ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. บีโอไอเตรียมปรับเป้าหมายการลงทุนในปี 47 เพิ่มขึ้น รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยระหว่างการหารือกับผู้บริหารสำนักงานคณะ
กรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในงาน “ประกาศวิสัยทัศน์ สกท.2550” ว่า แนวโน้มการลงทุนในขณะนี้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เห็น
ได้จากการลงทุนในช่วง 7 เดือนแรกของปี งปม.47 (ต.ค.46-เม.ย.47) ซึ่งตัวเลขการลงทุนที่ได้รับอนุมัติจากบีโอไอมีมูลค่าถึง 2.7 แสน ล.บาท
ใกล้เคียงกับเป้าหมายการลงทุนที่กำหนดไว้ในปี 47 จำนวน 2.9 แสน ล.บาท จึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับเป้าหมายการลงทุนของบีโอไอในปีนี้
เป็น 4 แสน ล.บาท ทั้งนี้ จากการที่บีโอไอได้มีการปรับยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา มีนักลงทุนต่างชาติขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีบริษัทผู้ผลิต 4 รายใหญ่ได้เข้ามาขยายการลงทุนหลายหมื่นล้านบาท นอกจากนี้
ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า จะมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐและยุโรป เข้ามาขยายการลงทุนในไทย
เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40,000-50,000 ล.บาท (ข่าวสด)
2. ก.พลังงานยืนยันจะมีการปรับเพดานราคาน้ำมันอีกครั้ง รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมี
การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับเพดานราคาน้ำมันอีกครั้ง โดยเฉพาะในส่วนของน้ำมันเบนซิน ซึ่งจะต้องพิจารณา
ช่วงเวลาที่เหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบกับผู้บริโภคมากนัก โดยในเบื้องต้นแนวทางการปรับขึ้นราคาดังกล่าวกำหนดที่จะขึ้นครั้งละไม่เกิน 1 บาทต่อ
ลิตร แต่น้ำมันดีเซลรัฐบาลจะยังคงตรึงราคาต่อไป เพื่อไม่ให้กระทบกับระดับราคาสินค้าในประเทศที่อาจปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นตาม ทั้งนี้ ในการ
ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 18 พ.ค.47 ที่ประชุมได้พิจารณามาตรการประหยัดพลังงานเพื่อรองรับวิกฤตราคาน้ำมัน ซึ่งประกอบด้วย การเร่งรัดประหยัด
พลังงานในระบบขนส่ง การจัดหาเชื้อเพลิงทางเลือก โดยผลักดันให้มีการใช้เอทานอลผสมในน้ำมันเบนซิน และใช้ไบโอดีเซลผสมในน้ำมันดีเซล เพื่อ
ลดต้นทุนการนำเข้าน้ำมัน รวมถึงการรณรงค์ให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ อนึ่ง สำหรับการพิจารณาปรับราคาขายปลีกน้ำมันนั้น ครม.ได้มอบ
อำนาจให้ ก.พลังงานเป็นผู้ตัดสินใจ โดยจะไม่มีการเปิดเผยวันเวลาล่วงหน้า เพื่อป้องกันการกว้านซื้อน้ำมันเพื่อทำกำไร (โลกวันนี้)
3. บสท.สามารถดำเนินการกับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพแล้วกว่า 95% กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เปิดเผยว่า
บสท.ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยมีข้อยุติแล้วกว่า 95% หรือมีมูลค่าทางบัญชี 7.5 แสน ล.บาท ทำให้ บสท.มี
