ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. รมว.คลังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ท่ามกลางปัจจัยกระทบต่างๆ รมว.คลัง กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะเริ่ม
มีความสั่นคลอนมาตั้งแต่ต้นปี 47 จากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก การต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ สถานการณ์ความไม่สงบ
ในภาคใต้ ปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการที่จีนปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจลง ก็ตาม แต่เชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบต่อการขยายตัวของ
เศรษฐกิจไทยมากนัก เนื่องจากผลกระทบจากโรคไข้หวัดนกขณะนี้ได้บรรเทาลงแล้ว ส่วนการต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจก็ได้มีการชะลอการแปรรูป
ออกไป ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลง สำหรับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันและการที่จีนปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น หากคนไทยช่วยกันประหยัด
และส่งออกให้มากขึ้นเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 7% อย่างแน่นอน (ข่าวสด)
2. ก.คลังเตรียมจัดตั้งกองทุนรวมตราสารแห่งทุนเพื่อการลงทุนในระยะยาว รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการหารือกับสมาคมบริษัทจัด
การลงทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนรวม
ตราสารแห่งทุนเพื่อการลงทุนในระยะยาว (Long Term Equity Fund : LTF) ว่า เป็นความพยายามที่จะสร้างพื้นฐานให้มีนักลงทุนสถาบันเพิ่มมาก
ขึ้น ซึ่งจากการหารือทุกฝ่ายยินดีให้ความร่วมมือ และเบื้องต้น ธ.กรุงเทพและ ธ.กสิกรไทย แสดงความสนใจในการออกกองทุน โดย ธ.กรุงเทพสนใจ
ออกกองทุนประมาณ 5,000 ล.บาท สำหรับผลการหารือครั้งนี้จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ซึ่งหากคณะกรรมการเห็นชอบหลัก
การดังกล่าว คาดว่าจะสามารถออกประกาศเกี่ยวข้อง รวมทั้งมีการออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ในต้นไตรมาส 3 ปี 47 (โลกวันนี้)
3. ยอดขายรถยนต์ช่วง 4 เดือนแรกปี 47 เพิ่มขึ้น 24% สะท้อนภาพเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า
มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกปี 47 ว่า มียอดขายรวมทั้งสิ้น 198,900 คัน เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีสถานการณ์ความไม่สงบใน
ภาคใต้ หรือวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ติดต่อกันหลายวัน ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์รวมทุกประเภทมากนัก นอกจากนี้ ปริมาณการขาย
รถยนต์รวมมีแนวโน้มที่สดใส เนื่องจากในช่วงงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา มียอดจองเป็นจำนวนถึง 15,000 คัน ที่จะทยอยส่งมอบรถ ซึ่งแสดงถึงทิศทาง
ว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมจะยังคงสามารถรักษาระดับที่มากกว่า 50,000 คันต่อเดือน ได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 (ผู้จัดการรายวัน)
4. TCB มีความพร้อมและเห็นด้วยกับแนวคิดในการรวมกิจการบริษัทข้อมูลเครดิต กรรมการผู้จัดการบริษัทข้อมูลเครดิตไทย จำกัด
(Thai Credit Bureau : TCB) เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมและเห็นด้วยกับแนวคิดของ ก.คลัง ในการรวมกิจการของบริษัทข้อมูลเครดิตทั้ง
2 แห่ง คือ บริษัทข้อมูลเครดิตไทยและบริษัทข้อมูลเครดิตกลาง และเห็นว่าแนวทางการรวมกิจการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคมาก เนื่องจาก
หากมีเจ้าภาพในการรวบรวมข้อมูลเครดิตและมีฐานข้อมูลที่ละเอียด ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ การอนุมัติสินเชื่อและพิจารณาข้อมูลเครดิตจะเป็นไป
อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ รวมถึงค่าบริการที่จะลดลงในอนาคตจะเกิดความยุติธรรมแก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทได้ยื่นข้อเสนอรายละเอียดของบริษัทเพื่อให้
