ภาพรวมมูลค่าสินค้าส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือปี 2546 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 20.9 เป็น 1,678.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการส่งออกผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน เร่งตัวจากปีก่อน และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพรวมการส่งออกของภาคเหนือขยายตัว ขณะที่การส่งออกผ่านชายแดนมีอัตราการเพิ่มขึ้นในระดับสูง แต่เป็นผลจากในปีนี้ไม่มีอุปสรรคทางการค้าเช่นปีก่อน ด้านมูลค่าการนำเข้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือปี 2546 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 เป็น 1,115.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นมากจากการนำเข้าโดยโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ส่วนการนำเข้าผ่านด่านศุลกากรชายแดนเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าสินค้าจากจีนตอนใต้เป็นสำคัญ ดุลการค้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือในปี 2546 เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.5 เป็น 563.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. ชะลอจากปีก่อน ตามการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน รายละเอียดดังนี้
การค้าผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือและท่าอากาศยานเชียงใหม่
การส่งออกผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 เป็น 1,266.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามอุปสงค์ตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและภาวะเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออก ในช่วงไตรมาสสามและไตรมาสสี่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกขยายตัวมาก ได้แก่ อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา เกมของเล่นและอุปกรณ์กีฬา ทรานสฟอร์เมอร์และมอเตอร์ อัญมนี และอุปกรณ์ถ่ายภาพ ประเทศผู้นำเข้าสำคัญ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ จีนและมาเลเซีย การส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้โรงงานนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรเพิ่มขึ้น มูลค่านำเข้าสินค้าผ่านด่านนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.6 เป็น 1,044.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. การมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดุลการค้าผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนโดยเกินดุล 222.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. ด้านการส่งออกผ่านด่านศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่ (รวมทางเรือ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 เป็น 143.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกขยายตัวมาก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปและแช่แข็ง เครื่องตัดต่อวงจรไฟฟ้า เกมและของเล่น เป็นต้น ตามอุปสงค์ในต่างประเทศที่ขยายตัว ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่าไม่สูงนักและลดลงจากปีก่อนร้อยละ 10.6 เหลือ 13.7 ล้านดอลลาร์ สรอ.
การค้าผ่านด่านศุลกากรชายแดน
การส่งออกผ่านชายแดน ในปี 2546 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 59.7 เป็น 268.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกไปพม่าเป็นสำคัญ ส่วนการส่งออกไปจีนตอนใต้อยู่ในเกณฑ์ขยายตัว ขณะที่การส่งออกไปลาวอยู่ในเกณฑ์หดตัว มูลค่าการส่งออกไปพม่าโดยรวมในปี 2546 เพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัวเป็นมูลค่า 181.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากไม่มีอุปสรรคทางการค้าเช่นปีก่อน ถึงแม้ว่าในบางช่วงเกิดปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทำให้ทางการพม่ามีการตรวจสอบการขนส่งสินค้าระหว่างทางอย่างเข้มงวด การขนส่งสินค้ามีความยากลำบากและมีต้นทุนสูงขึ้นก็ตาม สินค้าที่พม่ามีความต้องการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ได้แก่ สินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างและน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนสินค้าส่งออกอื่น ๆ ที่สำคัญเป็นสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค เช่น ผงชูรส น้ำมันพืช โทรทัศน์ ยารักษาโรค รองเท้าแตะ ผ้าฝ้ายทอ เป็นต้น ส่วนการส่งออกไปลาวลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.7 เหลือ 13.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากลาวเก็บภาษีนำเข้าค่อนข้างสูง ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น สำหรับการส่งออกไปจีน
(ตอนใต้) ยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ถึงแม้ว่าปลายปี 2545 จนถึงเดือนเมษายน 2546 ทางการจีนได้ประกาศหยุดการเดินเรือ ในแม่น้ำโขงครั้งละ 3 วัน และเปิดเดินเรือเพียง 1 วัน เพื่อปรับปรุงร่องน้ำ ประกอบกับทางการมีการตรวจสอบสินค้านำเข้าจากไทยอย่างเข้มงวด ทำให้การค้าในช่วงครึ่งแรกของปีหดตัว มูลค่าการส่งออกรวมในปี 2546 ยังคงเพิ่มขึ้นร้อยละ17.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็น 74.6 ล้านดอลลาร์ สรอ.จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการส่งออกลำไยอบแห้งซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 80 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากปีนี้ไม่มีการออกมาตรการรับจำนำลำไยอบแห้งตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ลำไยอบแห้ง ยางแผ่นรมควัน ยางรถยนต์ และชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง เป็นต้น
