กรุงเทพ--31 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (28 พฤษภาคม 2547) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องลูกเรือประมงไทยถูกโจรสลัดอินโดนีเซียจับตัวเรียกค่าไถ่ว่า ตามที่มีรายงานข่าวว่า เรือประมง 2 สัญชาติ ทะเบียนพีเอสเอฟ 1855 ซึ่งเป็นเรือของไทย แต่จดทะเบียนสัญชาติมาเลย์ ภายใต้ชื่อ Kamarudin Fishering ซึ่งมีนาย Kamrudin เป็นเจ้าของบริษัท โดยมีลูกเรือและไต้ก๋งเป็นคนไทย 30 คน สังกัดแพปลาณรงค์ชัยถูกโจรสลัดอินโดนีเซียปล้นบริเวณทิศตะวันตกของเกาะเปรัค ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2547 เวลาประมาณ 22.00 น. จากนั้นได้นำเรือแล่นเข้าไปในน่านน้ำอินโดนีเซีย โดยในเวลาประมาณ 04.00น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2547 จึงได้ปล่อยเรือและลูกเรือจำนวนหนึ่งกลับไทย โดยได้จับลูกเรือคนไทยไว้เป็นตัวประกัน 5 คน เพื่อเรียกค่าไถ่ ต่อมาเรือลำดังกล่าวพร้อมลูกเรือที่เหลือได้ถูกลากจูงเข้าฝั่งที่บริเวณท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล
กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งว่า คนไทยทั้ง 5 คนที่ถูกจับตัวไว้ คือ นายสมชาย อยู่สิริ (ไต้ก๋ง) และลูกเรืออีก 4 คน คือ นายชัชชัย อยู่ศิริ (ผู้จัดการเรือ) นายสายชล โชติกันตะ (นายท้ายเรือ) นายวิฑูร ไม่ทราบนามสกุล (ลูกเรือ) และนายกุ๊ก (ลูกเรือ) ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล โดยส่วนใหญ่เป็นคนจากจังหวัดสตูล ส่วนอีก 1 คน มาจาก จังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของลูกเรือทั้ง 5 คน
กระทรวงการต่างประเทศมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยและชีวิตของลูกเรือประมงทั้ง 5 คน ที่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ จึงได้สั่งการให้สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนังขอความร่วมมือจากตำรวจมาเลเซียในการติดตามคดีนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือลูกเรือทั้ง 5 คน โดยขอให้ติดตามตัวนาย Kamarudin มาให้การในเรื่องต่าง ๆ ที่ ตำรวจจะใช้เป็นข้อมูลในการติดตามช่วยเหลือลูกเรือต่อไปด้วย
ขณะนี้ ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ และตำรวจมาเลเซียกำลังประสานกับทางการไทยที่ จ. สตูล เพื่อสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกเรือที่ได้รับการปล่อยตัวกลับมา ในขณะเดียวกัน ตำรวจมาเลเซียก็กำลังติดตามตัวนาย Kamarudin เจ้าของบริษัทฯ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
สำหรับการติดตามเรือโจรสลัดที่จับลูกเรือไปเป็นตัวประกัน นั้น สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนังได้รายงานว่า ขณะนี้ หน่วยกองบิน (Air wing) ของมาเลเซียและตำรวจน้ำ (marine police) ได้ทำการติดตามค้นหาทั้งทางบก ทางน้ำ เพื่อจะได้สามารถช่วยเหลือลูกเรือโดยเร็วที่สุด และคาดว่าจะทราบตำแหน่งที่ตั้งของเรือโจรสลัดในเวลาไม่นาน ทั้งนี้ ได้สอบปากคำลูกเรือไทยที่เคยประสบเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อนำไปประกอบการค้นหาติดตามอีกทางหนึ่งด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-
วันนี้ (28 พฤษภาคม 2547) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องลูกเรือประมงไทยถูกโจรสลัดอินโดนีเซียจับตัวเรียกค่าไถ่ว่า ตามที่มีรายงานข่าวว่า เรือประมง 2 สัญชาติ ทะเบียนพีเอสเอฟ 1855 ซึ่งเป็นเรือของไทย แต่จดทะเบียนสัญชาติมาเลย์ ภายใต้ชื่อ Kamarudin Fishering ซึ่งมีนาย Kamrudin เป็นเจ้าของบริษัท โดยมีลูกเรือและไต้ก๋งเป็นคนไทย 30 คน สังกัดแพปลาณรงค์ชัยถูกโจรสลัดอินโดนีเซียปล้นบริเวณทิศตะวันตกของเกาะเปรัค ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2547 เวลาประมาณ 22.00 น. จากนั้นได้นำเรือแล่นเข้าไปในน่านน้ำอินโดนีเซีย โดยในเวลาประมาณ 04.00น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2547 จึงได้ปล่อยเรือและลูกเรือจำนวนหนึ่งกลับไทย โดยได้จับลูกเรือคนไทยไว้เป็นตัวประกัน 5 คน เพื่อเรียกค่าไถ่ ต่อมาเรือลำดังกล่าวพร้อมลูกเรือที่เหลือได้ถูกลากจูงเข้าฝั่งที่บริเวณท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล
กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งว่า คนไทยทั้ง 5 คนที่ถูกจับตัวไว้ คือ นายสมชาย อยู่สิริ (ไต้ก๋ง) และลูกเรืออีก 4 คน คือ นายชัชชัย อยู่ศิริ (ผู้จัดการเรือ) นายสายชล โชติกันตะ (นายท้ายเรือ) นายวิฑูร ไม่ทราบนามสกุล (ลูกเรือ) และนายกุ๊ก (ลูกเรือ) ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล โดยส่วนใหญ่เป็นคนจากจังหวัดสตูล ส่วนอีก 1 คน มาจาก จังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของลูกเรือทั้ง 5 คน
กระทรวงการต่างประเทศมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยและชีวิตของลูกเรือประมงทั้ง 5 คน ที่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ จึงได้สั่งการให้สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนังขอความร่วมมือจากตำรวจมาเลเซียในการติดตามคดีนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือลูกเรือทั้ง 5 คน โดยขอให้ติดตามตัวนาย Kamarudin มาให้การในเรื่องต่าง ๆ ที่ ตำรวจจะใช้เป็นข้อมูลในการติดตามช่วยเหลือลูกเรือต่อไปด้วย
ขณะนี้ ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ และตำรวจมาเลเซียกำลังประสานกับทางการไทยที่ จ. สตูล เพื่อสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกเรือที่ได้รับการปล่อยตัวกลับมา ในขณะเดียวกัน ตำรวจมาเลเซียก็กำลังติดตามตัวนาย Kamarudin เจ้าของบริษัทฯ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
สำหรับการติดตามเรือโจรสลัดที่จับลูกเรือไปเป็นตัวประกัน นั้น สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนังได้รายงานว่า ขณะนี้ หน่วยกองบิน (Air wing) ของมาเลเซียและตำรวจน้ำ (marine police) ได้ทำการติดตามค้นหาทั้งทางบก ทางน้ำ เพื่อจะได้สามารถช่วยเหลือลูกเรือโดยเร็วที่สุด และคาดว่าจะทราบตำแหน่งที่ตั้งของเรือโจรสลัดในเวลาไม่นาน ทั้งนี้ ได้สอบปากคำลูกเรือไทยที่เคยประสบเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อนำไปประกอบการค้นหาติดตามอีกทางหนึ่งด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-