สิ่งทอ : แนวโน้มพอใช้
ปี 2547 การส่งออกสิ่งทอของไทยใน 9 เดือนแรกมีมูลค่า 189,201 ล้านบาท ขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.5 โดยส่งออกไปสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนร้อยละ 32.4 ขยายตัวร้อยละ 3.1 ขณะที่ตลาดสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และอาเซียน ยังเป็นตลาดส่งออกที่ขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป ขณะที่ตลาดสหรัฐอเมริกามีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นจากจีน และประเทศในแถบลาตินอเมริกา สำหรับการนำเข้าสิ่งทอของไทยจะเป็นการนำเข้าผ้าผืน ด้าย เส้นใย และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากจีน แนวโน้มอุตสาหกรรมสิ่งทอในไตรมาสสุดท้ายของปี คาดว่าการส่งออกสิ่งทอไทยไปตลาดหลักมีแนวโน้มดีโดยเฉพาะในกลุ่มสหภาพยุโรปและอาเซียน
ปี 2548 หลังจากการเปิดเสรีการค้าสิ่งทอตามองค์การการค้าโลก(WTO) ในปี 2548 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจะเข้าสู่ระบบการค้าเสรีอย่างเต็มรูปแบบ ประเทศที่มีขีดความสามารถต่ำ(รวมทั้งประเทศไทย)จะไม่ได้รับการจัดสรรโควตานำเข้าที่มาช่วยในการส่งออกอีกต่อไป ขณะที่ประเทศที่มีความสามารถสูงก็จะไม่ถูกจำกัดโควตาการส่งออก ผู้ประกอบการของไทยที่ไม่สามารถปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันได้ทันจะได้รับผลกระทบรุนแรงโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก โดยจะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่เดือน เมษายน 2548 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงของการรับคำสั่งซื้องวดใหม่
ปัจจัยสนับสนุน
๏ รัฐบาลได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาช่วยพัฒนาคุณภาพ เทคนิคการผลิต และการออกแบบ ฯลฯ
๏ โครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น ช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้ผลิต การสร้างแบรนด์เนมสินค้าเป็นของตนเอง
ปัจจัยเสี่ยง
๏ การเปิดเสรีการค้าสิ่งทอจะทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศและมีผลต่อผลิตภัณฑ์ทุกประเภทในอุตสาหกรรม
๏ การรวมกลุ่มทางการค้า และมาตรการกีดกันทางการค้าในรูปแบบต่าง ๆ จะเป็นอุปสรรคต่อการค้ามากขึ้น
๏ ต้นทุนการผลิตสูงกว่าคู่แข่งขัน ทั้งจีน อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนาม ส่งผลต่อสินค้าระดับล่าง
๏ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นการผลิตสูงขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเฉพาะค่าขนส่งจะส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน
๏ ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยชะลอตัวลง ส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศลดลง
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
ปี 2547 การส่งออกสิ่งทอของไทยใน 9 เดือนแรกมีมูลค่า 189,201 ล้านบาท ขยายตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.5 โดยส่งออกไปสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนร้อยละ 32.4 ขยายตัวร้อยละ 3.1 ขณะที่ตลาดสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และอาเซียน ยังเป็นตลาดส่งออกที่ขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป ขณะที่ตลาดสหรัฐอเมริกามีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นจากจีน และประเทศในแถบลาตินอเมริกา สำหรับการนำเข้าสิ่งทอของไทยจะเป็นการนำเข้าผ้าผืน ด้าย เส้นใย และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากจีน แนวโน้มอุตสาหกรรมสิ่งทอในไตรมาสสุดท้ายของปี คาดว่าการส่งออกสิ่งทอไทยไปตลาดหลักมีแนวโน้มดีโดยเฉพาะในกลุ่มสหภาพยุโรปและอาเซียน
ปี 2548 หลังจากการเปิดเสรีการค้าสิ่งทอตามองค์การการค้าโลก(WTO) ในปี 2548 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจะเข้าสู่ระบบการค้าเสรีอย่างเต็มรูปแบบ ประเทศที่มีขีดความสามารถต่ำ(รวมทั้งประเทศไทย)จะไม่ได้รับการจัดสรรโควตานำเข้าที่มาช่วยในการส่งออกอีกต่อไป ขณะที่ประเทศที่มีความสามารถสูงก็จะไม่ถูกจำกัดโควตาการส่งออก ผู้ประกอบการของไทยที่ไม่สามารถปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันได้ทันจะได้รับผลกระทบรุนแรงโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก โดยจะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่เดือน เมษายน 2548 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงของการรับคำสั่งซื้องวดใหม่
ปัจจัยสนับสนุน
๏ รัฐบาลได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาช่วยพัฒนาคุณภาพ เทคนิคการผลิต และการออกแบบ ฯลฯ
๏ โครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น ช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้ผลิต การสร้างแบรนด์เนมสินค้าเป็นของตนเอง
ปัจจัยเสี่ยง
๏ การเปิดเสรีการค้าสิ่งทอจะทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศและมีผลต่อผลิตภัณฑ์ทุกประเภทในอุตสาหกรรม
๏ การรวมกลุ่มทางการค้า และมาตรการกีดกันทางการค้าในรูปแบบต่าง ๆ จะเป็นอุปสรรคต่อการค้ามากขึ้น
๏ ต้นทุนการผลิตสูงกว่าคู่แข่งขัน ทั้งจีน อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนาม ส่งผลต่อสินค้าระดับล่าง
๏ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นการผลิตสูงขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเฉพาะค่าขนส่งจะส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน
๏ ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยชะลอตัวลง ส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศลดลง
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-