การนำเข้าผ่านชายแดน ในปี 2546 มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 57.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 44.5 โดยเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าจากจีนตอนใต้เป็นสำคัญ หลังจากที่มีการลดภาษีผักและผลไม้ ระหว่างกันเหลือร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546
มูลค่าการนำเข้าจากพม่าในปี 2546 เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 เป็น 23.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ อาหารทะเล อัญมณี โค-กระบือมีชีวิต และสินค้าเกษตร เป็นต้น อย่างไรก็ดีการนำเข้าสินค้าโค-กระบือมีชีวิตยังอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องจากปัญหาภายในของพม่า ส่วนการนำเข้าสินค้าจากลาวในปี 2546 ยังลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 30.2 เหลือ 7.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากทางการลาวมีมาตรการเข้มงวดการส่งออกสินค้าประเภทวัตถุดิบและส่งเสริมการส่งออก สินค้าสำเร็จรูปมากขึ้น ทำให้ปริมาณสินค้านำเข้าสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าประเภทไม้แปรรูปลดลง
สำหรับการนำเข้าจากจีน(ตอนใต้) ตั้งแต่ปลายไตมาสที่ 3 มูลค่าการนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากช่วงเริ่มต้นฤดูกาลของสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ แอปเปิล และสาลี่ รวมทั้งการประกาศลดภาษีผักและผลไม้ ระหว่างไทยกับจีนเหลือร้อยละ 0 ทำให้การนำเข้าโดยรวมในปี 2546 เพิ่มขึ้นเป็น 26.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. จาก 10.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในปีก่อน สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ แอปเปิล สาลี่ ไม้สัก กระเทียม และเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ทั้งนี้เป็นผลของความตกลงเร่งลดภาษีผักและผลไม้ระหว่างไทย-จีน(Early Harvest) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546 ส่งผลให้การค้าในหมวดผักและผลไม้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมอยู่ในเกณฑ์ขยายตัว โดยการนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่าตัวเป็น 8.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขณะที่การส่งออกอยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับปีก่อนเป็น 16.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้การค้าโดยรวมไตรมาสที่ 4 ยังคงเกินดุล 8.3 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ภาพรวมดุลการค้าผ่านด่านศุลกากรชายแดนในภาคเหนือปี 2546 เกินดุลเพิ่มขึ้นเป็น 211.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับปีก่อนที่เกินดุล 128.9 ล้านดอลลาร์ สรอ.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
การค้าผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือและท่าอากาศยานเชียงใหม่
การส่งออกผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 เป็น 1,266.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามอุปสงค์ตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและภาวะเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออก ในช่วงไตรมาสสามและไตรมาสสี่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกขยายตัวมาก ได้แก่ อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา เกมของเล่นและอุปกรณ์กีฬา ทรานสฟอร์เมอร์และมอเตอร์ อัญมนี และอุปกรณ์ถ่ายภาพ ประเทศผู้นำเข้าสำคัญ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ จีนและมาเลเซีย การส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้โรงงานนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรเพิ่มขึ้น มูลค่านำเข้าสินค้าผ่านด่านนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.6 เป็น 1,044.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. การมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดุลการค้าผ่านด่านศุลกากรนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนโดยเกินดุล 222.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. ด้านการส่งออกผ่านด่านศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่ (รวมทางเรือ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 เป็น 143.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกขยายตัวมาก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปและแช่แข็ง เครื่องตัดต่อวงจรไฟฟ้า เกมและของเล่น เป็นต้น ตามอุปสงค์ในต่างประเทศที่ขยายตัว ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่าไม่สูงนักและลดลงจากปีก่อนร้อยละ 10.6 เหลือ 13.7 ล้านดอลลาร์ สรอ.
