‘หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์’ สวนกลับนายกฯ ‘ไม่นักเลงจริง’ แอบแทงฝ่ายค้านในรายการตัวเอง ไม่กล้าเผชิญความจริงในสภาผู้แทนฯ พร้อมท้า ให้เอาข้อมูลข้อเท็จจริงมาตอบโต้กันในวันแถลงผลงานรัฐบาลในสัปดาห์หน้า
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกฯพูดในรายการ ‘นายกทักษิณ คุยกับประชาชน’ โดยกล่าวหาว่าฝ่ายค้านจับแพะชนแกะโกหกในสภา ทำให้นายกฯและครอบครัวเสียหายว่า นายกฯไม่กล้าเผชิญความจริง อาศัยความได้เปรียบพูดข้างเดียวอย่างนี้ภาษาคนไทยโบราณเขาเรียกว่า ไม่นักเลงจริง ซึ่งตนขอยืนยันว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านพูดอภิปรายในสภา 3 วันเป็นความจริง และมีเอกสารราชการเกี่ยวข้องด้วย
‘คุณจุรินทร์ (ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน) ก็สรุปได้ชัดเจนและการอภิปรายก็จำเป็นต้องพูดถึงบุคคลที่สาม เพราะเรากล่าวหาว่ารัฐมนตรีช่วยพวกพ้องจึงทำเป็นต้องเอาพวกพ้องซึ่งเป็นบุคคลที่สามมาแสดงให้เห็น ไม่เช่นนั่นจะกลายเป็นการกล่าวหาลอย ซึ่งผมเข้าใจว่าสิ่งที่นายกสะเทือนมากก็คงเป็นเพราะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของท่านที่มีอยู่ 2-3 เรื่อง ซึ่งขอบอกว่าถ้าเรามุ่งทำร้ายนายกฯกับครอบครัวจริง ยังมีเรื่องที่เยอะกว่านี้’ นายบัญญัติกล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ในการอภิปรายเมื่อมีการกล่าวถึงบุคคลที่สาม และยิ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพวกรัฐบาลด้วยแล้วก็จะมีการประท้วงกันมาก ซึ่งตนอยากให้สังคมการเมืองที่มักบอกว่า คนนอกสภาโต้แย้งไม่ได้จะเสียหาย ทั้งที่ความจริงฟ้องร้องได้ โดยอยากให้คิดว่าหากบุคคลที่สามไม่สุจริตแล้วไม่อยากให้พูดถึง บุคคลที่ห้า ที่หก และที่ล้านซึ่งหมายถึงประชาชน ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการสมคบของรัฐมนตรีกับบุคคลที่สามจะเป็นอย่างไร ดังนั้นแม้รัฐบาลจะกล่าวหาอย่างไรก็แล้วแต่ ฝ่ายค้านก็ภาคภูมิใจที่ได้ทำภาระกิจและลุล่วงไปตลอด 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งได้มีประชาชนกว่า 6 แสนรายได้ติดต่อผ่านทางเว็บไซด์พรรค อย่างไรก็ตามหากฝ่ายค้านมีเสียงพอในการที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ การอภิปรายครั้งนี้เราจะสามารถปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ และน่าจะมีโอกาสแสดงความเป็นตัวตนของนายกฯได้มากกว่า
‘ถ้านายกฯ กล้าเผชิญกับความจริงท่านสามารถใช้สิทธิที่ถูกพาดพิงพูดจาในสภาได้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่เห็นท่านใช้สิทธิกลายเป็นว่าแอบมาใช่สื่อของรัฐพูดข้างเดียว ทั้งที่สามารถใช้เวทีสภา พูดได้ทุกเรื่อง และฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะโต้แย้งหักล้างทุกอย่าง ที่ท่านพูดกล่าวหาฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นถ้าท่านพร้อมพิสูจน์ความจริงเวทีสภายังรออยู่ และเราพร้อมโต้แย้งทุกกรณี และผมขอท้าวันแถลงผลงานท่านนายกฯมีสิทธิกล่าวหาพวกเราได้เลย ว่ารัฐบาลมีผลงานรัฐบาลขนาดนี้และฝ่ายค้านโกหกอย่างไร จับแพะชนแกะอย่างไรและเราก็จะชี้แจงให้ฟัง ยันกลับไปว่าไม่ใช่เรื่องเท็จเป็นเรื่องจริงและยังมีความจริงที่มากกว่านี้อีก ซึ่งถ้าท่านยังกล่าวหาอยู่ก็น่าจะใช้เวทีแถลงผลงานของรัฐบาลให้เป็นประโยชน์เพราะเป็นเวทีแห่งความเท่าเทียมกันของทั้งสองฝ่าย โดยมีประธานสภาฯทำหน้าที่เป็นคนกลางสังคมจะได้ประโยชน์’ นายบัญญัติ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ในการอภิปรายผลงานรัฐบาลฝ่ายค้านคงจะพูดถึงความล้มเหลวที่รัฐบาลบอกว่าสำเร็จแต่ฝ่ายค้านคงมีเวลาพูดน้อยเพราะฝ่ายสส.