เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้(22 พ.ค.46) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น พรรคจะต้องทำงานต่อในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมามีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมท้านายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ ประธานวิปฝ่ายค้านเอาตำหน่งเป็นเดิมพัน ซึ่งตนอยากยกตัวอย่างว่าทำไมพรรคไม่รับคำท้าในทันทีทันใด รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลอำนาจนิยมสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขหลักฐานและเอกสารได้หมดทุกอย่าง ซึ่งตนได้ตั้งข้อสังเกตว่าประเด็นที่ตนอยากพิสูจน์ความจริงกับนายสุริยะก็คือกรณีการจ้างก่อสร้างอุโมงค์ ใต้อาคารจอดเครื่องบินและอาคารที่พักผู้โดยสารซึ่งใช้เงินถึง 3,500 ล้านบาทเป็นการก่อส้างในที่โล่งแจ้งและปิดไว้ใช้ในช่วงหลัง เปรียบเทียบกับการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟใต้ดินที่เป็นการก่อสร้างยาก เพราะเป็นการสร้างในเมือง แต่ปรากฎว่าใช้งบประมาณก่อสร้างแค่กม.ละ 350 ล้านบาท ต่างกันถึง 10 เท่า กรณีอย่างนี้จะท้าพิสูจน์กันได้ไหมว่าเงินที่แพงผิดปกติ เข้ากระเป๋าใคร หรือในกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปตรวจสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อมี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นโครงสร้างของการก่อสร้างที่สำเร็จ ถูกแก้ไขให้อยู่ในระดับที่เป็นไปตามเป้าหมาย ถือเป็นการก่อสร้างช้า เพราะกำหนดการบินบอกว่าจะเริ่มในวันที่ 28 ก.ย. 2548 ตนคิดว่าเมื่อถึงวันนั้นก็ยังบินไม่ได้ สำคัญที่สุดในเรื่องของการใช้เงิน ก็ขอให้นำเบิกซึ่งเป็นองค์กรกลางที่รัฐบาลไปกู้เงินมา เข้ามาตรวจสอบ
นายถาวร กล่าวต่อว่า ที่ต้องติดตามต่ออีกเรื่องก็คือการชี้แจงของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา โดยเฉพาะกรณีบ้านกลางกรุงที่นายอาซิตาโดถือครอง เพราะตอนแรกบอกว่านายอาซิตาโดใช้เงิน 6.2 ล้าน ซื้อบ้านมาเพื่อเก็งกำไร ซึ่งมันน่าผิดสังเกต เพราะคนซื้อบ้านมาตั้ง 6.2 ล้านบาท แล้วใช้เงินอีก 2 ล้านตกแต่งไปอีก 2 ล้านมันฟังไม่ขึ้นเพราะไม่มีใครทำอย่างนั้น และหลังตกแต่งเสร็จยังให้หลานสาวของนายวันนอร์ เข้าไปอยู่แบบนี้ไม่ได้หวังตกแต่งเพื่อเก็งกำไรแล้ว ที่สำคัญหลังจากขายบ้านได้เช็คที่ได้จากการขายบ้านก็ไปเข้าบัญชีบุคคลข้างเคียง ไม่ได้เข้าบัญชีนายกิตติศักดิ์ โดยนายวันนอร์ให้เหตุผลว่าที่ต้องนำเข้าบัญชีบุคคลข้างเคียงเพราะติดหนี้เขา แต่ช่วงหนึ่งที่ชี้แจงนายวันนอร์ บอกว่านายอาซิตาโดร่ำรวย มีสวนยาง ขายต้นไม้ ขายผลไม้ ซึ่งมันขัดกันเอง แค่การพูดไม่ถึงชั่วโมงก็ขัดแย้งกันเองแล้ว ตัวนายวันนอร์ก็เช่นกัน เริ่มแรกก็บอกว่ามีรายได้ 8 แสน แต่พูดไปพูดมา ก็บอกว่ารวยแล้ว เพราะปู่ ย่า ตา ยาย เป็นถึงดาโต๊ะ ค้าเพชร ค้าพลอย สามารถสร้างบ้านเหล่านี้ได้
“ สิ่งสำคัญที่สุดคือประเด็นการร่ำรวยทับซ้อน โดยเฉพาะกรณีมรดกของน้องเขย ตรงนี้ต้องมีการพิสูจน์กันต่อ ได้เรียกร้องให้ป.ป.ช. เข้าไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายสุลัยมาน ในสมัยดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว. ชุดสุดท้ายที่ได้รับการแต่งตั้ง ว่าได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน บัญชีเงินสดอย่างไร ตั้งแต่ปี 40 — 43 ก่อนกลับมาเป็นส.ว.ในปี 44 ทั้งนี้จะขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการเดินทางของเงินและทรัพย์สิน ทั้งนี้รวมถึงกรณีที่จุธารัตน์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กู้ยืมเงินจากกรรมการ 74 ล้านบาท โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ตรงนี้เอาเงินมาจากไหน เงินใคร และสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าได้ไหม ว่าเงินที่นำมาสร้างบ้านตรงนี้ไม่ใช้เงินของนายวันนอร์ แม้แต่บาทเดียว อยากวอนให้ป.