซึ่งตนคิดว่าในสภาพที่นายกฯ รมว.กลาโหม หรือผู้ปฏิบัติการที่มีส่วนในการกำหนดนโยบายที่ผ่านมาพูดไม่ตรงกันแล้ว จะทำให้เป็นเอกภาพได้อย่างไร อย่างไรก็ตามคิดว่านายกฯ ต้องใช้โอกาสนี้ เพื่อตั้งหลักอีกครั้งและต้องมีความอดทนที่จะชี้แจง
‘การชี้แจงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าอย่างที่ผมได้ตั้งต้นมาว่า เราลองหลับตานึกภาพว่าเราเป็นคนที่อยู่ข้างนอก แล้วเราเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าเราจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านหรือที่เกี่ยวข้อง คือชายแดนติดต่อกันโดยตรง แล้วก็คำนึงถึงความแตกต่าง ของวัฒนธรรมของศาสนาของอะไรต่างๆ ในประเทศที่ที่เห็นภาพเหล่านี้เราต้องเข้าใจที่เดียวเลยว่ามันจะไปสร้างความรู้สึกอะไร จะไปสร้างความคิดอ่าน นะครับเราก็ต้องสามารถชี้แจงหรือไปคลี่คลายสิ่งที่จะเป็นปมที่นำไปสู่ปัญหาที่อาจจะลุกลามเพิ่มเติมได้’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6/05/47--จบ--
-สส-