เกษตรกรภาคเหนือสนับสนุนเปิด FTA...ได้อานิสงค์!! ส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 11, 2004 10:36 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          นางอภิรดี  ตันตราภรณ์  อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  เปิดเผยถึงผลการจัดสัมมนา
และประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การเจรจาสินค้าเกษตรภายใต้ WTO และ FTA” ในภาคเหนือ 17 จังหวัด
เมื่อเร็วๆนี้ ณ โรงแรมไพลิน จังหวัดพิษณุโลก ว่า ที่ประชุมซึ่งประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกร ชุมนุมสหกรณ์
หอการค้าจังหวัด เจ้าหน้าที่ภาครัฐจากกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งในส่วนกลางและ
ภาคเหนือ ประมาณ 150 คน ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดเสรีสินค้าเกษตรของภาคเหนือ ภายใต้
การเจรจาขององค์การการค้าโลก (WTO) โดยได้สนับสนุนการลดเลิกภาษีนำเข้าและปริมาณโควตา ลดการ
อุดหนุนการผลิตภายในที่รัฐให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร และยกเลิกการอุดหนุนส่งออกซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำ
ให้ตลาดโลกตกต่ำ สำหรับในส่วนของการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีนั้น แม้ว่าเกษตรกรไทยจะสนับสนุนการ
เปิดเสรี แต่ก็มีสินค้าบางรายการ ได้แก่ สินค้าปศุสัตว์ รวมทั้งสินค้านมและผลิตภัณฑ์ข้าวโพด และน้ำตาล ที่
ต้องการระยะเวลาปรับตัวอีกระยะหนึ่งเพื่อให้มีความพร้อมก่อนการเปิดเสรีเต็มรูปแบบต่อไป
นางอภิรดี กล่าวต่อไปด้วยว่า เกษตกรและผู้เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรในภาคเหนือยังได้เสนอแนะ
ความต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาล ที่สำคัญได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต การสร้างตราสินค้าให้ผลิตภัณฑ์
สินค้าเกษตรไทย การเสนอข้อมูลข่าวสารด้านราคา และการลดขั้นตอนการปฏิบัติในการดำเนินมาตรการต่างๆ
ลง ทั้งนี้ เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีความสามารถในการผลิตสินค้าเพื่อขายแข่งขันในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น
นางอภิรดี ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้ประเมินผลการ
สัมมนาจากแบบสอบถาม พบว่า ผู้เข้าร่วมสัมมนาร้อยละ 94 เห็นด้วยว่าการเจรจาเปิดเสรีการค้าเกษตรจะ
ช่วยให้การส่งออกสินค้าเกษตรขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยมากกว่าร้อยละ 75 เห็นว่าสินค้าเกษตรของไทยมี
ศักยภาพในการแข่งขันและพร้อมที่จะแข่งขันในตลาดโลกได้ และร้อยละ 88 เห็นว่าไทยควรผลักดันการเจรจา
เปิดเสรีสินค้าเกษตรต่อไป ผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ ร้อยละ 55 ให้ความสำคัญกับการเจรจาลดภาษีและ
ขยายโควตาภาษีเป็นลำดับแรก ในขณะที่ร้อยละ 26.87 และร้อยละ 20 ให้ความสำคัญกับการเจรจาลดการ
อุดหนุนภายในและการอุดหนุนส่งออก ตามลำดับ ในขณะที่ต้องการให้ประเทศกำลังพัฒนาได้สิทธิในเรื่องความ
ยืดหยุ่นและข้อยกเว้นเป็นพิเศษเพียงร้อยละ 14.9“
นางอภิรดี กล่าวด้วยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะนำผลที่ได้จากการสัมมนาในครั้งนี้ไป
ประมวรวมกับผลสรุปการสัมมนาที่จะจัดขึ้นอีก 3 ภาค ในปีนี้ คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนพฤษภาคม
ภาคกลางในเดือนมิถุนายน และภาคใต้ในเดือนกรกฎาคม เพื่อนำเสนอต่อระดับนโยบายในการกำหนดเป็นท่า
ทีการเจรจาของไทยในการเจรจาสินค้าเกษตรรอบใหม่ภายใต้ WTO และ FTA เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อภาค
การเกษตรและพี่น้องเกษตรกรของไทยต่อไป
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวร
นิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