ป.ช.ถอดคำพูดของนายวันนอร์ และ นายสุลัยมาลย์มาดู ว่าตรงกับข้อมูลที่เราให้ไปหรือไม่ อยากให้ประธานป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน ซึ่งตนพร้อมที่จะเดินทางไปให้การกับป.ป.ช. และให้รายละเอียดเป็นระยะๆ ที่สำคัญคนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทรัพย์ของนายวันนอร์ตั้งอยู่ ทั้งบ้านศรียะลา บ้านกลางกรุง คอนโดมิเนียม ที่หาดจอมเทียน บ้านที่โบนันซ่า ล้วนรู้ดีว่าทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นของใคร และใครป็นผู้ใช้บ้าง“ นายถาวรกล่าว
นายถวรกล่าวต่อว่า กรณีที่ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเรียกร้องให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาตรวจสอบการอภิปรายและแสดงภาพประกอบของตนนั้น รูปของนายวันนอร์ที่ทำท่าเอามือขึ้นมาเกยที่หน้าผาก มองว่าเป็นภาพที่กำลังครุ่นคิดใช้วิจารณญาณก็ได้ หรือข้อความที่เขียนข้างล่างว่ามีอันเป็นไป ถ้าตนจะเอาพระราชดำรัสมาใส่ก็คงไม่เหมาะ คำว่ามีอันเป็นไปความจริงต้องมีการอภิปรายเพิ่มเติม แต่บังเอิญว่าโดนประท้วงก่อนจึงไม่สามารถชี้แจง อธิบายภาพที่ปรากฎต่อสื่อในวันนั้นได้ อย่างไรก็ตามพร้อมรับผิดชอบภาพที่นำมาแสดง รวมทั้งการตรวจสอบของคณะกรรมการควบคุมจริยธรรมของสภาฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่างไร เพราะนายกฯบอกว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านอภิปรายส่วนใหญ่บิดเบือนความจริง และการลงมติรัฐบาลก็น่าจะชนะอย่าล้นหลาม นายถาวรกล่าวว่า รัฐบาลชนะล้นหลามอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก อำนาจนิยม ประชานิยม ทุนนิยม ต้องสู้ได้ด้วยปัญญานิยมเท่านั้น จะสู้กับอำนาจนิยมได้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี ตอนนี้เสียงของประชาชนเริ่มเห็นด้วยกับพรรค แม้คะแนนนิยมในตัวพ.ต.ท.ทักษิณจะยังมีมาก คะแนนในสภาคงไม่มีทางชนะเขาได้
เมื่อถามว่าในส่วนการชี้แจงของรมต.คนอื่นๆ ประเมินว่าสอบตกหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า ไม่ถึงกับสอบตกเพราะบางคนก็อธิบายดี บ้างเรื่องรมต.ชี้แจงดีเราก็ยอมรับ อย่างนายวัฒนาก็ชี้แจงได้ชัดเจน เช่นเรื่องการซื้อข้าว แต่ที่ชี้แจงแต่แก้ไม่ได้คือเรื่องของแพง ตรงนี้คิดว่ายังสอบตก ด้านนายอดิศัยได้ยอมรับแล้วว่าคะแนนที่สูงขึ้นของนักเรียนคนหนึ่ง ซึ่งสูงโด่งในบางวิชาถึง 100% มันเป็นนัยสำคัญที่เราต้องตั้งข้อสังเกต
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22/05/47--จบ--
-สส-
นายถาวร กล่าวต่อว่า ที่ต้องติดตามต่ออีกเรื่องก็คือการชี้แจงของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา โดยเฉพาะกรณีบ้านกลางกรุงที่นายอาซิตาโดถือครอง เพราะตอนแรกบอกว่านายอาซิตาโดใช้เงิน 6.2 ล้าน ซื้อบ้านมาเพื่อเก็งกำไร ซึ่งมันน่าผิดสังเกต เพราะคนซื้อบ้านมาตั้ง 6.2 ล้านบาท แล้วใช้เงินอีก 2 ล้านตกแต่งไปอีก 2 ล้านมันฟังไม่ขึ้นเพราะไม่มีใครทำอย่างนั้น และหลังตกแต่งเสร็จยังให้หลานสาวของนายวันนอร์ เข้าไปอยู่แบบนี้ไม่ได้หวังตกแต่งเพื่อเก็งกำไรแล้ว ที่สำคัญหลังจากขายบ้านได้เช็คที่ได้จากการขายบ้านก็ไปเข้าบัญชีบุคคลข้างเคียง ไม่ได้เข้าบัญชีนายกิตติศักดิ์ โดยนายวันนอร์ให้เหตุผลว่าที่ต้องนำเข้าบัญชีบุคคลข้างเคียงเพราะติดหนี้เขา แต่ช่วงหนึ่งที่ชี้แจงนายวันนอร์ บอกว่านายอาซิตาโดร่ำรวย มีสวนยาง ขายต้นไม้ ขายผลไม้ ซึ่งมันขัดกันเอง แค่การพูดไม่ถึงชั่วโมงก็ขัดแย้งกันเองแล้ว ตัวนายวันนอร์ก็เช่นกัน เริ่มแรกก็บอกว่ามีรายได้ 8 แสน แต่พูดไปพูดมา ก็บอกว่ารวยแล้ว เพราะปู่ ย่า ตา ยาย เป็นถึงดาโต๊ะ ค้าเพชร ค้าพลอย สามารถสร้างบ้านเหล่านี้ได้