ก.คลังพิจารณาแล้ว (โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1.ดัชนีราคาผู้ผลิตของ สรอ.ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นในขณะที่ยอดค้าปลีกลดลง รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 13 พ.ค.47 ดัชนีราคา
ผู้ผลิตของ สรอ.ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 13 เดือน จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้อันเป็นผลจากความต้องการใช้น้ำมันของโลกเพิ่มสูง
ขึ้นโดยเฉพาะจีนและกำลังผลิตน้ำมันไร้สารของ สรอ.ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของบริโภค โดยราคาพลังงานมีส่วนทำให้ดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือน
เม.ย.47 สูงขึ้นร้อยละ 0.7 แต่หากไม่รวมราคาอาหารและพลังงานแล้ว ดัชนีราคาผู้ผลิตจะสูงขึ้นเพียงร้อยละ 0.2 ส่วนยอดค้าปลีกในเดือน
เม.ย.47 หลังปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วลดลงอย่างไม่คาดหมายร้อยละ 0.5 มีจำนวน 331.84 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากยอดขายรถยนต์และ
เสื้อผ้าลดลง หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ในเดือนก่อน ในขณะที่ตัวเลขจำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มสูงขึ้น 13,000 คนมีจำนวน
331,000 คนเกินกว่าที่คาดไว้ว่าจะมีจำนวน 321,000 คน นักวิเคราะห์กำลังเฝ้ารอดูตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่จะประกาศในวันที่ 14 พ.ค.47
นี้ว่าเศรษฐกิจจะร้อนแรงเพียงพอที่ ธ.กลาง สรอ.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อลดร้อนแรงของเศรษฐกิจหรือไม่ (รอยเตอร์)
2. ผู้นำ ธ.กลางอียูยืนยันถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซน รายงานจากเมืองแฮมเบิร์กประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่
13 พ.ค.47 ผู้บริหารระดับสูงของ ธ.กลางสหภาพยุโรป (ECB) ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า จากข้อมูลในปัจจุบันยืนยันได้ว่า เศรษฐกิจ
ของประเทศในเขตยูโรโซนกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องไปด้วยดี โดยเศรษฐกิจในไตรมาสแรกปี 47 ของเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลีมีอัตรา
การเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับร้อยละ 0.4 ร้อยละ 0.8 และร้อยละ 0.4 ตามลำดับ และตลาดคาดว่าอาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ลงจากปัจจุบันที่ระดับร้อยละ 2.0 เนื่องจาก ECB เชื่อว่าการใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวิธีที่ได้ผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและ
การลงทุนสำหรับเขตยูโร ส่วนการที่ราคาน้ำมันโลกและราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นจนอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ของยูโรโซนนั้น ในระยะสั้นอาจกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อโดยอาจสูงเกินกว่าระดับเพดานที่ ECB กำหนดไว้ที่ร้อยละ 2 แต่คาดว่าในระยะกลางจะ
ปรับตัวเข้าสู่ระดับที่มีเสถียรภาพได้ต่อไป ทั้งนี้ ECB ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ธ.ค.46 ว่า อัตราเงินเฟ้อในปี 47 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.8 และ
ร้อยละ 1.6 ในปี 48 ซึ่งจะมีการปรับตัวเลขการคาดการณ์อีกครั้งในเดือน มิ.ย.47 (รอยเตอร์)
3. เกาหลีใต้กำหนดการเจรจาข้อตกลงทางการค้าเสรีกับญี่ปุ่นราวปลายปี 48 รายงานจากโซล เมื่อ วันที่ 14 พ.ค. 47 รมว.
ต่างประเทศและการค้าของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า หลังจากเพิ่งเจรจาตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกแล้วนั้นได้มีกำหนดที่จะทำสัญญาเปิดตลาด
ในราวปลายปี 48 นอกจากนั้นเกาหลีใต้หวังว่าจะได้ข้อสรุปของการเจรจาการค้าเสรีสองฝ่ายกับสิงคโปร์ในปลายปีนี้ด้วย ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนก.พ.
