กรุงเทพ--2 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ครั้งที่ 17 และติดตามนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 13 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 15-19 พฤศจิกายน 2548 ภายใต้หัวข้อ “มุ่งหน้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียว: เผชิญความท้าทาย นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง (Towards One Community: Meet the Challenge, Make the Change)” โดยแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อย่อยได้แก่ การฟื้นฟูพันธกรณีโบกอร์ สร้างหลักประกันในการประกอบธุรกิจ และเชื่อมโยงความแตกต่างระหว่างประเทศสมาชิกฯ (สมาชิกเอเปคประกอบด้วย 21 เขตเศรษฐกิจได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไนฯ แคนาดา ชิลี สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ สหพันธรัฐรัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐฯ และเวียดนาม)
ในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคฯ ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2548 ณ Busan Exhibition and Convention Center (BEXCO) ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะเข้าร่วมประชุม Retreat ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นในรูปแบบไม่เป็นทางการโดยไม่มีการกำหนดระเบียบวาระการประชุมไว้ล่วงหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีของสมาชิกฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ อย่างตรงไปตรงมาและเป็นกันเอง
ในการประชุมฯ ครั้งนี้มีการกำหนดหัวข้อการหารือที่สำคัญไว้คือการส่งเสริมระบบการค้าพหุภาคี การประเมินผลความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายโบกอร์ การเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTAs) และความตกลงเขตการค้าระดับภูมิภาค (RTAs) การส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ การต่อต้านการคอรัปชั่นและการสร้างความโปร่งใส และการปฏิรูปเอเปค ต่อมาในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเต็มคณะเพื่อพิจารณารายงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสที่จะเสนอเข้าสู่การประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคฯ ต่อไป
ประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคประกอบด้วย การผลักดันความร่วมมือและเตรียมความพร้อมระหว่างสมาชิกเอเปคในการต้อต้านไข้หวัดนก และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งไทยพร้อมที่จะมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ การใช้ประเด็นความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งไทยเป็นประธาน Human Security Network (HSN) ในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมกระบวนการเปิดเสรีและโลกาภิวัตน์ที่ให้ความสำคัญต่อความเป็นมนุษย์ (human face) การต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติ การเตรียมความพร้อมต่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน/ภัยพิบัติ ความมั่นคงด้านพลังงาน และการบรรลุเป้าหมายโบกอร์ (การเปิดเสรีและอำนวยความสะดวก ทางการค้าการลงทุนภายในปี 2553 สำหรับสมาชิกที่พัฒนาแล้ว และปี 2563 สำหรับสมาชิกกำลังพัฒนา) ตามกำหนด โดยคำนึงถึงปัจจัยความสมดุลระหว่างประเด็นการค้า/การลงทุนกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ/วิชาการและประเด็นทางสังคม
นอกจากภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการประชุมระดับรัฐมนตรีฯ แล้ว ในชั้นนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังมีกำนดการที่จะพบหารือทวิภาคีกับนาย Ban Ki-moon รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าสาธารณรัฐเกาหลี และนาย Luis Ernesto Derbez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโกด้วย
ในระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะติดตาม พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้าประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคซึ่งจะจัดขึ้น ณ BEXCO และ Nurimaru APEC House รวมทั้งการประชุม APEC CEO Summit 2005
จัดโดย Federation of Korean Industries (FKI) ภายใต้หัวข้อ “โลกาภิวัตน์: ประเด็นและสิ่งท้าทาย” การลงนามความตกลงส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนไทย-ฮ่องกง และการพบหารือทวิภาคี ซึ่งในชั้นนี้นายกรัฐมนตรีมีกำหนดที่จะพบหารือกับนาย Vladimir Putin ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคฯ แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเข้าร่วมประชุม Boao Forum for Asia CEO Summit ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2548 ณ เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ครั้งที่ 17 และติดตามนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 13 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 15-19 พฤศจิกายน 2548 ภายใต้หัวข้อ “มุ่งหน้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียว: เผชิญความท้าทาย นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง (Towards One Community: Meet the Challenge, Make the Change)” โดยแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อย่อยได้แก่ การฟื้นฟูพันธกรณีโบกอร์ สร้างหลักประกันในการประกอบธุรกิจ และเชื่อมโยงความแตกต่างระหว่างประเทศสมาชิกฯ (สมาชิกเอเปคประกอบด้วย 21 เขตเศรษฐกิจได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไนฯ แคนาดา ชิลี สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ สหพันธรัฐรัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐฯ และเวียดนาม)
ในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคฯ ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2548 ณ Busan Exhibition and Convention Center (BEXCO) ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะเข้าร่วมประชุม Retreat ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นในรูปแบบไม่เป็นทางการโดยไม่มีการกำหนดระเบียบวาระการประชุมไว้ล่วงหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีของสมาชิกฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ อย่างตรงไปตรงมาและเป็นกันเอง
ในการประชุมฯ ครั้งนี้มีการกำหนดหัวข้อการหารือที่สำคัญไว้คือการส่งเสริมระบบการค้าพหุภาคี การประเมินผลความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายโบกอร์ การเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTAs) และความตกลงเขตการค้าระดับภูมิภาค (RTAs) การส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ การต่อต้านการคอรัปชั่นและการสร้างความโปร่งใส และการปฏิรูปเอเปค ต่อมาในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเต็มคณะเพื่อพิจารณารายงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสที่จะเสนอเข้าสู่การประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคฯ ต่อไป
ประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการประชุมรัฐมนตรีเอเปคประกอบด้วย การผลักดันความร่วมมือและเตรียมความพร้อมระหว่างสมาชิกเอเปคในการต้อต้านไข้หวัดนก และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งไทยพร้อมที่จะมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ การใช้ประเด็นความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งไทยเป็นประธาน Human Security Network (HSN) ในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมกระบวนการเปิดเสรีและโลกาภิวัตน์ที่ให้ความสำคัญต่อความเป็นมนุษย์ (human face) การต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติ การเตรียมความพร้อมต่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน/ภัยพิบัติ ความมั่นคงด้านพลังงาน และการบรรลุเป้าหมายโบกอร์ (การเปิดเสรีและอำนวยความสะดวก ทางการค้าการลงทุนภายในปี 2553 สำหรับสมาชิกที่พัฒนาแล้ว และปี 2563 สำหรับสมาชิกกำลังพัฒนา) ตามกำหนด โดยคำนึงถึงปัจจัยความสมดุลระหว่างประเด็นการค้า/การลงทุนกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ/วิชาการและประเด็นทางสังคม
นอกจากภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการประชุมระดับรัฐมนตรีฯ แล้ว ในชั้นนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังมีกำนดการที่จะพบหารือทวิภาคีกับนาย Ban Ki-moon รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าสาธารณรัฐเกาหลี และนาย Luis Ernesto Derbez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโกด้วย
ในระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะติดตาม พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้าประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคซึ่งจะจัดขึ้น ณ BEXCO และ Nurimaru APEC House รวมทั้งการประชุม APEC CEO Summit 2005
จัดโดย Federation of Korean Industries (FKI) ภายใต้หัวข้อ “โลกาภิวัตน์: ประเด็นและสิ่งท้าทาย” การลงนามความตกลงส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนไทย-ฮ่องกง และการพบหารือทวิภาคี ซึ่งในชั้นนี้นายกรัฐมนตรีมีกำหนดที่จะพบหารือกับนาย Vladimir Putin ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคฯ แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเข้าร่วมประชุม Boao Forum for Asia CEO Summit ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2548 ณ เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-