สินทรัพย์ที่ได้รับโอนแทนการชำระหนี้เข้ามาเป็นทรัพย์สินรอการขายเพิ่มขึ้น และในการประมูลขายทรัพย์สินรอการขายในครั้งที่ผ่านมา สามารถขายได้
เกือบ 1,000 ล.บาท สูงกว่าราคาขั้นต่ำที่กำหนดไว้กว่า 30% (มติชน)
4. การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นจองมีผลให้การเก็งกำไรลดลงและการลงทุนระยะยาวเพิ่มขึ้น กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ต.ล.ท.มีความเป็นห่วงการลงทุนในหุ้นที่มีการออกและเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือที่เรียกว่าหุ้นจอง
เนื่องจากพบว่าการลงทุนในหุ้นเหล่านี้ในระยะหลัง ไม่สามารถสร้างผลกำไรให้กับนักลงทุนได้ เพราะราคาหุ้นส่วนใหญ่ต่ำกว่าราคาจอง อย่างไรก็
ตาม หากพิจารณาอีกด้าน ถือว่าการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นโดยเฉพาะหุ้นจอง จะมีส่วนดีทำให้นักลงทุนระยะสั้นที่มีการซื้อขายลักษณะเก็งกำไรลด
จำนวนลง ขณะที่นักลงทุนระยะยาว ซึ่งมีความต้องการถือครองหุ้นอย่างแท้จริง จะสามารถเข้ามาลงทุนและเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าภาวะการ
ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีความผันผวน จะเป็นเพียงเหตุการณ์ระยะสั้น เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยยังอยู่ในระดับสูง และบริษัทจด
ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังเติบโต สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้กับนักลงทุนได้อย่างดี (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดสร้างบ้านใหม่ในเดือนเม.ย. 47 ลดลงแต่ยอดขออนุญาตสร้างบ้านกลับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดรายงานจากวอชิงตัน เมื่อ วันที่
18 พ.ค. 47 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่าในเดือนเม.ย. ยอดการสร้างบ้านใหม่ลดลงอยู่ที่ระดับ 1.969 ล้านหลัง (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล)
จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือลดลงร้อยละ 2.1 จากเดือนมี.ค.ที่มียอดสูงถึง 2.011ล้านหลัง และลดลงเล็กน้อยจากที่ก่อนหน้านั้นนักวิเคราะห์คาด
ว่ายอดสร้างบ้านใหม่จะลดลงอยู่ที่ระดับ 1.99 ล้านหลัง อย่างไรก็ตามยอดการขออนุญาตสร้างบ้านใหม่ในเดือนเม.ย. กลับเพิ่มสูงขึ้นที่ระดับ 1.999
ล้านหลังจากระดับ 1.975 ล้านหลัง(ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล)ในเดือนก่อนหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ
1.95 ล้านหลัง เนื่องจากมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขณะที่ผู้ซื้อเร่งรีบเพื่อที่จะทำสัญญาเงินกู้จำนองขณะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนั้นสมาคมผู้ประกอบการ
สร้างบ้านกล่าวว่า Housing Index ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดของผู้ประกอบการเกี่ยวกับภาวะการซื้อ-ขายบ้านว่าจะเป็นไปได้เพียงใด ในเดือนพ.ค.
