ฉบับที่ ๑๖
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๗
เวลา ๑๒.๓๐ - ๑๓.๓๐ นาฬิกา
ต่อจากนั้น นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในประเด็นการเข้าไปแทรกแซงนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเข้าไปชี้นำในการกำหนดอัตรา ดอกเบี้ยให้ต่ำลงด้วยการเพิ่มเงินบาทเข้าไปในระบบ อีกทั้งยังเข้าไปกดอัตราเงินเฟ้อ โดยการนำเงินจากคลังเข้าไปชดเชยราคาน้ำมัน เพื่อให้ราคาน้ำมันไม่สูง จึงเป็นผลทำให้อัตราเงินเฟ้อไม่สูงขึ้น ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนี้ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ
ส่วนนโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ที่ดูแลด้านอุปโภคบริโภคไม่มีความมั่นใจในการนำหุ้นเข้าไปขายในตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกับกรณีของหุ้น ปตท. ที่ได้ดำเนินการนำหุ้นไปขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว และในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นไม่เหมือนกับบริษัทเอกชน เพราะบริษัทเอกชนมีความต้องการนำหุ้นเข้าไปขายในตลาดหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มทุนมาใช้ในการบริหารการจัดการ ซึ่งดีกว่าต้องไปกู้เงินโดยเสียดอกเบี้ย แต่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจจะทำการซุกหุ้นและปั่นหุ้นไม่ได้ รวมทั้งยังสามารถทำการกู้เงินได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยการนำหุ้นไปขายในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเพิ่มทุนแต่อย่างใด แต่ถ้าเพียงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับเอกชนรายอื่น ๆ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง
สำหรับเรื่องการกระจายหุ้นนั้น เกรงว่าจะมีปัญหาเช่นเดียวกับกรณีการกระจายหุ้น
ของปตท. ซึ่งมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับรายชื่อผู้ถือหุ้นว่าผู้ใดเป็นนักลงทุนชาวไทยและผู้ใดเป็นนักลงทุนต่างประเทศหรือเป็นบริษัทตัวแทนเข้ามาถือหุ้น ปตท. ดังนั้น รัฐมนตรีควรเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา เมื่อรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น