Back office มิใช่ทางเลี่ยง การเปิดสาขาบริษัทประกันภัย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 31, 2004 12:13 —คปภ.

          นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย กล่าวว่า ตามที่มีข่าว ปรากฏในสื่อมวลชนบางฉบับ ว่า ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันชีวิตฉบับล่าสุดที่อนุญาตให้บริษัทประกันชีวิต สามารถประกอบกิจการให้บริการด้านงานสนับสนุนแก่บุคคลอื่น (Back office) เป็นช่องทางให้ บริษัท เอไอเอ ได้รับประโยชน์เพียงรายเดียว โดยสามารถนำสำนักงานตัวแทนของบริษัทไปดำเนินการในลักษณะที่เป็นสาขาได้นั้น เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เนื่องจาก
(1) Back office ที่กำหนดตามประกาศกระทรวงดังกล่าวอนุญาตให้บริษัท ประกันชีวิตทุกบริษัทสามารถนำทรัพยากรของบริษัทที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การนำระบบงาน และบุคลากรของบริษัทส่วนที่ยังมีความสามารถทำงาน(capacity) เหลืออยู่ออกใช้ประโยชน์เพื่อเป็นรายได้กลับสู่บริษัททำให้การใช้ทรัพยากรของกิจการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบงานและบุคลากรดังกล่าวข้างต้น ได้แก่ ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบงานด้านการให้คำปรึกษาต่างๆ เช่น งานควบคุมภายใน งานบัญชี - การเงิน งานจ่ายค่าสินไหมทดแทน เป็นต้น ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมชัดเจน คือ โครงการประกันภัยเอื้ออาทรที่มีบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด เป็นผู้บริหารโครงการโดย จัดการ pool การรับประกันภัย ที่มีบริษัทประกันภัยต่างๆ เข้าร่วมโครงการ 50 บริษัท ซึ่งถือว่าการให้บริการในลักษณะนี้ของ บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด เป็นการให้บริการ Back office ตามประกาศกระทรวง หากแต่ละบริษัทต้องการดำเนินการเองก็จะเพิ่มภาระต้นทุนและอาจไม่มีบุคลาการจัดการพอเพียง
(2) สำนักงานตัวแทนไม่สามารถรับประกันภัยได้ และการที่กระทรวง พาณิชย์ออกกฎหมายให้บริษัทประกันชีวิตให้บริการ Back office ก็ไม่ได้หมายความว่า สำนักงานตัวแทนจะสามารถดำเนินการด้านรับประกันภัยได้เช่นเดียวกับสำนักงานสาขา
(3) หลักเกณฑ์การอนุญาตให้บริการ Back office นี้ กระทรวงพาณิชย์ใช้มาตรฐานเดียวกับองค์กรกำกับสถาบันการเงินอื่น คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงาน ก.ล.ต. ที่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์และบริษัทจัดการกองทุนสามารถให้บริการและใช้บริการ Back office ได้ โดยมีจุดมุ่งหมายเช่นเดียวกันคือเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรในธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนั้น บริษัทประกันชีวิตรายใดต้องการจะนำ Back office ออกใช้ประโยชน์การเพิ่มรายได้ของบริษัท นั้น บริษัทจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ขอบเขต และต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการของบริษัทก่อน ดังนั้นจึงไม่อาจนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ได้ และนายทะเบียนยังสามารถสั่งระงับการดำเนินงานของบริษัทในส่วนนี้ได้ด้วยหากเห็นว่าบริษัทปฏิบัติไม่เป็นไปตามเจตนารมย์ของประกาศเรื่อง การลงทุนฯ
ดังนี้ จึงใคร่ขอแจ้งมาเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องแต่หากยังมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้จากกลุ่มวิเคราะห์ธุรกิจประกันชีวิต สำนักประกันชีวิต โทร. 0-2547-4996
ที่มา: http://www.doi.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