นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาล
เวียดนามเตรียมออกประกาศนโยบายและกฎระเบียบใหม่ๆทางการค้า เกี่ยวกับการนำเข้า การยกร่าง
กฎหมายการค้า และการแก้ไขบทกำหนดภาษีสรรพสามิต รวมทั้งระเบียบการเป็นนายหน้าทางด้านการเงิน
และกฎหมายการท่องเที่ยวในเวียดนาม สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
เตรียมนำเข้าปูนซีเมนต์เม็ด ในไตรมาส 2 และ 3 นี้
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย แจ้งว่า ตามประมาณการของวงการปูน
ซีเมนต์เวียดนาม ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 อุปสงค์ในการใช้ปูนซีเมนต์ทั่วประเทศเวียดนามจะเท่ากับ
6.8-6.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9-10 (เทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2546) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 (
เทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2547) ซึ่งหากบรรษัทปูนซีเมนต์เวียดนาม เดินเครื่องผลิตเต็มอัตรา จะสามารถ
ผลิตปูนซีเมนต์เม็ดได้ 1,940,000 ตัน ผลิตปูนซีเมนต์ได้ 3,145,000 ตัน เพื่อที่ปูนซีเมนต์จะได้ตามเป้า
หมายของไตรมาสที่ 2 บรรษัทฯ จะต้องนำเข้าปูนซิเมนต์เม็ด 650,000 ตัน และเพื่อเตรียมการสำหรับ 6
เดือนปลายปี 2547 บรรษัทฯ ได้มอบหมายให้บริษัทในเครือเตรียมการนำเข้าปูนซีเมนต์เม็ด
200,000-300,000 ตัน ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 นี้
เตรียมยกร่างกฎหมายการค้าการลงทุน
เวียดนามกำลังทำการยกร่างกฎหมายใหม่ 2 ฉบับ เนื่องจากกฎหมายต่างๆที่ใช้ในปัจจุบันยังมีความ
แตกต่างกัน ได้แก่ กฎหมายบริษัท(หรือกฎหมายนิติบุคคล) และกฎหมายส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน เพื่อให้
เศรษฐกิจพัฒนาขึ้นอย่างถาวรยั่งยืน และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเมื่อเข้าสู่ตลาดโลกอย่างเต็มตัว และลบ
ล้างความไม่เสมอภาคระหว่างภาคเศรษฐกิจต่างๆ โดยกฎหมายบริษัท จะเป็นการรวมกัน และแก้ไขปรับปรุง
บนพื้นฐานของกฎหมายบริษัทรัฐวิสาหกิจ กฎหมายสหกรณ์ และกฎหมายบริษัทของปี 2542 ส่วนกฎหมายส่งเสริม
และคุ้มครองการลงทุน จะเป็นการรวมกันและแก้ไขปรับปรุง บนพื้นฐานของกฎหมายส่งเสริมการลงทุนภายใน
ประเทศกับกฎหมายการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งคณะกรรมการวิจัยของเวียดนาม ระบุว่า หากกฎหมายทั้ง
สองฉบับนี้ยกร่างจริง อาจมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ที่จะต้องแก้กฎหมายอีกหลายฉบับ จึงสามารถสอดคล้องกันได้ใน
ทางปฏิบัติ
เสนอจัดตั้งทบวงการแข่งขันและคุ้มครองผู้บริโภค
เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมธิการประจำของรัฐสภาเวียดนามได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งทบวงการแข่งขัน
และคุมครองผู้บริโภคซึ่งเป็นหน่วยงานไต่สวนที่รับผิดชอบโดยเฉพาะ (อาจสังกัดโดยตรงต่อกระทรวงการค้า)
เกี่ยวกับการต่อต้าน ป้องปรามการทุ่มตลาด ตามมาตรการป้องกันและคุมครองที่เหมาะสมสำหรับสินค้าภายใน
ประเทศ จากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ในร่างกฤษฎีกาว่าด้วยการทุ่มตลาด ที่รัฐบาลยื่นเสนอ อย่าง