“ สิ่งสำคัญที่สุดคือประเด็นการร่ำรวยทับซ้อน โดยเฉพาะกรณีมรดกของน้องเขย ตรงนี้ต้องมีการพิสูจน์กันต่อ ได้เรียกร้องให้ป.ป.ช. เข้าไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายสุลัยมาน ในสมัยดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว. ชุดสุดท้ายที่ได้รับการแต่งตั้ง ว่าได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน บัญชีเงินสดอย่างไร ตั้งแต่ปี 40 — 43 ก่อนกลับมาเป็นส.ว.ในปี 44 ทั้งนี้จะขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการเดินทางของเงินและทรัพย์สิน ทั้งนี้รวมถึงกรณีที่จุธารัตน์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กู้ยืมเงินจากกรรมการ 74 ล้านบาท โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ตรงนี้เอาเงินมาจากไหน เงินใคร และสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าได้ไหม ว่าเงินที่นำมาสร้างบ้านตรงนี้ไม่ใช้เงินของนายวันนอร์ แม้แต่บาทเดียว อยากวอนให้ป.ป.ช.ถอดคำพูดของนายวันนอร์ และ นายสุลัยมาลย์มาดู ว่าตรงกับข้อมูลที่เราให้ไปหรือไม่ อยากให้ประธานป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน ซึ่งตนพร้อมที่จะเดินทางไปให้การกับป.ป.ช. และให้รายละเอียดเป็นระยะๆ ที่สำคัญคนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทรัพย์ของนายวันนอร์ตั้งอยู่ ทั้งบ้านศรียะลา บ้านกลางกรุง คอนโดมิเนียม ที่หาดจอมเทียน บ้านที่โบนันซ่า ล้วนรู้ดีว่าทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นของใคร และใครป็นผู้ใช้บ้าง“ นายถาวรกล่าว
นายถวรกล่าวต่อว่า กรณีที่ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเรียกร้องให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาตรวจสอบการอภิปรายและแสดงภาพประกอบของตนนั้น รูปของนายวันนอร์ที่ทำท่าเอามือขึ้นมาเกยที่หน้าผาก มองว่าเป็นภาพที่กำลังครุ่นคิดใช้วิจารณญาณก็ได้ หรือข้อความที่เขียนข้างล่างว่ามีอันเป็นไป ถ้าตนจะเอาพระราชดำรัสมาใส่ก็คงไม่เหมาะ คำว่ามีอันเป็นไปความจริงต้องมีการอภิปรายเพิ่มเติม แต่บังเอิญว่าโดนประท้วงก่อนจึงไม่สามารถชี้แจง อธิบายภาพที่ปรากฎต่อสื่อในวันนั้นได้ อย่างไรก็ตามพร้อมรับผิดชอบภาพที่นำมาแสดง รวมทั้งการตรวจสอบของคณะกรรมการควบคุมจริยธรรมของสภาฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่างไร เพราะนายกฯบอกว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านอภิปรายส่วนใหญ่บิดเบือนความจริง และการลงมติรัฐบาลก็น่าจะชนะอย่าล้นหลาม นายถาวรกล่าวว่า รัฐบาลชนะล้นหลามอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก อำนาจนิยม ประชานิยม ทุนนิยม ต้องสู้ได้ด้วยปัญญานิยมเท่านั้น จะสู้กับอำนาจนิยมได้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี ตอนนี้เสียงของประชาชนเริ่มเห็นด้วยกับพรรค แม้คะแนนนิยมในตัวพ.ต.ท.ทักษิณจะยังมีมาก คะแนนในสภาคงไม่มีทางชนะเขาได้
เมื่อถามว่าในส่วนการชี้แจงของรมต.คนอื่นๆ ประเมินว่าสอบตกหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า ไม่ถึงกับสอบตกเพราะบางคนก็อธิบายดี บ้างเรื่องรมต.ชี้แจงดีเราก็ยอมรับ อย่างนายวัฒนาก็ชี้แจงได้ชัดเจน เช่นเรื่องการซื้อข้าว แต่ที่ชี้แจงแต่แก้ไม่ได้คือเรื่องของแพง ตรงนี้คิดว่ายังสอบตก ด้านนายอดิศัยได้ยอมรับแล้วว่าคะแนนที่สูงขึ้นของนักเรียนคนหนึ่ง ซึ่งสูงโด่งในบางวิชาถึง 100% มันเป็นนัยสำคัญที่เราต้องตั้งข้อสังเกต
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22/05/47--จบ--
-สส-