ประชาธิปัตย์ ออนไลน์ ครั้งที่ 30 วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2547 โดย : นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
สวัสดีครับผม บัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พบกันเช่นเคยครับ ในรายการ ประชาธิปัตย์ออนไลน์ สำหรับสัปดาห์นี้ เรื่องท่านนายกฯทักษิณกับหงส์แดง ซึ่งก็คือกรณีที่ท่านนายกฯทักษิณประกาศซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล 30 % ซึ่งคิดเป็นมูลค่า กว่า 4,600 ล้านบาทในนามของรัฐบาลไทย ยังเถียงกันยังไม่จบ และยังคงจะต้องเถียงกันไปอีกนาน ผมจึงคิดว่าวันนี้น่าจะได้พูดคุยกันในเรื่องนี้
ท่านนายกฯทักษิณ ได้มีบัญชาให้การกีฬาแห่งประเทศไทยดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมา โดยให้การกีฬาแห่งประเทศไทยถือหุ้นใหญ่ 51 % ที่เหลือจะกระจายออกไป และจะใช้วิธีออกสลากพิเศษ ในชื่อสลากบำรุงการกีฬาเพื่อพัฒนากีฬาไทย หรือที่เรียกกันว่า หวยหงส์ เป็นการระดมทุน โดยให้เหตุผลในการซื้อว่า การซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ทั้งยังได้บอกกล่าวกับคณะรัฐมนตรีให้ได้รับทราบว่า คิดเรื่องนี้มาตลอดเพราะเห็นคุณค่าของกีฬา อยากเห็นคนหนุ่มสาวของประเทศหันมาสนใจและเล่นกีฬามากยิ่งขึ้น
ประเด็นที่น่าสนใจจึงอยู่ที่ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลของท่านนายกฯทักษิณ สนใจและให้การสนับสนุนกีฬามากน้อยขนาดไหนเพียงใด ผมอยากให้ท่านทั้งหลายลองมาดูตัวเลขงบประมาณที่รัฐบาลนี้จัดให้ ดูกันใกล้ๆ เฉพาะ 2 ปีเท่านั้น คือปีงบประมาณ 2547 ปีหนึ่ง กับงบประมาณปี 2548 อีกปีหนึ่ง ในปีงบประมาณ 2547 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้แก่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จำนวน 2,572 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเฉพาะด้านกีฬาและนันทนาการเป็นเงิน 1,313ล้านบาท ปีงบประมาณ 2548 ที่กำลังจะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณารัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นจำนวน 2,413 ล้านบาท และถ้าแยกเฉพาะกีฬาและนันทนาการนั้นก็คิดเป็นจำนวน 1,644 ล้านบาท โดยสรุปแล้วรัฐบาลจัดสรรงบประมาณด้านการกีฬาบวกนันทนาการให้แก่คนไทยทั้งประเทศ 60 ล้านคนเพียง 1,000ล้านบาทกว่าๆเท่านั้นเอง คิดแล้วไม่ถึง 1 ใน 3 ของงบประมาณที่จะซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล
ในการประชุมสหภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณางบประมารายจ่ายประจำปี 2547ในปีที่ผ่านมา เมื่อมีคำถามว่า ทำไม จัดสรรงบประมาณด้านการกีฬาเป็นจำนวนน้อยมาก รัฐบาลก็ตอบว่า มีงบประมาณจำกัด ทั้งๆที่ได้ตั้งใจไว้ในรายการอื่นๆที่ไม่น่าจำเป็นอีกมากมาย อย่างนี้ยังบอกว่ารัฐบาลคติดเรื่องกีฬามาตลอด เพราะเห็นคุณค่าของ กีฬา คงไม่จริง
แต่ครั้งนี้รัฐบาลจ่ายเงินกว่า 3 เท่าของงบประมาณประจำปีด้านกีฬาทั้งหมด เพื่อซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูลของอังกฤษ จึงดูแปลกดีแต่ปัญหาที่น่าพิจารณาควรจะอยู่ที่ว่า แล้วเด็กไทยและยาวชนไทยจะได้อะไรกับการจ่ายเงินมหาศาลให้แก่สโมสรลิเวอร์พูล ของอังกฤษในครั้งนี้ ในเมื่อเด็กใน 6,000 กว่าตำบลทั่วประเทศไทยในหลาย 100 ตำบลหลายแห่ง ยังไม่มีสนามฟุตบอล และเด็กไทยอีกหลายล้านคน ที่ยังไม่มีลูกฟุตบอลไว้เตะเล่นเลย จะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยๆได้อย่างไร หรือถ้าจะพัฒนาแบบชี้วัดผลงานรัฐบาล ก็จะต้องแจกแจงรายละเอียด ที่บอกว่าจะมีผลประโยชน์ตกแก่เด็กๆและเยาวชนไทยหน่อย ว่าจะได้ผลประโยชน์อย่างไร