รัฐบาลคงพยายามช่วงชิงเวลาเพื่อปิดกั้นไม่ให้ฝ่ายค้านพูดมากนัก ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจย้อนหลังในตำแหน่งรัฐมนตรีของร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายบัญญัติ กล่าวว่า จากการหารือกับนายอุทัย พิมพ์ใจชน ตนได้ย้ำไปว่า การทำอย่างนี้จะทำให้ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลได้ลำบากซึ่งนายอุทัยได้รับปากว่าหลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจจบจะเรียกทุกฝ่ายมาหารือ ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะรวบรวมความเห็นของนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ในเบื้องต้นได้มีการพูดกันแล้วว่าฝ่ายค้านน่าจะอภิปรายได้มากกว่ากรอบที่กำหนดในสภา โดยล่าสุดมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา ได้แสดงความเห็นว่า พฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจถ้าตราบใดยังเป็นรัฐมนตรีก็น่าจะอภิปรายได้เพราะความมุ่งหมายก็คือไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีดังนั้นทางพรรคจะประมวลความเห็นเหล่านี้เพื่อนำไปหารือกับประธานสภาฯอีกครั้ง เพื่อวางกรอบการอภิปราย
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงไม่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความไปเลย นายบัญญัติ กล่าวว่า ขอให้ได้ข้อยุติในเบื้องต้นก่อนถ้าไม่มีข้อโต้แย้งก็ไม่ต้องส่งไปเพราะการส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นข้อโต้แย้งเรื่องข้อกล่าวหาในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรที่เกี่ยวข้อง ถ้าเราทำให้ไม่มีปัญหาได้ก็ควรจะทำ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23/05/47--จบ--
-สส-
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกฯพูดในรายการ ‘นายกทักษิณ คุยกับประชาชน’ โดยกล่าวหาว่าฝ่ายค้านจับแพะชนแกะโกหกในสภา ทำให้นายกฯและครอบครัวเสียหายว่า นายกฯไม่กล้าเผชิญความจริง อาศัยความได้เปรียบพูดข้างเดียวอย่างนี้ภาษาคนไทยโบราณเขาเรียกว่า ไม่นักเลงจริง ซึ่งตนขอยืนยันว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านพูดอภิปรายในสภา 3 วันเป็นความจริง และมีเอกสารราชการเกี่ยวข้องด้วย
‘คุณจุรินทร์ (ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน) ก็สรุปได้ชัดเจนและการอภิปรายก็จำเป็นต้องพูดถึงบุคคลที่สาม เพราะเรากล่าวหาว่ารัฐมนตรีช่วยพวกพ้องจึงทำเป็นต้องเอาพวกพ้องซึ่งเป็นบุคคลที่สามมาแสดงให้เห็น ไม่เช่นนั่นจะกลายเป็นการกล่าวหาลอย ซึ่งผมเข้าใจว่าสิ่งที่นายกสะเทือนมากก็คงเป็นเพราะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของท่านที่มีอยู่ 2-3 เรื่อง ซึ่งขอบอกว่าถ้าเรามุ่งทำร้ายนายกฯกับครอบครัวจริง ยังมีเรื่องที่เยอะกว่านี้’ นายบัญญัติกล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ในการอภิปรายเมื่อมีการกล่าวถึงบุคคลที่สาม และยิ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพวกรัฐบาลด้วยแล้วก็จะมีการประท้วงกันมาก ซึ่งตนอยากให้สังคมการเมืองที่มักบอกว่า คนนอกสภาโต้แย้งไม่ได้จะเสียหาย ทั้งที่ความจริงฟ้องร้องได้ โดยอยากให้คิดว่าหากบุคคลที่สามไม่สุจริตแล้วไม่อยากให้พูดถึง บุคคลที่ห้า ที่หก และที่ล้านซึ่งหมายถึงประชาชน ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการสมคบของรัฐมนตรีกับบุคคลที่สามจะเป็นอย่างไร