รัฐสภาเกาหลีใต้ก็ได้ผ่านข้อตกลงทางการค้าเสรีกับชิลี นอกจากนั้นการศึกษาเบื้องต้นได้แสดงให้เห็นว่าการร่วมมือกันลดปัญหาและอุปสรรคทางการค้า
และในระยะสั้นญี่ปุ่นอาจจะได้เปรียบทางการค้าแต่ในระยะยาวการกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์จำนวนมากต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้
โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญยังได้สำรวจความเป็นไปได้ของการค้าเสรีระหว่างเกาหลีใต้และสมาชิก 10 ประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วย สำหรับการเจรจาในระดับ
รัฐบาลเพื่อมองหาความเป็นไปได้กับสมาชิก 4 ชาติของ European Free Trade Association อาจจะเริ่มในปีนี้ ขณะเดียวกันเกาหลีใต้ก็กำลัง
มองหาความเป็นไปได้ที่จะร่วมการค้าเสรีกับเม็กซิโก แคนาดา และอินเดีย ด้วย (รอยเตอร์)
4.รอยเตอร์คาดว่าจีดีพีของสิงคโปร์ในไตรมาสแรกปี 47 จะเริ่มชะลอตัว รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 13 พ.ค.47 รอยเตอร์เปิดเผยว่า
ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ในไตรมาสแรกของปี 47 คาดว่าจะเริ่มชะลอตัว โดยจะขยายตัวเพียงร้อยละ 10.1 ลดลงจากที่ขยายตัว
ร้อยละ 11.0 ในไตรมาสก่อนแม้ว่าจีดีพีของประเทศจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่นักวิเคราะห์ก็คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปี 47
จะยังคงขยายตัวมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 3.5-5.5 โดยรัฐบาลได้ประมาณการจีดีพีในไตรมาสแรกของปี 47 ว่าจะขยาย
ตัวร้อยละ 11.0 ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้จีดีพีขยายตัวลดลง เนื่องจากผลผลิตโรงงานในเดือน มี.ค.47 ลดลงอย่างคาดไม่ถึงร้อยละ 12.3 (ตัวเลขหลัง
ปรับฤดูกาล) จากที่เดือน ก.พ.ลดลงร้อยละ 8.2 เทียบกับที่ประมาณการไว้ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14.5 โดยการลดลงของตัวเลขผลผลิต
อุตสาหกรรม ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 25 ของระบบเศรษฐกิจสิงคโปร์ บางส่วนได้ถูกชดเชยจากตัวเลขที่แข็งแกร่งของภาคบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
ภายหลังการสิ้นสุดของโรคไข้หวัดซาร์ส (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 14/5/47 13/5/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.662 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40.4658/40.7438 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1250 - 1.2500 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 611.23/12.47 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,250/7,350 7,300/7,400 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 35.36 35.34 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 17.59*/14.59 17.59*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 13 พ.ค..47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. รมว.คลังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ท่ามกลางปัจจัยกระทบต่างๆ รมว.คลัง กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะเริ่ม
มีความสั่นคลอนมาตั้งแต่ต้นปี 47 จากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก การต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ สถานการณ์ความไม่สงบ
ในภาคใต้ ปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการที่จีนปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจลง ก็ตาม แต่เชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบต่อการขยายตัวของ
เศรษฐกิจไทยมากนัก เนื่องจากผลกระทบจากโรคไข้หวัดนกขณะนี้ได้บรรเทาลงแล้ว ส่วนการต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจก็ได้มีการชะลอการแปรรูป
ออกไป ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลง สำหรับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันและการที่จีนปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น หากคนไทยช่วยกันประหยัด
และส่งออกให้มากขึ้นเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 7% อย่างแน่นอน (ข่าวสด)
2. ก.คลังเตรียมจัดตั้งกองทุนรวมตราสารแห่งทุนเพื่อการลงทุนในระยะยาว รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการหารือกับสมาคมบริษัทจัด
การลงทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนรวม
ตราสารแห่งทุนเพื่อการลงทุนในระยะยาว (Long Term Equity Fund : LTF) ว่า เป็นความพยายามที่จะสร้างพื้นฐานให้มีนักลงทุนสถาบันเพิ่มมาก
ขึ้น ซึ่งจากการหารือทุกฝ่ายยินดีให้ความร่วมมือ และเบื้องต้น ธ.กรุงเทพและ ธ.กสิกรไทย แสดงความสนใจในการออกกองทุน โดย ธ.กรุงเทพสนใจ
ออกกองทุนประมาณ 5,000 ล.บาท สำหรับผลการหารือครั้งนี้จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ซึ่งหากคณะกรรมการเห็นชอบหลัก
การดังกล่าว คาดว่าจะสามารถออกประกาศเกี่ยวข้อง รวมทั้งมีการออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ในต้นไตรมาส 3 ปี 47 (โลกวันนี้)
3. ยอดขายรถยนต์ช่วง 4 เดือนแรกปี 47 เพิ่มขึ้น 24% สะท้อนภาพเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า
มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกปี 47 ว่า มียอดขายรวมทั้งสิ้น 198,900 คัน เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีสถานการณ์ความไม่สงบใน
ภาคใต้ หรือวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ติดต่อกันหลายวัน ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์รวมทุกประเภทมากนัก นอกจากนี้ ปริมาณการขาย
รถยนต์รวมมีแนวโน้มที่สดใส เนื่องจากในช่วงงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา มียอดจองเป็นจำนวนถึง 15,000 คัน ที่จะทยอยส่งมอบรถ ซึ่งแสดงถึงทิศทาง
ว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมจะยังคงสามารถรักษาระดับที่มากกว่า 50,000 คันต่อเดือน ได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 (ผู้จัดการรายวัน)
4. TCB มีความพร้อมและเห็นด้วยกับแนวคิดในการรวมกิจการบริษัทข้อมูลเครดิต กรรมการผู้จัดการบริษัทข้อมูลเครดิตไทย จำกัด
(Thai Credit Bureau : TCB) เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมและเห็นด้วยกับแนวคิดของ ก.คลัง ในการรวมกิจการของบริษัทข้อมูลเครดิตทั้ง
2 แห่ง คือ บริษัทข้อมูลเครดิตไทยและบริษัทข้อมูลเครดิตกลาง และเห็นว่าแนวทางการรวมกิจการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคมาก เนื่องจาก
หากมีเจ้าภาพในการรวบรวมข้อมูลเครดิตและมีฐานข้อมูลที่ละเอียด ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ การอนุมัติสินเชื่อและพิจารณาข้อมูลเครดิตจะเป็นไป
อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ รวมถึงค่าบริการที่จะลดลงในอนาคตจะเกิดความยุติธรรมแก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทได้ยื่นข้อเสนอรายละเอียดของบริษัทเพื่อให้
ก.คลังพิจารณาแล้ว (โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1.ดัชนีราคาผู้ผลิตของ สรอ.ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นในขณะที่ยอดค้าปลีกลดลง รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 13 พ.ค.47 ดัชนีราคา
ผู้ผลิตของ สรอ.ในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 13 เดือน จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้อันเป็นผลจากความต้องการใช้น้ำมันของโลกเพิ่มสูง
ขึ้นโดยเฉพาะจีนและกำลังผลิตน้ำมันไร้สารของ สรอ.ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของบริโภค โดยราคาพลังงานมีส่วนทำให้ดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือน
เม.ย.47 สูงขึ้นร้อยละ 0.7 แต่หากไม่รวมราคาอาหารและพลังงานแล้ว ดัชนีราคาผู้ผลิตจะสูงขึ้นเพียงร้อยละ 0.2 ส่วนยอดค้าปลีกในเดือน
เม.ย.47 หลังปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้วลดลงอย่างไม่คาดหมายร้อยละ 0.5 มีจำนวน 331.84 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากยอดขายรถยนต์และ
เสื้อผ้าลดลง หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ในเดือนก่อน ในขณะที่ตัวเลขจำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มสูงขึ้น 13,000 คนมีจำนวน
331,000 คนเกินกว่าที่คาดไว้ว่าจะมีจำนวน 321,000 คน นักวิเคราะห์กำลังเฝ้ารอดูตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่จะประกาศในวันที่ 14 พ.ค.47
นี้ว่าเศรษฐกิจจะร้อนแรงเพียงพอที่ ธ.กลาง สรอ.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อลดร้อนแรงของเศรษฐกิจหรือไม่ (รอยเตอร์)
2. ผู้นำ ธ.กลางอียูยืนยันถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซน รายงานจากเมืองแฮมเบิร์กประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่
13 พ.ค.47 ผู้บริหารระดับสูงของ ธ.กลางสหภาพยุโรป (ECB) ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า จากข้อมูลในปัจจุบันยืนยันได้ว่า เศรษฐกิจ
ของประเทศในเขตยูโรโซนกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องไปด้วยดี โดยเศรษฐกิจในไตรมาสแรกปี 47 ของเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลีมีอัตรา
การเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับร้อยละ 0.4 ร้อยละ 0.8 และร้อยละ 0.4 ตามลำดับ และตลาดคาดว่าอาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ลงจากปัจจุบันที่ระดับร้อยละ 2.0 เนื่องจาก ECB เชื่อว่าการใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวิธีที่ได้ผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและ
การลงทุนสำหรับเขตยูโร ส่วนการที่ราคาน้ำมันโลกและราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นจนอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ของยูโรโซนนั้น ในระยะสั้นอาจกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อโดยอาจสูงเกินกว่าระดับเพดานที่ ECB กำหนดไว้ที่ร้อยละ 2 แต่คาดว่าในระยะกลางจะ
ปรับตัวเข้าสู่ระดับที่มีเสถียรภาพได้ต่อไป ทั้งนี้ ECB ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ธ.ค.46 ว่า อัตราเงินเฟ้อในปี 47 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.8 และ
ร้อยละ 1.6 ในปี 48 ซึ่งจะมีการปรับตัวเลขการคาดการณ์อีกครั้งในเดือน มิ.ย.47 (รอยเตอร์)
3. เกาหลีใต้กำหนดการเจรจาข้อตกลงทางการค้าเสรีกับญี่ปุ่นราวปลายปี 48 รายงานจากโซล เมื่อ วันที่ 14 พ.ค. 47 รมว.