การค้าผ่านด่านศุลกากรชายแดน
การส่งออกผ่านชายแดน ในปี 2546 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 59.7 เป็น 268.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกไปพม่าเป็นสำคัญ ส่วนการส่งออกไปจีนตอนใต้อยู่ในเกณฑ์ขยายตัว ขณะที่การส่งออกไปลาวอยู่ในเกณฑ์หดตัว มูลค่าการส่งออกไปพม่าโดยรวมในปี 2546 เพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัวเป็นมูลค่า 181.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากไม่มีอุปสรรคทางการค้าเช่นปีก่อน ถึงแม้ว่าในบางช่วงเกิดปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทำให้ทางการพม่ามีการตรวจสอบการขนส่งสินค้าระหว่างทางอย่างเข้มงวด การขนส่งสินค้ามีความยากลำบากและมีต้นทุนสูงขึ้นก็ตาม สินค้าที่พม่ามีความต้องการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ได้แก่ สินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างและน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนสินค้าส่งออกอื่น ๆ ที่สำคัญเป็นสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค เช่น ผงชูรส น้ำมันพืช โทรทัศน์ ยารักษาโรค รองเท้าแตะ ผ้าฝ้ายทอ เป็นต้น ส่วนการส่งออกไปลาวลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.7 เหลือ 13.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากลาวเก็บภาษีนำเข้าค่อนข้างสูง ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น สำหรับการส่งออกไปจีน
(ตอนใต้) ยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ถึงแม้ว่าปลายปี 2545 จนถึงเดือนเมษายน 2546 ทางการจีนได้ประกาศหยุดการเดินเรือ ในแม่น้ำโขงครั้งละ 3 วัน และเปิดเดินเรือเพียง 1 วัน เพื่อปรับปรุงร่องน้ำ ประกอบกับทางการมีการตรวจสอบสินค้านำเข้าจากไทยอย่างเข้มงวด ทำให้การค้าในช่วงครึ่งแรกของปีหดตัว มูลค่าการส่งออกรวมในปี 2546 ยังคงเพิ่มขึ้นร้อยละ17.0 จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็น 74.6 ล้านดอลลาร์ สรอ.จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการส่งออกลำไยอบแห้งซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 80 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากปีนี้ไม่มีการออกมาตรการรับจำนำลำไยอบแห้งตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ลำไยอบแห้ง ยางแผ่นรมควัน ยางรถยนต์ และชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง เป็นต้น
การนำเข้าผ่านชายแดน ในปี 2546 มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 57.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 44.5 โดยเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าจากจีนตอนใต้เป็นสำคัญ หลังจากที่มีการลดภาษีผักและผลไม้ ระหว่างกันเหลือร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546
มูลค่าการนำเข้าจากพม่าในปี 2546 เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 เป็น 23.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ อาหารทะเล อัญมณี โค-กระบือมีชีวิต และสินค้าเกษตร เป็นต้น อย่างไรก็ดีการนำเข้าสินค้าโค-กระบือมีชีวิตยังอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องจากปัญหาภายในของพม่า ส่วนการนำเข้าสินค้าจากลาวในปี 2546 ยังลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 30.2 เหลือ 7.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากทางการลาวมีมาตรการเข้มงวดการส่งออกสินค้าประเภทวัตถุดิบและส่งเสริมการส่งออก สินค้าสำเร็จรูปมากขึ้น ทำให้ปริมาณสินค้านำเข้าสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าประเภทไม้แปรรูปลดลง
สำหรับการนำเข้าจากจีน(ตอนใต้) ตั้งแต่ปลายไตมาสที่ 3 มูลค่าการนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากช่วงเริ่มต้นฤดูกาลของสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ แอปเปิล และสาลี่ รวมทั้งการประกาศลดภาษีผักและผลไม้ ระหว่างไทยกับจีนเหลือร้อยละ 0 ทำให้การนำเข้าโดยรวมในปี 2546 เพิ่มขึ้นเป็น 26.5 ล้านดอลลาร์ สรอ. จาก 10.7 ล้านดอลลาร์ สรอ. ในปีก่อน สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ แอปเปิล สาลี่ ไม้สัก กระเทียม และเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ทั้งนี้เป็นผลของความตกลงเร่งลดภาษีผักและผลไม้ระหว่างไทย-จีน(Early Harvest) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546 ส่งผลให้การค้าในหมวดผักและผลไม้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมอยู่ในเกณฑ์ขยายตัว โดยการนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่าตัวเป็น 8.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขณะที่การส่งออกอยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับปีก่อนเป็น 16.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้การค้าโดยรวมไตรมาสที่ 4 ยังคงเกินดุล 8.3 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ภาพรวมดุลการค้าผ่านด่านศุลกากรชายแดนในภาคเหนือปี 2546 เกินดุลเพิ่มขึ้นเป็น 211.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. เทียบกับปีก่อนที่เกินดุล 128.9 ล้านดอลลาร์ สรอ.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-