อยู่ที่ระดับ 69 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนเม.ย. โดยระดับสูงกว่า 50 ชี้ว่าภาวะตลาดที่อยู่อาศัยดี หากต่ำกว่าถือว่าอยู่ในภาวะที่ไม่ดี อย่างไรก็
ตามเมื่อต้นปี 47 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของสรอ. ลดลงถึงระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 40 ปี และได้เริ่มปรับตัวสูงขึ้นเมื่อช่วง 2 | 3 สัปดาห์ที่
ผ่านมา สาเหตุจากเศรษฐกิจสรอ.ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ทำให้มีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่า ธ.กลางสรอ. จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลา
อันใกล้นี้ (รอยเตอร์)
2. ราคาน้ำมันทำให้อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือน เม.ย.47 สูงขึ้น รายงานจากลอนดอน เมื่อ 18 พ.ค.47 สนง.สถิติแห่งชาติ
ของอังกฤษรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากเดือนก่อน ทำให้อัตราเงินเฟ้อต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เป็น
ร้อยละ 1.2 จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นโดยราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของ สรอ. อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 21 ปีที่ 41.55
ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้รายจ่ายด้านพลังงานสำหรับรถยนต์และเครื่องทำความร้อนในบ้านของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น
แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังต่ำกว่าเป้าหมายซึ่งรัฐบาลกำหนดไว้ที่ร้อยละ 2.0 ต่อปี แต่คาดว่าราคาน้ำมันและราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกจะทำให้
อัตราเงินเฟ้อในเดือนต่อ ๆ ไปเพิ่มสูงขึ้น โดย ธ.กลางอังกฤษคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 2.0 ภายในอีก 2 ปี
ข้างหน้าแม้ว่าจะได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนนี้อีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 4.25 แล้วก็ตาม ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราดอกเบี้ย
อาจจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5.0 ภายในสิ้นปีนี้ (รอยเตอร์)
3. อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย.47 ในเขตยูโรโซนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับร้อยละ 2 รายงานจากบรัสเซลส์ เบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 18 พ.ค.47
สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย.47 ของ 12 ประเทศสมาชิกอียูที่ใช้เงินสกุลยูโรอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.0 เทียบ
ต่อปี เพิ่มขึ้นจากระดับร้อยละ 1.7 ในเดือน มี.ค.47 และหากเทียบต่อเดือนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อดังกล่าว
เป็นไปตามความคาดหมายทั้งของนักวิเคราะห์และคณะกรรมาธิการของอียู โดยคณะกรรมาธิการอียูพยากรณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อตลอดทั้งปี 47 จะอยู่ที่
ระดับร้อยละ 1.8 โดยราคาพลังงานเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เทียบกับเดือน มี.ค.47 สาเหตุจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งต้องมีการ
ติดตามตรวจสอบอัตราเงินเฟ้อต่อไปในระยะยาว ทั้งนี้ Core inflation ซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและต้นทุนอาหารที่ยังไม่แปรรูปในเดือน เม.ย.47
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เทียบต่อเดือน และร้อยละ 2.1 เทียบต่อปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ ธ.กลางอียูกำหนดไว้ แต่ใกล้เคียงกับระดับร้อยละ 2.0 ซึ่ง
เป็นระดับเป้าหมายในระยะปานกลาง อนึ่ง อัตราเงินเฟ้อเทียบต่อปีในเดือน เม.ย.47 ของประเทศสมาชิกอียูทั้งหมด 25 ประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ
1.9 จากร้อยละ 1.7 ในเดือน มี.ค.47 ในขณะที่เมื่อเทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 (รอยเตอร์)
4. เดือนก.พ.47 ธุรกิจในเยอรมนีล้มละลายลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ วันที่ 18 พ.ค. 47 สำนักงานสถิติ
เยอรมนีเปิดเผยว่า ในเดือนก.พ. ธุรกิจของเยอรมนีล้มละลายลดลงอยู่ที่ระดับ 3,082 แห่งหรือลดลงร้อยละ 0.8 จากระยะเดียวกันปีก่อนเป็นการ
ลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และนับเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามยอดการล้มละลายรวมซึ่ง
ประกอบด้วยธุรกิจและผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือนก.พ. อยู่ที่ระดับ 8,667 รายหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งยอดดังกล่าว
เป็นส่วนของผู้บริโภคถึงร้อยละ 35.4 ทั้งนี้ในปี 46 เยอรมนีมียอดรวมผู้ล้มละลายถึง 100,723 รายทำสถิติสูงสุด โดยเป็นหนี้ของภาคเอกชนถึง
61,403 ราย(รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 19/5/47 18/5/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.866 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40.6870/40.9668 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1250 - 1.2500 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 582.51/17.62 698.90/29.26 ตลท
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,300/7,400 7,300/7,400 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 34.88 35.7 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 17.59*/14.59 17.59*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 13 พ.ค..47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. บีโอไอเตรียมปรับเป้าหมายการลงทุนในปี 47 เพิ่มขึ้น รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยระหว่างการหารือกับผู้บริหารสำนักงานคณะ
กรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในงาน “ประกาศวิสัยทัศน์ สกท.2550” ว่า แนวโน้มการลงทุนในขณะนี้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เห็น
ได้จากการลงทุนในช่วง 7 เดือนแรกของปี งปม.47 (ต.ค.46-เม.ย.47) ซึ่งตัวเลขการลงทุนที่ได้รับอนุมัติจากบีโอไอมีมูลค่าถึง 2.7 แสน ล.บาท
ใกล้เคียงกับเป้าหมายการลงทุนที่กำหนดไว้ในปี 47 จำนวน 2.9 แสน ล.บาท จึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับเป้าหมายการลงทุนของบีโอไอในปีนี้
เป็น 4 แสน ล.บาท ทั้งนี้ จากการที่บีโอไอได้มีการปรับยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา มีนักลงทุนต่างชาติขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีบริษัทผู้ผลิต 4 รายใหญ่ได้เข้ามาขยายการลงทุนหลายหมื่นล้านบาท นอกจากนี้
ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า จะมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐและยุโรป เข้ามาขยายการลงทุนในไทย
เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40,000-50,000 ล.บาท (ข่าวสด)
2. ก.พลังงานยืนยันจะมีการปรับเพดานราคาน้ำมันอีกครั้ง รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมี
การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับเพดานราคาน้ำมันอีกครั้ง โดยเฉพาะในส่วนของน้ำมันเบนซิน ซึ่งจะต้องพิจารณา
ช่วงเวลาที่เหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบกับผู้บริโภคมากนัก โดยในเบื้องต้นแนวทางการปรับขึ้นราคาดังกล่าวกำหนดที่จะขึ้นครั้งละไม่เกิน 1 บาทต่อ
ลิตร แต่น้ำมันดีเซลรัฐบาลจะยังคงตรึงราคาต่อไป เพื่อไม่ให้กระทบกับระดับราคาสินค้าในประเทศที่อาจปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นตาม ทั้งนี้ ในการ
ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 18 พ.ค.47 ที่ประชุมได้พิจารณามาตรการประหยัดพลังงานเพื่อรองรับวิกฤตราคาน้ำมัน ซึ่งประกอบด้วย การเร่งรัดประหยัด
พลังงานในระบบขนส่ง การจัดหาเชื้อเพลิงทางเลือก โดยผลักดันให้มีการใช้เอทานอลผสมในน้ำมันเบนซิน และใช้ไบโอดีเซลผสมในน้ำมันดีเซล เพื่อ
ลดต้นทุนการนำเข้าน้ำมัน รวมถึงการรณรงค์ให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ อนึ่ง สำหรับการพิจารณาปรับราคาขายปลีกน้ำมันนั้น ครม.ได้มอบ
อำนาจให้ ก.พลังงานเป็นผู้ตัดสินใจ โดยจะไม่มีการเปิดเผยวันเวลาล่วงหน้า เพื่อป้องกันการกว้านซื้อน้ำมันเพื่อทำกำไร (โลกวันนี้)
3. บสท.สามารถดำเนินการกับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพแล้วกว่า 95% กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เปิดเผยว่า
บสท.ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยมีข้อยุติแล้วกว่า 95% หรือมีมูลค่าทางบัญชี 7.5 แสน ล.บาท ทำให้ บสท.มี
สินทรัพย์ที่ได้รับโอนแทนการชำระหนี้เข้ามาเป็นทรัพย์สินรอการขายเพิ่มขึ้น และในการประมูลขายทรัพย์สินรอการขายในครั้งที่ผ่านมา สามารถขายได้
เกือบ 1,000 ล.บาท สูงกว่าราคาขั้นต่ำที่กำหนดไว้กว่า 30% (มติชน)
4. การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นจองมีผลให้การเก็งกำไรลดลงและการลงทุนระยะยาวเพิ่มขึ้น กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ต.ล.ท.มีความเป็นห่วงการลงทุนในหุ้นที่มีการออกและเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือที่เรียกว่าหุ้นจอง
เนื่องจากพบว่าการลงทุนในหุ้นเหล่านี้ในระยะหลัง ไม่สามารถสร้างผลกำไรให้กับนักลงทุนได้ เพราะราคาหุ้นส่วนใหญ่ต่ำกว่าราคาจอง อย่างไรก็
ตาม หากพิจารณาอีกด้าน ถือว่าการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นโดยเฉพาะหุ้นจอง จะมีส่วนดีทำให้นักลงทุนระยะสั้นที่มีการซื้อขายลักษณะเก็งกำไรลด
จำนวนลง ขณะที่นักลงทุนระยะยาว ซึ่งมีความต้องการถือครองหุ้นอย่างแท้จริง จะสามารถเข้ามาลงทุนและเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าภาวะการ
ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีความผันผวน จะเป็นเพียงเหตุการณ์ระยะสั้น เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยยังอยู่ในระดับสูง และบริษัทจด
ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังเติบโต สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้กับนักลงทุนได้อย่างดี (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดสร้างบ้านใหม่ในเดือนเม.ย. 47 ลดลงแต่ยอดขออนุญาตสร้างบ้านกลับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดรายงานจากวอชิงตัน เมื่อ วันที่
18 พ.ค. 47 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่าในเดือนเม.ย. ยอดการสร้างบ้านใหม่ลดลงอยู่ที่ระดับ 1.969 ล้านหลัง (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล)
จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือลดลงร้อยละ 2.1 จากเดือนมี.ค.ที่มียอดสูงถึง 2.011ล้านหลัง และลดลงเล็กน้อยจากที่ก่อนหน้านั้นนักวิเคราะห์คาด
ว่ายอดสร้างบ้านใหม่จะลดลงอยู่ที่ระดับ 1.99 ล้านหลัง อย่างไรก็ตามยอดการขออนุญาตสร้างบ้านใหม่ในเดือนเม.ย. กลับเพิ่มสูงขึ้นที่ระดับ 1.999
ล้านหลังจากระดับ 1.975 ล้านหลัง(ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล)ในเดือนก่อนหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ
1.95 ล้านหลัง เนื่องจากมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขณะที่ผู้ซื้อเร่งรีบเพื่อที่จะทำสัญญาเงินกู้จำนองขณะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนั้นสมาคมผู้ประกอบการ
สร้างบ้านกล่าวว่า Housing Index ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดของผู้ประกอบการเกี่ยวกับภาวะการซื้อ-ขายบ้านว่าจะเป็นไปได้เพียงใด ในเดือนพ.ค.