ดังนั้นแม้รัฐบาลจะกล่าวหาอย่างไรก็แล้วแต่ ฝ่ายค้านก็ภาคภูมิใจที่ได้ทำภาระกิจและลุล่วงไปตลอด 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งได้มีประชาชนกว่า 6 แสนรายได้ติดต่อผ่านทางเว็บไซด์พรรค อย่างไรก็ตามหากฝ่ายค้านมีเสียงพอในการที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ การอภิปรายครั้งนี้เราจะสามารถปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ และน่าจะมีโอกาสแสดงความเป็นตัวตนของนายกฯได้มากกว่า
‘ถ้านายกฯ กล้าเผชิญกับความจริงท่านสามารถใช้สิทธิที่ถูกพาดพิงพูดจาในสภาได้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่เห็นท่านใช้สิทธิกลายเป็นว่าแอบมาใช่สื่อของรัฐพูดข้างเดียว ทั้งที่สามารถใช้เวทีสภา พูดได้ทุกเรื่อง และฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะโต้แย้งหักล้างทุกอย่าง ที่ท่านพูดกล่าวหาฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นถ้าท่านพร้อมพิสูจน์ความจริงเวทีสภายังรออยู่ และเราพร้อมโต้แย้งทุกกรณี และผมขอท้าวันแถลงผลงานท่านนายกฯมีสิทธิกล่าวหาพวกเราได้เลย ว่ารัฐบาลมีผลงานรัฐบาลขนาดนี้และฝ่ายค้านโกหกอย่างไร จับแพะชนแกะอย่างไรและเราก็จะชี้แจงให้ฟัง ยันกลับไปว่าไม่ใช่เรื่องเท็จเป็นเรื่องจริงและยังมีความจริงที่มากกว่านี้อีก ซึ่งถ้าท่านยังกล่าวหาอยู่ก็น่าจะใช้เวทีแถลงผลงานของรัฐบาลให้เป็นประโยชน์เพราะเป็นเวทีแห่งความเท่าเทียมกันของทั้งสองฝ่าย โดยมีประธานสภาฯทำหน้าที่เป็นคนกลางสังคมจะได้ประโยชน์’ นายบัญญัติ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ในการอภิปรายผลงานรัฐบาลฝ่ายค้านคงจะพูดถึงความล้มเหลวที่รัฐบาลบอกว่าสำเร็จแต่ฝ่ายค้านคงมีเวลาพูดน้อยเพราะฝ่ายสส.รัฐบาลคงพยายามช่วงชิงเวลาเพื่อปิดกั้นไม่ให้ฝ่ายค้านพูดมากนัก ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจย้อนหลังในตำแหน่งรัฐมนตรีของร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายบัญญัติ กล่าวว่า จากการหารือกับนายอุทัย พิมพ์ใจชน ตนได้ย้ำไปว่า การทำอย่างนี้จะทำให้ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลได้ลำบากซึ่งนายอุทัยได้รับปากว่าหลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจจบจะเรียกทุกฝ่ายมาหารือ ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะรวบรวมความเห็นของนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ในเบื้องต้นได้มีการพูดกันแล้วว่าฝ่ายค้านน่าจะอภิปรายได้มากกว่ากรอบที่กำหนดในสภา โดยล่าสุดมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา ได้แสดงความเห็นว่า พฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจถ้าตราบใดยังเป็นรัฐมนตรีก็น่าจะอภิปรายได้เพราะความมุ่งหมายก็คือไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีดังนั้นทางพรรคจะประมวลความเห็นเหล่านี้เพื่อนำไปหารือกับประธานสภาฯอีกครั้ง เพื่อวางกรอบการอภิปราย
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงไม่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความไปเลย นายบัญญัติ กล่าวว่า ขอให้ได้ข้อยุติในเบื้องต้นก่อนถ้าไม่มีข้อโต้แย้งก็ไม่ต้องส่งไปเพราะการส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นข้อโต้แย้งเรื่องข้อกล่าวหาในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรที่เกี่ยวข้อง ถ้าเราทำให้ไม่มีปัญหาได้ก็ควรจะทำ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23/05/47--จบ--
-สส-