ไรก็ตามแม้ว่าคณะกรรมาธิการส่วนใหญ่จะมีมติเห็นชอบ แต่ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ควรจะมีบุคลากรจาก
หน่วยงานที่ควบคุมดูแลด้านราคาของกระทรวงการคลัง และทบวงศุลกากรเข้าร่วมในทบวงนี้ด้วย ซึ่งขณะนี้
รัฐบาลกำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุงแก้ไข เพื่อยื่นต่อรัฐสภาพิจารณาอนุมัติต่อไป
เตรียมแก้ไขบทกำหนดภาษีสรรพสามิต
กระทรวงการคลังเวียดนามได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติประกาศใช้ข้อแก้ไขบทกำหนดว่า
ด้วยการถือปฏิบัติตามกฎหมายการจำหน่ายพิเศษ หรือภาษีสรรพสามิต 2 ประเด็น คือ เพิ่มประเภทรถทั้ง
บรรทุกสินค้า ผู้โดยสาร หรือรถ pick up ให้อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีฯ โดยมีอัตราภาษีร้อยละ 25 ของรถ
ตั้งแต่ 16 ที่นั่ง ถึง 24 ที่นั่ง และหากจำหน่ายให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในเขตปฏิบัติการเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการ
ผลิตสินค้านั้นๆ ไม่ต้องเสียภาษีฯ แต่หากใช้ในการบริโภค-อุปโภค จะต้องอยู่ในข่ายเสียภาษีฯเพราะถือว่าเป็น
การใช้สอยในเวียดนาม
ธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยการเป็นนายหน้าทางด้านการเงิน
ธนาคารแห่งชาติเวียดนามได้มีคำสั่งเกี่ยวกับระเบียบการดำเนินการบริการขององค์กรสินเชื่อ เพื่อ
จัดการประสานงาน เอื้ออำนวยความสะดวกในการติดต่อด้านเงินกู้ ให้กู้ รับฝากเงิน ส่งเงิน ซื้อขายเอกสาร
ที่มีค่า ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ และการติดต่ออื่นๆระหว่างองค์กรสินเชื่อ องค์กรการเงินต่างประเทศที่มี
การเก็บค่าธรรมเนียมนายหน้า ซึ่งตามคำสั่งฉบับนี้ ในเบื้องต้น การบริการในรูปแบบนี้จะใช้สำหรับองค์กรสิน
เชื่อเท่านั้น ระดับค่านายหน้า ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างหน่วยงานที่เป็นนายหน้ากับลูกค้า แต่ต้องไม่เกิน ร้อย
ละ 0.02 ของมูลค่าของจำนวนเงินที่มีการกู้ยืมหรือซื้อขายนั้นๆ
ข้อกำหนดใหม่สำหรับบริษัทท่องเที่ยวต่างประเทศ
ทบวงการท่องเที่ยวแห่งเวียดนาม กำลังยกร่างกฎหมายการท่องเที่ยวเพื่อเสนอขออนุมัติจากรัฐสภา
ซึ่งข้อกำหนดตามร่าง บริษัทท่องเที่ยวที่มีการลงทุนจากต่างประเทศ จะมีสิทธิ์เพียงจัดรายการท่องเที่ยวจำหน่าย
และจัดการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าสู่เวียดนามเท่านั้น และจะต้องใช้มัคคุเทศก์
เป็นชาวเวียดนามที่ได้รับบัตรผ่านการฝึกอบรมมัคคุเทศก์นานาชาติเท่านั้น รวมทั้ง บริษัทท่องเที่ยวที่มีการ
ลงทุนจากต่างประเทศ จะไม่มีสิทธิ์จัดคณะท่องเที่ยวชาวเวียดนามไปต่างประเทศ และจะต้องร่วมลงทุนกับ
บริษัทท่องเที่ยวเวียดนามที่มีการจดทะเบียบประกอบการด้านท่องเที่ยวที่มีใบอนุญาตประกอบการด้านการท่อง
เที่ยวนานาชาติในประเทศที่ตนเป็นพลเมืองอยู่ด้วย จึงจะมีสิทธิ์ร่วมลงทุนกับบริษัทท่องเที่ยวเวียดนาม ทั้งนี้
คาดว่ากฎหมายฉบับนี้ จะนำเข้าพิจารณาขออนุมัติจากรัฐสภาให้ประกาศใช้ในเร็วๆนี้.
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวร
นิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-สส-