อยู่ที่ระดับ 69 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนเม.ย. โดยระดับสูงกว่า 50 ชี้ว่าภาวะตลาดที่อยู่อาศัยดี หากต่ำกว่าถือว่าอยู่ในภาวะที่ไม่ดี อย่างไรก็
ตามเมื่อต้นปี 47 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของสรอ. ลดลงถึงระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 40 ปี และได้เริ่มปรับตัวสูงขึ้นเมื่อช่วง 2 | 3 สัปดาห์ที่
ผ่านมา สาเหตุจากเศรษฐกิจสรอ.ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ทำให้มีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่า ธ.กลางสรอ. จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลา
อันใกล้นี้ (รอยเตอร์)
2. ราคาน้ำมันทำให้อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือน เม.ย.47 สูงขึ้น รายงานจากลอนดอน เมื่อ 18 พ.ค.47 สนง.สถิติแห่งชาติ
ของอังกฤษรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากเดือนก่อน ทำให้อัตราเงินเฟ้อต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เป็น
ร้อยละ 1.2 จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นโดยราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของ สรอ. อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 21 ปีที่ 41.55
ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้รายจ่ายด้านพลังงานสำหรับรถยนต์และเครื่องทำความร้อนในบ้านของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น
แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังต่ำกว่าเป้าหมายซึ่งรัฐบาลกำหนดไว้ที่ร้อยละ 2.0 ต่อปี แต่คาดว่าราคาน้ำมันและราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกจะทำให้
อัตราเงินเฟ้อในเดือนต่อ ๆ ไปเพิ่มสูงขึ้น โดย ธ.กลางอังกฤษคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 2.0 ภายในอีก 2 ปี
ข้างหน้าแม้ว่าจะได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนนี้อีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 4.25 แล้วก็ตาม ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราดอกเบี้ย
อาจจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5.0 ภายในสิ้นปีนี้ (รอยเตอร์)
3. อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย.47 ในเขตยูโรโซนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับร้อยละ 2 รายงานจากบรัสเซลส์ เบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 18 พ.ค.47
สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย.47 ของ 12 ประเทศสมาชิกอียูที่ใช้เงินสกุลยูโรอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.0 เทียบ
ต่อปี เพิ่มขึ้นจากระดับร้อยละ 1.7 ในเดือน มี.ค.47 และหากเทียบต่อเดือนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อดังกล่าว
เป็นไปตามความคาดหมายทั้งของนักวิเคราะห์และคณะกรรมาธิการของอียู โดยคณะกรรมาธิการอียูพยากรณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อตลอดทั้งปี 47 จะอยู่ที่
ระดับร้อยละ 1.8 โดยราคาพลังงานเดือน เม.ย.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เทียบกับเดือน มี.ค.47 สาเหตุจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งต้องมีการ
ติดตามตรวจสอบอัตราเงินเฟ้อต่อไปในระยะยาว ทั้งนี้ Core inflation ซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและต้นทุนอาหารที่ยังไม่แปรรูปในเดือน เม.ย.47
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เทียบต่อเดือน และร้อยละ 2.1 เทียบต่อปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ ธ.กลางอียูกำหนดไว้ แต่ใกล้เคียงกับระดับร้อยละ 2.0 ซึ่ง
เป็นระดับเป้าหมายในระยะปานกลาง อนึ่ง อัตราเงินเฟ้อเทียบต่อปีในเดือน เม.ย.47 ของประเทศสมาชิกอียูทั้งหมด 25 ประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ
1.9 จากร้อยละ 1.7 ในเดือน มี.ค.47 ในขณะที่เมื่อเทียบต่อเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 (รอยเตอร์)
4. เดือนก.พ.47 ธุรกิจในเยอรมนีล้มละลายลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ วันที่ 18 พ.ค. 47 สำนักงานสถิติ
เยอรมนีเปิดเผยว่า ในเดือนก.พ. ธุรกิจของเยอรมนีล้มละลายลดลงอยู่ที่ระดับ 3,082 แห่งหรือลดลงร้อยละ 0.8 จากระยะเดียวกันปีก่อนเป็นการ
ลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และนับเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามยอดการล้มละลายรวมซึ่ง
ประกอบด้วยธุรกิจและผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือนก.พ. อยู่ที่ระดับ 8,667 รายหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งยอดดังกล่าว
เป็นส่วนของผู้บริโภคถึงร้อยละ 35.4 ทั้งนี้ในปี 46 เยอรมนีมียอดรวมผู้ล้มละลายถึง 100,723 รายทำสถิติสูงสุด โดยเป็นหนี้ของภาคเอกชนถึง
61,403 ราย(รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 19/5/47 18/5/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.866 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40.6870/40.9668 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1250 - 1.2500 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 582.51/17.62 698.90/29.26 ตลท
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,300/7,400 7,300/7,400 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 34.88 35.7 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 17.59*/14.59 17.59*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 13 พ.ค..47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-