ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ร่วมมือกับสถาบันเครดิตเพื่อการบูรณะและการพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Kreditanstalt fuer Wiederaufbau: KfW) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง
นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการ ธสน. เปิดเผยภายหลังการหารือกับ ดร. ปีเตอร์ เคล้าส์ กรรมการบริหาร KfW ที่ ธสน. สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ธสน. และ KfW ตกลงที่จะทำบันทึกความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่ายดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดย ธสน. จะได้ความรู้และประสบการณ์ในวิธีการให้สินเชื่อเพื่อการส่งออกหรือโครงการลงทุนมากขึ้น ขณะที่ KfW จะได้ประโยชน์จากความใกล้ชิดกับข้อมูลและโครงการลงทุนในภูมิภาคตลอดจนภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่เกี่ยวข้องของ ธสน. รวมทั้ง ธสน. อาจร่วมให้กู้หรือร่วมรับความเสี่ยงสินเชื่อในบางระดับที่ ธสน. สามารถรับความเสี่ยงสินเชื่อได้ดีกว่า
กรรมการผู้จัดการ ธสน. เปิดเผยต่อไปว่า คาดว่าบันทึกความร่วมมือฉบับนี้จะระบุความร่วมมือระหว่าง ธสน. กับ KfW ใน 4 ด้าน คือ
การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และโครงการลงทุนในประเทศไทยและในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง การให้ความสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อเครื่องจักรผ่าน ธสน. การพัฒนาโครงการลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และการสนับสนุนผู้ลงทุนไทยและเยอรมันในโครงการที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการด้านการพลังงานและโทรคมนาคม พัฒนาความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนความเสี่ยง เช่น การสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อโดยผ่าน KfW หรือ ธสน. แทนการให้กู้โดยตรง โดยใช้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงของธุรกิจที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ในระหว่างพิจารณาร่างบันทึกความร่วมมือเพื่อให้มีการลงนามอย่างเป็นทางการต่อไป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2547--
-สส-
นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการ ธสน. เปิดเผยภายหลังการหารือกับ ดร. ปีเตอร์ เคล้าส์ กรรมการบริหาร KfW ที่ ธสน. สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ธสน. และ KfW ตกลงที่จะทำบันทึกความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่ายดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดย ธสน. จะได้ความรู้และประสบการณ์ในวิธีการให้สินเชื่อเพื่อการส่งออกหรือโครงการลงทุนมากขึ้น ขณะที่ KfW จะได้ประโยชน์จากความใกล้ชิดกับข้อมูลและโครงการลงทุนในภูมิภาคตลอดจนภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่เกี่ยวข้องของ ธสน. รวมทั้ง ธสน. อาจร่วมให้กู้หรือร่วมรับความเสี่ยงสินเชื่อในบางระดับที่ ธสน. สามารถรับความเสี่ยงสินเชื่อได้ดีกว่า
กรรมการผู้จัดการ ธสน. เปิดเผยต่อไปว่า คาดว่าบันทึกความร่วมมือฉบับนี้จะระบุความร่วมมือระหว่าง ธสน. กับ KfW ใน 4 ด้าน คือ
การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และโครงการลงทุนในประเทศไทยและในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง การให้ความสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อเครื่องจักรผ่าน ธสน. การพัฒนาโครงการลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และการสนับสนุนผู้ลงทุนไทยและเยอรมันในโครงการที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการด้านการพลังงานและโทรคมนาคม พัฒนาความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนความเสี่ยง เช่น การสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ซื้อโดยผ่าน KfW หรือ ธสน. แทนการให้กู้โดยตรง โดยใช้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงของธุรกิจที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ในระหว่างพิจารณาร่างบันทึกความร่วมมือเพื่อให้มีการลงนามอย่างเป็นทางการต่อไป
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2547--
-สส-