ต่างประเทศและการค้าของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า หลังจากเพิ่งเจรจาตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกแล้วนั้นได้มีกำหนดที่จะทำสัญญาเปิดตลาด
ในราวปลายปี 48 นอกจากนั้นเกาหลีใต้หวังว่าจะได้ข้อสรุปของการเจรจาการค้าเสรีสองฝ่ายกับสิงคโปร์ในปลายปีนี้ด้วย ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนก.พ.
รัฐสภาเกาหลีใต้ก็ได้ผ่านข้อตกลงทางการค้าเสรีกับชิลี นอกจากนั้นการศึกษาเบื้องต้นได้แสดงให้เห็นว่าการร่วมมือกันลดปัญหาและอุปสรรคทางการค้า
และในระยะสั้นญี่ปุ่นอาจจะได้เปรียบทางการค้าแต่ในระยะยาวการกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์จำนวนมากต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้
โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญยังได้สำรวจความเป็นไปได้ของการค้าเสรีระหว่างเกาหลีใต้และสมาชิก 10 ประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วย สำหรับการเจรจาในระดับ
รัฐบาลเพื่อมองหาความเป็นไปได้กับสมาชิก 4 ชาติของ European Free Trade Association อาจจะเริ่มในปีนี้ ขณะเดียวกันเกาหลีใต้ก็กำลัง
มองหาความเป็นไปได้ที่จะร่วมการค้าเสรีกับเม็กซิโก แคนาดา และอินเดีย ด้วย (รอยเตอร์)
4.รอยเตอร์คาดว่าจีดีพีของสิงคโปร์ในไตรมาสแรกปี 47 จะเริ่มชะลอตัว รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 13 พ.ค.47 รอยเตอร์เปิดเผยว่า
ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ในไตรมาสแรกของปี 47 คาดว่าจะเริ่มชะลอตัว โดยจะขยายตัวเพียงร้อยละ 10.1 ลดลงจากที่ขยายตัว
ร้อยละ 11.0 ในไตรมาสก่อนแม้ว่าจีดีพีของประเทศจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่นักวิเคราะห์ก็คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปี 47
จะยังคงขยายตัวมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 3.5-5.5 โดยรัฐบาลได้ประมาณการจีดีพีในไตรมาสแรกของปี 47 ว่าจะขยาย
ตัวร้อยละ 11.0 ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้จีดีพีขยายตัวลดลง เนื่องจากผลผลิตโรงงานในเดือน มี.ค.47 ลดลงอย่างคาดไม่ถึงร้อยละ 12.3 (ตัวเลขหลัง
ปรับฤดูกาล) จากที่เดือน ก.พ.ลดลงร้อยละ 8.2 เทียบกับที่ประมาณการไว้ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14.5 โดยการลดลงของตัวเลขผลผลิต
อุตสาหกรรม ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 25 ของระบบเศรษฐกิจสิงคโปร์ บางส่วนได้ถูกชดเชยจากตัวเลขที่แข็งแกร่งของภาคบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
ภายหลังการสิ้นสุดของโรคไข้หวัดซาร์ส (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 14/5/47 13/5/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.662 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40.4658/40.7438 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1250 - 1.2500 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 611.23/12.47 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,250/7,350 7,300/7,400 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 35.36 35.34 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 17.59*/14.59 17.59*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 13 พ.ค..47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-