สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎรการรายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรี ฉบับที่ ๑๒

ข่าวการเมือง Friday May 28, 2004 16:09 —รัฐสภา

ฉบับที่ ๑๒
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
การรายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรี
ตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๘๘ วรรคสอง
วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๗
เวลา ๑๓.๓๐ - ๑๔.๓๐ นาฬิกา
นายโสภณ ซารัมย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคชาติไทย ได้มีการอภิปรายถึงประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
- การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องการแต่งตั้งผู้อำนวยการ
และรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ควรเร่งดำเนินการแต่งตั้ง เนื่องจาก
ผู้รักษาการในตำแหน่งดังกล่าวไม่มีอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่
จึงเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปการศึกษา และควรมีการกระจายอำนาจ
การปฏิบัติงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไปยังท้องถิ่น โดยใช้ อบต.
เป็นหลักและจัดตั้งเป็นกลุ่มโรงเรียนขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีศูนย์ประสานงาน
ระหว่างอำเภอ
- ลำมาด* ในฤดูฝนจะมีน้ำไหลแรงตลอด ส่วนในฤดูแล้งจะไม่มีน้ำส่งผลให้
ชาวบ้านไม่มีน้ำใช้ เนื่องจากไม่มีเขื่อนกั้นน้ำ ดังนั้นจึงอยากให้กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ เข้ามาดูแหล่งน้ำหลักที่ชาวบ้านใช้ร่วมกัน ซึ่งจะต้องมี
การวางแผนแม่บทในการพัฒนาการเกษตรและพัฒนาแหล่งน้ำ
- ยางพารา จากการที่นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้เกษตรกรภาคอีสานปลูก
ยางพารามากขึ้น ทางกระทรวงเกษตรฯ จึงควรส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพ
ในการทำปศุสัตว์ด้วย โดยให้กระทรวงเกษตรฯ จัดทำโครงการโคเอื้ออาทร
ให้ชาวบ้านนำไปเลี้ยงเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว
* ลำมาด คือ แม่น้ำสายเล็ก ๆ
- แรงานที่จะเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศ เนื่องจากในอดีตไม่มี
มาตรการกวดขัน จึงมีการหลอกลวงแรงงานเกิดขึ้น แต่ในปัจจุบันรัฐบาล
เข้มงวดในการปราบปรามแรงงานเถื่อนและการปล่อยเงินกู้นอกระบบ
จึงส่งผลให้แรงงานที่จะเดินทางไปต่างประเทศไม่มีเงินทุน จึงอยากให้
กระทรวงแรงงานจัดเงินทุนให้แก่แรงงานได้กู้ยืม
- ถนน จากการปฏิรูประบบราชการส่งผลให้ในปัจจุบันมี อบจ. และกรมทาง
หลวงชนบท มาดูแลในเรื่องการสร้างถนน เพื่อไม่ให้เกิดความซับซ้อนใน
การใช้งบประมาณ แต่ในการปฏิรูประบบราชการนั้น ถนนบางสายยังไม่
ได้อยู่ในความดูแลของ อบจ. และกรมทางหลวงชนบท ดังนั้น เมื่อถนน
เหล่านั้นชำรุด จึงไม่มีงบประมาณในการซ่อมแซม
นายมุข สุไลมาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปัตตานี พรรคไทยรักไทย
ได้อภิปรายในประเด็นที่เกี่ยวกับยางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจและทำรายได้เข้าประเทศปีละหลายแสน
ล้านบาท โดยยางพาราปลูกมากในภาคใต้ถึงร้อยละ ๙๐ และเป็นอาชีพหลักของภาคใต้ โดยเศรษฐกิจของภาคใต้ขึ้นอยู่กับราคายางพารา ตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ ที่รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ส่งผลให้ราคายางพาราสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ ๔๐ บาท ซึ่งราคายางที่สูงขึ้นนี้มีผลมาจากการปฏิรูประบบยางภายในประเทศของรัฐบาล โดยรัฐบาลไทยได้ร่วมกับรัฐบาลมาเลเซียและอินโดนีเซียจัดตั้งบริษัทกลางรับซื้อยางพาราทั้งหมดของทั้ง ๓ ประเทศ จึงสามารถกำหนดราคายางและกีดกันไม่ให้พ่อค้า คนกลางมากดราคาได้ดังเช่นในอดีต ดังนั้นรัฐบาลควรเพิ่มพื้นที่ในการปลูกยาง เพราะยางมีราคาดีและตลาดโลกยังต้องการอีกมาก
ในส่วนตัวมีข้อสงสัยว่า โครงการยางเอื้ออาทรจะมีผลในทางปฏิบัติเมื่อใด ส่วนข้อผิดพลาดในอดีตที่ทำให้ราคายางตก ซึ่งรัฐบาลต้องรีบแก้ไขดังต่อไปนี้
- ผิดพลาด เนื่องจากเข้าใจผิดว่ายางพาราล้นตลาด ทำให้ลดพื้นที่ในการ
ปลูกยางและเกษตรกรต้องรีบขายยางราคาจึงตก
- การแทรกแซงราคายางผิดพลาด เงินของรัฐบาลที่เข้าไปแทรกแซงราคายาง
ไม่ถึงมือเกษตรกร แต่ตกอยู่กับพ่อค้าคนกลาง รัฐจึงสูญเสียงบประมาณ
เป็นจำนวนมาก และจากรายงานการแทรกแซงราคายางพบว่ามีการซื้อ
ยางจากพ่อค้าคนกลางและนำไปขายต่ำกว่าต้นทุนให้กับต่างประเทศ
รัฐบาลจึงมีการสอบสวนพบว่าการดำเนินโครงการแทรกแซงราคายาง
มีการทุจริตซับซ้อนข้ามชาติและแสวงหาผลประโยชน์อย่างแยบยล รัฐจึง
ต้องนำเงินงบประมาณไปชดเชยการขาดทุนดังกล่าว ดังนั้นจึงมีความคิด
ว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรมีการสอบสวน
และเร่งดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะเจ้าหน้าที่ได้ส่งเรื่องการ
สอบสวนไปให้กระทรวงเกษตรดำเนินการนานแล้ว แต่รัฐมนตรีช่วยฯ ยัง
ไม่ดำเนินการใด ๆ
นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงกรณีที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรฯ ดังนี้
- ความคืบหน้าของโครงการสวนยางเอื้ออาทร ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลทำขึ้น
เพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกรที่เข้าไปปลูกยางในป่ามานานเป็น ๑๐ ปี และ
ผลผลิตที่ได้จากต้นยางมีน้อย เกษตรกรจึงต้องทำการตัดต้นยางที่แก่ เพื่อ
ปลูกใหม่ แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากในอดีตมีการจำกัดพื้นที่ในการ
ปลูกยางและห้ามเช่าพื้นที่ป่า ดังนั้นนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเกษตรกรปลูก
ยางพารามานานแล้ว และเป็นอาชีพสุจริต จึงเห็นว่าควรที่จะเพิ่มพื้นที่
ในการปลูกยาง โดยจัดทำโครงการส่วนยางเอื้ออาทรขึ้น และให้เกษตรกร
เช่าพื้นที่ป่าในการปลูกยางให้ถูกต้อง โดยรัฐบาลได้เร่งให้กรมป่าไม้ส่ง
มอบพื้นที่ให้กับองค์การสวนยางโดยเร็ว ซึ่งจะตั้งคณะกรรมการร่วม
ระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ในการ
จัดสรรพื้นที่ให้กับเกษตรกรและอนุญาตให้เกษตรกรเข้าไปใช้พื้นที่ป่า
อย่างถูกกฎหมาย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