วันนี้ (11 พ.ค. 47) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมวิปฝ่ายค้าน อาคารรัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) โดยมีนายสุภาพ คลี่ขจาย และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนาเข้าร่วมประชุมด้วย
ซึ่งภายหลังการประชุมนายสุภาพ คลี่ขจาย แถลงว่า ได้นำรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคชาติพัฒนา จำนวน 29 คน มามอบให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อร่วมลงชื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งรายชื่อทั้งหมดถือว่าครบถ้วน ส่วนที่มีเพียง 29 รายชื่อ เนื่องจากนายบรรจง พงษ์ศาสตร์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่เลื่อนลำดับมาแทนนางปวีณา หงสกุล ที่ลาออกไปนั้น ยังไม่ได้รายงานตัวและยังไม่ได้สาบานตน จึงยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ส่วนรายชื่อถอดถอนรัฐมนตรีนั้นจะมีตามมาภายหลัง เนื่องจากยังหารือกันไม่เด็ดขาด
อย่างไรก็ตามนายสุภาพยืนยันว่าการมอบรายชื่อครั้งนี้จะไม่มีปัญหา เพราะเป็นมติของพรรค ดังนั้นจะไม่มีการถอนชื่อภายหลังอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ยังยืนยันด้วยว่ายินดีจะปฏิบัติงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเป็นพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้พรรคชาติพัฒนาจะร่วมอภิปราย และเสนอรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายด้วย ทั้งนี้ยังไม่เปิดเผยรายชื่อรัฐมนตรีที่เสนอเพิ่มเติม แต่ส่วนใหญ่จะตรงกับรายชื่อที่เห็นตามข่าวหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นการเสนอเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้พิจารณาหากมีรายชื่อไม่ตรงกัน และจะนำกลับมาหารือในวิปฝ่ายค้านเพื่อสรุปร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
นายนริศ ขำนุรักษ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ใน คณะกรรมการวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านถูกรัฐบาลคุกคามและสกัดกั้นไม่ให้ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ โดยมีการฟ้องประธานวิปฝ่ายค้าน ทั้งที่ประธานวิปฝ่ายค้านทำหน้าที่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเป็นการทำหน้าที่ตามธรรมเนียมที่มีการปฏิบัติมาโดยตลอด เป็นการสร้างข่าวเพื่อทำลายน้ำหนักการอภิปราย รวมถึงการเลื่อนการแถลงผลงานของรัฐบาลให้มาติดกับการอภิปราย ซึ่งถือเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการทำหน้าที่ของวิปฝ่ายค้าน และเห็นว่าการฟ้องประธานวิปฝ่ายค้านของนายสุนัย จุลพงศธรนั้น เป็นการฟ้องเพื่อแก้เกี้ยวเท่านั้น
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าจะมีรัฐมนตรีถูกถอดถอนเพิ่มเติม 1 คน โดยจะยื่นถอดถอนในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นยังพอมีเวลาพิจารณาจนถึงเย็นนี้ ว่าจะมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะแถลงผลงานในวันที่ 19 พ.ค. 47 ซึ่งจะใกล้กับวันอภิปรายนั้น นายจุรินทร์เห็นว่า รัฐบาลตั้งใจจะทำให้เป็นปัญหา แต่ฝ่ายค้านก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในฐานะของคนที่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แม้ว่าจะต้องอภิปรายในสัปดาห์ที่ต่อเนื่องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ตาม ทั้งนี้ได้ย้ำให้รัฐบาลรักษาคำพูด โดยเฉพาะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้เต็มที่ ก็ต้องรักษาคำพูดนั้น และต้องไม่ใช้ความเป็นผู้มีเสียงข้างมากในสภาปิดการอภิปรายหรือสกัดการอภิปราย จนทำให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้นจึงไม่ควรจำกัดเรื่องเวลา อย่างไรก็ตามฝ่ายค้านจะไม่ใช้เวลาโดยไม่จำเป็น เพราะสามารถควบคุมประเด็นได้ และไม่มีความประสงค์ที่จะให้การอภิปรายเยิ่นเย้อ เพียงแต่รัฐบาลต้องเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายครบทุกประเด็น
‘วิปรัฐบาลต้องไม่ไปกะเกณฑ์ไว้เบื้องต้นก่อนว่าแค่ 2 วัน 3 วัน ถ้า 3 วันจริงก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่จบประเด็นก็ต้องให้เป็นไปตามความเป็นจริง ความจริงท่านนายกฯให้ไว้ 10 วันด้วยซ้ำ แต่เราคงใช้ไม่ถึงแน่นอน เพราะไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น แต่อยากให้รัฐบาลรักษาคำพูด โดยขอให้เป็นไปตามความเป็นจริง และรัฐบาลต้องไม่พยายามแสดงอะไรที่ทำให้การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านมีปัญหาอุปสรรค การไปล็อคว่าจะให้อภิปรายกี่วันก็ชี้ชัดแล้วว่าพยายามที่จะทำให้มีอุปสรรค’ นายจุรินทร์กล่าว
ทั้งนี้นายจุรินทร์ปฏิเสธข่าวที่มีการล็อบบี้จากคนในรัฐบาลเพื่อไม่ให้มีการอภิปรายรัฐมนตรีบางคนว่า ไม่เป็นความจริง เพราะในส่วนของคณะทำงานของพรรคฯ ได้ตัดสินใจทุกอย่างตามความเหมาะสม โดยไม่มีใครเข้ามาสั่งการว่าจะอภิปรายใคร ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการทำงานที่ตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11/05/47--จบ--
