กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
2547 เป็นต้นไป สหภาพยุโรป (อียู) ได้ขยายจำนวนสมาชิกจาก 15 ประเทศ เป็น 25 ประเทศ โดย
สมาชิกใหม่จำนวน 10 ประเทศ ประกอบด้วย ไซปรัส เช็ค เอสโทเนีย ฮังการี ลัตเวีย ลิธัวเนีย มอลตา
โปแลนด์ สโลวัก และสโลวีเนีย ส่วนสมาชิกเดิม ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส
เยอรมนี กรีซ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สเปน สวีเดน และอังกฤษ
การเพิ่มจำนวนสมาชิกของอียูในครั้งนี้ ส่งผลให้สินค้าส่วนใหญ่ที่ไทยส่งออกไปขายใน 10 ประเทศ
สมาชิกใหม่เสียภาษีต่ำลง ได้แก่ รถแวน รถปิคอัพ อุปกรณ์ไฟฟ้า ชุดชั้นใน แต่สินค้าบางชนิด ได้แก่ ข้าว ปลา
กระป๋อง ผลไม้กระป๋อง จะต้องเสียภาษีสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศสมาชิกใหม่จะต้องหันมาใช้กฎ
ระเบียบ มาตรการเดียวกับอียู การขยายสมาชิกภาพครั้งนี้จึงน่าจะมีผลทำให้การค้าในประเทศเหล่านั้นขยาย
ตัวมากขึ้น และมีการนำเข้าสินค้าไทยมากขึ้น โดยขณะนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
กำลังเปิดรับความคิดเห็นจากภาคเอกชนเพื่อนำมาประกอบการเจรจาขอชดเชยผลกระทบจากการขยายสมาชิก
ของอียู
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวร
นิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-สส-