สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎรการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ฉบับที่ ๙

ข่าวการเมือง Friday May 21, 2004 08:37 —รัฐสภา

ฉบับที่ ๙ 
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
วันพุธที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๗
เวลา ๑๗.๓๐ - ๑๘.๓๐ นาฬิกา
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ตอบชี้แจงต่อว่า
ในกรณีโครงการทำครัวการบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ได้มีหนังสือชี้แจงและ
รับรองว่าบริษัท Bangkok Air มีคุณสมบัติในการเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ และมีความชำนาญ
ในการทำครัวการบิน ในเรื่องดังกล่าวนี้ได้รับการยืนยันถึง ๓ ครั้ง จากผู้บริหารระดับสูงการ
ท่าอากาศยานซีอาน ดังนั้นคณะกรรมการคัดเลือกจึงได้เลือกบริษัท Bangkok Air เป็นผู้ได้รับ
สัมปทานในการดำเนินการทำโครงการครัวการบินฯ เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐและน่าเชื่อถือ
จึงเห็นควรให้ยุติเรื่องดังกล่าวนี้
จากนั้น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสิงห์บุรี
พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รองนายกรัฐมนตรี
ในเรื่องของการเงินการธนาคาร ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประสบกับปัญหาภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ
ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้เข้ามาแก้ไขปัญหา โดยการรวบรวมกิจการและการเพิ่มทุน
เป็น ๒ ธนาคารเข้าด้วยกันคือ ธนาคารไทยธนาคารกับบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม IFCT เป็น ๑ ธนาคาร
และธนาคารทหารไทยกับธนาคาร DBS ไทยทนุ เป็นอีก ๑ ธนาคาร แต่รัฐบาลในขณะนั้นได้เข้าไปแทรกแซง
โดยมีการสลับคู่การรวมธนาคาร ซึ่งนำบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม IFCT กับธนาคารทหารไทยรวมเข้าด้วย
จากเดิมบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมฯ จะต้องรวมกับธนาคารไทยธนาคาร จึงทำให้เกิดความไม่โปร่งใสขึ้น
โดยเฉพาะในเรื่องราคาหุ้นของทั้ง ๒ ธนาคาร เพราะในเรื่องของราคาหุ้นนั้นจะต้องทำการศึกษาในเรื่อง
ต่าง ๆ ดังนี้
๑. การดูแลค่าหุ้นในอดีตเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาว่าเป็นอย่างไร
๒. การปรับปรุงมูลค่าหุ้นตามบัญชี
๓. การศึกษามูลค่าปัจจุบันสุทธิของเงินปันผล ซึ่งเป็นการคำนวนมูลค่าของกิจการ
ตามราคาหุ้น
แต่รัฐบาลกลับเลือกราคาหุ้นที่เอื้อประโยชน์ให้กับธนาคารทหารไทย โดยไม่ได้ใช้ราคาประเมินสินทรัพย์ตามบัญชี
ซึ่งเป็นการคาดเดาจากสมมติฐานที่สามารถแทรกแซงได้
จากนั้น ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตอบชี้แจงว่า ในขณะที่
ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงราคาหุ้น แต่เข้าไปทำงาน
เพื่อผลประโยชน์แก่ธนาคาร และลูกค้าของธนาคารเท่านั้น โดยให้ผู้บริหารธนาคารได้ร่วมกันปรึกษา
เพื่อหาแนวทางกำหนดมูลค่าหุ้น โดยใช้ทฤษฎี วิธีการคำนวนราคาหุ้น ซึ่งคำนวนตามมูลค่าของบัญชี ราคาตลาด
และราคาตามความเป็นจริง ดังนั้นการรวมธนาคารเข้าด้วยกันไม่ใช่เป็นการเอื้อประโยชน์เพื่อผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ
แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