-สส-
ซึ่งภายหลังการประชุมนายสุภาพ คลี่ขจาย แถลงว่า ได้นำรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคชาติพัฒนา จำนวน 29 คน มามอบให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อร่วมลงชื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งรายชื่อทั้งหมดถือว่าครบถ้วน ส่วนที่มีเพียง 29 รายชื่อ เนื่องจากนายบรรจง พงษ์ศาสตร์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่เลื่อนลำดับมาแทนนางปวีณา หงสกุล ที่ลาออกไปนั้น ยังไม่ได้รายงานตัวและยังไม่ได้สาบานตน จึงยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ส่วนรายชื่อถอดถอนรัฐมนตรีนั้นจะมีตามมาภายหลัง เนื่องจากยังหารือกันไม่เด็ดขาด
อย่างไรก็ตามนายสุภาพยืนยันว่าการมอบรายชื่อครั้งนี้จะไม่มีปัญหา เพราะเป็นมติของพรรค ดังนั้นจะไม่มีการถอนชื่อภายหลังอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ยังยืนยันด้วยว่ายินดีจะปฏิบัติงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเป็นพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้พรรคชาติพัฒนาจะร่วมอภิปราย และเสนอรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายด้วย ทั้งนี้ยังไม่เปิดเผยรายชื่อรัฐมนตรีที่เสนอเพิ่มเติม แต่ส่วนใหญ่จะตรงกับรายชื่อที่เห็นตามข่าวหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นการเสนอเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้พิจารณาหากมีรายชื่อไม่ตรงกัน และจะนำกลับมาหารือในวิปฝ่ายค้านเพื่อสรุปร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
นายนริศ ขำนุรักษ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ใน คณะกรรมการวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านถูกรัฐบาลคุกคามและสกัดกั้นไม่ให้ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ โดยมีการฟ้องประธานวิปฝ่ายค้าน ทั้งที่ประธานวิปฝ่ายค้านทำหน้าที่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเป็นการทำหน้าที่ตามธรรมเนียมที่มีการปฏิบัติมาโดยตลอด เป็นการสร้างข่าวเพื่อทำลายน้ำหนักการอภิปราย รวมถึงการเลื่อนการแถลงผลงานของรัฐบาลให้มาติดกับการอภิปราย ซึ่งถือเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการทำหน้าที่ของวิปฝ่ายค้าน และเห็นว่าการฟ้องประธานวิปฝ่ายค้านของนายสุนัย จุลพงศธรนั้น เป็นการฟ้องเพื่อแก้เกี้ยวเท่านั้น
ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าจะมีรัฐมนตรีถูกถอดถอนเพิ่มเติม 1 คน โดยจะยื่นถอดถอนในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นยังพอมีเวลาพิจารณาจนถึงเย็นนี้ ว่าจะมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะแถลงผลงานในวันที่ 19 พ.ค. 47 ซึ่งจะใกล้กับวันอภิปรายนั้น นายจุรินทร์เห็นว่า รัฐบาลตั้งใจจะทำให้เป็นปัญหา แต่ฝ่ายค้านก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในฐานะของคนที่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แม้ว่าจะต้องอภิปรายในสัปดาห์ที่ต่อเนื่องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ตาม ทั้งนี้ได้ย้ำให้รัฐบาลรักษาคำพูด โดยเฉพาะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้เต็มที่ ก็ต้องรักษาคำพูดนั้น และต้องไม่ใช้ความเป็นผู้มีเสียงข้างมากในสภาปิดการอภิปรายหรือสกัดการอภิปราย จนทำให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้นจึงไม่ควรจำกัดเรื่องเวลา อย่างไรก็ตามฝ่ายค้านจะไม่ใช้เวลาโดยไม่จำเป็น เพราะสามารถควบคุมประเด็นได้ และไม่มีความประสงค์ที่จะให้การอภิปรายเยิ่นเย้อ เพียงแต่รัฐบาลต้องเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายครบทุกประเด็น
‘วิปรัฐบาลต้องไม่ไปกะเกณฑ์ไว้เบื้องต้นก่อนว่าแค่ 2 วัน 3 วัน ถ้า 3 วันจริงก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่จบประเด็นก็ต้องให้เป็นไปตามความเป็นจริง ความจริงท่านนายกฯให้ไว้ 10 วันด้วยซ้ำ แต่เราคงใช้ไม่ถึงแน่นอน เพราะไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น แต่อยากให้รัฐบาลรักษาคำพูด โดยขอให้เป็นไปตามความเป็นจริง และรัฐบาลต้องไม่พยายามแสดงอะไรที่ทำให้การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านมีปัญหาอุปสรรค การไปล็อคว่าจะให้อภิปรายกี่วันก็ชี้ชัดแล้วว่าพยายามที่จะทำให้มีอุปสรรค’ นายจุรินทร์กล่าว
ทั้งนี้นายจุรินทร์ปฏิเสธข่าวที่มีการล็อบบี้จากคนในรัฐบาลเพื่อไม่ให้มีการอภิปรายรัฐมนตรีบางคนว่า ไม่เป็นความจริง เพราะในส่วนของคณะทำงานของพรรคฯ ได้ตัดสินใจทุกอย่างตามความเหมาะสม โดยไม่มีใครเข้ามาสั่งการว่าจะอภิปรายใคร ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการทำงานที่ตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11/05/47--จบ--
-สส-