การลงทุนภาคเอกชน ปี 2546 ภาวะการลงทุนของภาคเอกชนในภาคเหนือขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่องจากปีก่อน ปัจจัยที่ทำให้การลงทุนขยายตัว ได้แก่ การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำ และการแข่งขันให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน ทำให้พื้นที่ก่อสร้างรับอนุญาตและสินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวต่อเนื่อง ทางด้านการลงทุนเพื่อการผลิตปรับตัวดีขึ้นตามการผลิตเพื่อการส่งออกเป็นสำคัญ โดยมีรายละเอียดเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่สำคัญดังนี้
พื้นที่ก่อสร้างรับอนุญาตในเขตเทศบาล ขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่องจากปีก่อนตามความต้องการที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของการก่อสร้างโรงแรมและหอพัก สืบเนื่องจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ โดยพื้นที่ก่อสร้างรับอนุญาตในภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 37.7 เป็น 1,370,790 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นมากในหมวดที่อยู่อาศัยร้อยละ 49.6 เป็น 680,799 ตารางเมตร หมวดพาณิชยกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.4 เป็น 334,775 ตารางเมตร และหมวดบริการและขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.8 เป็น 269,080 ตารางเมตร ทั้งนี้เป็นการเพิ่มขึ้นในทุกจังหวัด
ค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดิน ขยายตัวในอัตราเร่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีค่อนข้างสูงประกอบกับมีการเร่งทำธุรกิจกรรมการโอน เนื่องจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐจะสิ้นสุดในปี 2546 โดยมีจำนวนรายเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.5 เป็น 55,709 ราย เทียบกับเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 เป็น 42,029 ราย ระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.4 เป็น 442.3 ล้านบาท เร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.5 เป็น 302.0 ล้านบาท ระยะเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้เป็นการเพิ่มขึ้นในทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ ลำปาง และพิษณุโลก
การจดทเบียนโรงงานอุตสาหกรรม ปี 2546 มีโรงงานจดทะเบียนตั้งใหม่จำนวนโรงงาน 608 โรงงานมีเงินลงทุน 5,501.3 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับ 676 โรงงาน เงินลงทุน 9,160.1 ล้านบาท ปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีเงินลงทุนไม่เกิน 70 ล้านบาท ส่วนโรงงานขนาดใหญ่ที่มีเงินลงทุนเกินกว่า 100 ล้านบาท ได้แก่ โรงงานผลิตภัณฑ์เครื่องประดับอัญมณีโรงสีข้าวและอบเมล็ดพืช คอนกรีตผสมเสร็จ และผลิตภัณฑ์กระดาษ
กิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน มีทั้งสิ้น 54 โครงการ เงินลงทุน 7,063.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่าเท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในหมวดเกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตรหมวดอุตสาหกรรมเบา หมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องไฟฟ้า หมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์การขนส่ง สำหรับกิจการที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงได้แก่ กิจกาารผลิตเยื่อกระดาษที่จังหวัดนครสวรรค์ เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท และกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าที่จัดหวัดพิจิตรเงินลงทุน 1,366.3 ทั้งนี้การลงทุนส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของภาคและจังหวัดที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน นครสวรรค์ และพิษณุโลก
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
พื้นที่ก่อสร้างรับอนุญาตในเขตเทศบาล ขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่องจากปีก่อนตามความต้องการที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของการก่อสร้างโรงแรมและหอพัก สืบเนื่องจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ โดยพื้นที่ก่อสร้างรับอนุญาตในภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 37.7 เป็น 1,370,790 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นมากในหมวดที่อยู่อาศัยร้อยละ 49.6 เป็น 680,799 ตารางเมตร หมวดพาณิชยกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.4 เป็น 334,775 ตารางเมตร และหมวดบริการและขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.8 เป็น 269,080 ตารางเมตร ทั้งนี้เป็นการเพิ่มขึ้นในทุกจังหวัด
ค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดิน ขยายตัวในอัตราเร่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีค่อนข้างสูงประกอบกับมีการเร่งทำธุรกิจกรรมการโอน เนื่องจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐจะสิ้นสุดในปี 2546 โดยมีจำนวนรายเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.5 เป็น 55,709 ราย เทียบกับเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 เป็น 42,029 ราย ระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.4 เป็น 442.3 ล้านบาท เร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.5 เป็น 302.0 ล้านบาท ระยะเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้เป็นการเพิ่มขึ้นในทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ ลำปาง และพิษณุโลก
การจดทเบียนโรงงานอุตสาหกรรม ปี 2546 มีโรงงานจดทะเบียนตั้งใหม่จำนวนโรงงาน 608 โรงงานมีเงินลงทุน 5,501.3 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับ 676 โรงงาน เงินลงทุน 9,160.1 ล้านบาท ปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีเงินลงทุนไม่เกิน 70 ล้านบาท ส่วนโรงงานขนาดใหญ่ที่มีเงินลงทุนเกินกว่า 100 ล้านบาท ได้แก่ โรงงานผลิตภัณฑ์เครื่องประดับอัญมณีโรงสีข้าวและอบเมล็ดพืช คอนกรีตผสมเสร็จ และผลิตภัณฑ์กระดาษ
กิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน มีทั้งสิ้น 54 โครงการ เงินลงทุน 7,063.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่าเท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นกิจการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในหมวดเกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตรหมวดอุตสาหกรรมเบา หมวดอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องไฟฟ้า หมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์การขนส่ง สำหรับกิจการที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงได้แก่ กิจกาารผลิตเยื่อกระดาษที่จังหวัดนครสวรรค์ เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท และกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าที่จัดหวัดพิจิตรเงินลงทุน 1,366.3 ทั้งนี้การลงทุนส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของภาคและจังหวัดที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน นครสวรรค์ และพิษณุโลก
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--