นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ร่วมลงนามในความตกลงว่าด้วยระบบการชำระเงินแบบทวิภาคี (Bilateral Payment Arrangement: BPA) กับ Dr. Nowrouz Kohzadi ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ Export Development Bank of Iran (EDBI) ณ อาคารเอ็กซิม ธสน. สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2547
กรรมการผู้จัดการ ธสน. เปิดเผยว่า การลงนาม BPA กับประเทศอิหร่านในครั้งนี้นับเป็นประเทศที่ 4 หลังจากที่ ธสน. ได้ลงนามกับประเทศมาเลเซีย พม่า และบังคลาเทศไปแล้ว โดย ธสน. และ EDBI จะเป็นธนาคารตัวแทนของแต่ละประเทศที่จะนำระบบการชำระเงินค่าสินค้าและบริการแบบหักบัญชี (Account Trade) มาใช้ดำเนินธุรกรรมทางการค้าระหว่างประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอิหร่าน ลดการใช้เงินสกุลแข็งในการซื้อขายสินค้าระหว่างกัน และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง โดยครอบคลุมสินค้าและบริการเกือบทุกประเภทยกเว้นน้ำมันจากประเทศอิหร่านและข้าวจากประเทศไทย ซึ่งมีระบบการค้าเดิมที่ชัดเจนอยู่แล้ว
นายสถาพร กล่าวต่อไปว่า ระบบการชำระเงินแบบทวิภาคีนี้ จะช่วยให้ผู้ส่งออกมั่นใจว่าจะได้รับการชำระเงินค่าสินค้า เพราะมีธนาคารตัวแทนของทั้งสองประเทศทำหน้าที่รับรองการชำระเงินผ่านแอล/ซี at sight ที่เปิดผ่านธนาคารที่เข้าร่วมโครงการในวงเงิน 10 ล้านยูโร โดยมีวิธีชำระเงินคือ ธนาคารตัวแทนของทั้งสองประเทศจะกำหนดวงเงินเปิดแอล/ซีไว้ระหว่างกัน และทำการบันทึกบัญชีทุกครั้งที่มีการซื้อขายรวมทั้งกำหนดระยะเวลาชำระบัญชีไว้ เมื่อครบกำหนดที่ตกลงกัน ธนาคารตัวแทนจะทำการหักกลบลบหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย จากนั้นผู้ที่มีฐานะเป็นลูกหนี้จึงชำระเฉพาะส่วนต่างพร้อมดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยและสกุลเงินที่ตกลงกันไว้
นายสถาพร กล่าวว่า การทำ BPA นี้ต่างกับวิธีการและขั้นตอนการทำการค้าในระบบปกติเฉพาะในขั้นตอนการรับและจ่ายเงินระหว่างประเทศเท่านั้น โดยจากเดิมที่ต้องโอนเงินเพื่อชำระค่าสินค้าทุกครั้งที่มีการซื้อขายกัน เป็นการลงบัญชีไว้ก่อนแล้วค่อยหักกลบลบหนี้กันทีหลัง ในส่วนของการรับและจ่ายเงินภายในประเทศยังคงเป็นไปตามปกติ คือจะต้องดำเนินการผ่านธนาคารตัวแทนของแต่ละประเทศเป็นเงินสกุลท้องถิ่นเท่านั้น ผู้ส่งออกที่สนใจสามารถติดต่อรับบริการได้ที่ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ ธสน. สำนักงานใหญ่ และที่สาขาทุกแห่งตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2547--
-สส-
กรรมการผู้จัดการ ธสน. เปิดเผยว่า การลงนาม BPA กับประเทศอิหร่านในครั้งนี้นับเป็นประเทศที่ 4 หลังจากที่ ธสน. ได้ลงนามกับประเทศมาเลเซีย พม่า และบังคลาเทศไปแล้ว โดย ธสน. และ EDBI จะเป็นธนาคารตัวแทนของแต่ละประเทศที่จะนำระบบการชำระเงินค่าสินค้าและบริการแบบหักบัญชี (Account Trade) มาใช้ดำเนินธุรกรรมทางการค้าระหว่างประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอิหร่าน ลดการใช้เงินสกุลแข็งในการซื้อขายสินค้าระหว่างกัน และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง โดยครอบคลุมสินค้าและบริการเกือบทุกประเภทยกเว้นน้ำมันจากประเทศอิหร่านและข้าวจากประเทศไทย ซึ่งมีระบบการค้าเดิมที่ชัดเจนอยู่แล้ว
นายสถาพร กล่าวต่อไปว่า ระบบการชำระเงินแบบทวิภาคีนี้ จะช่วยให้ผู้ส่งออกมั่นใจว่าจะได้รับการชำระเงินค่าสินค้า เพราะมีธนาคารตัวแทนของทั้งสองประเทศทำหน้าที่รับรองการชำระเงินผ่านแอล/ซี at sight ที่เปิดผ่านธนาคารที่เข้าร่วมโครงการในวงเงิน 10 ล้านยูโร โดยมีวิธีชำระเงินคือ ธนาคารตัวแทนของทั้งสองประเทศจะกำหนดวงเงินเปิดแอล/ซีไว้ระหว่างกัน และทำการบันทึกบัญชีทุกครั้งที่มีการซื้อขายรวมทั้งกำหนดระยะเวลาชำระบัญชีไว้ เมื่อครบกำหนดที่ตกลงกัน ธนาคารตัวแทนจะทำการหักกลบลบหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย จากนั้นผู้ที่มีฐานะเป็นลูกหนี้จึงชำระเฉพาะส่วนต่างพร้อมดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยและสกุลเงินที่ตกลงกันไว้
นายสถาพร กล่าวว่า การทำ BPA นี้ต่างกับวิธีการและขั้นตอนการทำการค้าในระบบปกติเฉพาะในขั้นตอนการรับและจ่ายเงินระหว่างประเทศเท่านั้น โดยจากเดิมที่ต้องโอนเงินเพื่อชำระค่าสินค้าทุกครั้งที่มีการซื้อขายกัน เป็นการลงบัญชีไว้ก่อนแล้วค่อยหักกลบลบหนี้กันทีหลัง ในส่วนของการรับและจ่ายเงินภายในประเทศยังคงเป็นไปตามปกติ คือจะต้องดำเนินการผ่านธนาคารตัวแทนของแต่ละประเทศเป็นเงินสกุลท้องถิ่นเท่านั้น ผู้ส่งออกที่สนใจสามารถติดต่อรับบริการได้ที่ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ ธสน. สำนักงานใหญ่ และที่สาขาทุกแห่งตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2547--
-สส-