สโมสรฟุตบอลอาชีพในอังกฤษและยุโรปหลายประเทศ เช่น สเปน อิตตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส ต่างมีเงินทุนหมุนเวียนสโมสรละนับ แสนล้านบาท ในขณะที่สมาคมฟุตบอลกึ่งอาชีพของประเทศไทยของเรามีเงินหมุนเวียนไม่กี่ 10 ล้าน เงินทุนจำนวนน้อยของประเทศไทย ทำให้สมาคมฟุตบอลอาชีพเกิดขึ้นไม่ได้เป็นได้เพียงกึ่งอาชีพ ซึ่งเมื่อสอบถามผู้รับผิดชอบในวงการฟุตบอลไทยทุกคนจะตอบเหมือนกันทุกคนว่ารัฐบาลไม่ได้จัดสรรงบประมาสนับสนุนอย่างเพียงพอ นักำฟุตบอลไทยที่เล่นเก่งๆที่สุด ในเอเชียอาคเนย์ของเราหรือ อาเซียน ซึ่งชนะเลิสซีเกมส์มาหลายๆครั้ง นักฟุตบอลไทยจึงทำได้แตเพียงไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพของประเทศสิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเชีย นักฟุตบอลอาชีพในประเทศไทยเกิดไม่ได้ เพราะรัฐบาลไม่สันบสนุนจริง
และเมื่อหันมาดูด้านกีฬาเพื่อสุขภาพรัฐบาลก็ให้ความสำคัญน้อยมาก เรื่องของสุขภาพกำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่จนมีการพูดกันแล้วว่า ปัญหาสุขภาพกำลังวิกฤติ โดยมีการร่าง พรบ.ปฎิรูปสุขภาพมาแล้ว 3 ปี แต่ขณะนี้ยัง ไม่สามารถเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ ยังตกค้างอยู่ที่รัฐบาลมาปีกว่าแล้ว ไม่มีใครทราบว่าเมื่อไหร่พรบ.ปฎิรูปสุขภาพจะถูกนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งถ้ารัฐบาลจะได้เร่งทำเรื่อวงปฎิรูปสุขภาพรวดเร็วเหมือนซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลก็คงจะดี
โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ยังขาดแคลนงบประมาณหลายโรงพยาบาลขาดเงินทุนสำรอง ที่จะรักษาประชาชน และประชาชนคนจนก็ไม่มีเงินที่จะซื้อยานอกบัญชี เพื่อรักษาตนเอง งบประมาณเพื่อการเสริมสร้างมาตรฐานการรักษาพยาบาลก็มีไม่เพียงพอ แต่รัฐาลจะนำเงินกว่า 4,600 ล้านบาทไปซื้อหุ้น สโมสรฟุตบอลในต่างประเทศ เงินจำนวนมหาศาลครึ่งหมื่นล้านบาทควรจะลงทุนที่ไหน รัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัย หน่วยงานของรัฐบาลหลายๆหน่วยงาน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมฯรวมทั้ง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เอง ล้วนแต่ได้ใช้ความพยายามให้ต่างประเทศขนเงินมาลงทุนในประเทศไทย แต่ละไตรมาสแต่ละปี ทุกหน่วยงานต้องแถลงผลงานว่า มีเงินตราต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุน ไหลเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใด แต่รัฐบาลท่านนายกฯทักษิณ กำลังขนเงินออกนอกประเทศเป็นจำนวนมหาศาล
ซึ่งท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจะนำเงินจำนวน 4,700 ล้านบาท หรือ จำนวน 115 เหรียญอเมริกา ไปซื้อหุ้นลิเวอร์พูลนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียด เพราะตามกฎหมายแล้ว ผู้จะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ จำนวนเกินกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปีต้องขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน
แต่ที่สำคัญที่สุดของผม ก็คือว่า ในขณะที่ยังมีเรื่องสำคัยและจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายอีกมากมาย ภายในประเทศของเรา ซึ่งในระยะ 2 - 3 ปีที่ผ่านมาเมื่อมีคำถามในสภาว่า เหตุใดรัฐบาลจึงไม่ได้ตั้งจ่ายเอาไว้ในงบประมาณรายจ่ายของงบประมาณแผ่นดิน คำตอบของรัฐบาลก็คือ เรามีงบประมาณจำกัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือว่า ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยากจนมีรายได้ไม่พอรายจ่ายมีแต่หนี้ เด็กนักเรียนจำนวนมากยังไม่มีเงินซื้อหนังสือ คนจนจำนวนไม่น้อยยังไม่มีข้าวบริโภคครบทุกมื้อ แล้วรัฐบาลยังจะเดินสวนทางด้วยการนำเงินจำนวนมหาศาลไปซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลในต่างประเทศเช่นนี้จะเป็นการสมควรแล้วหรือ
การออกสลากไม่ว่าจะเรียกว่า พิเศษหรือไม่พิเศษอย่างไร ก็คือการสนับสนุนส่งสริมให้มีการเล่นการพนันขันต่อเป็นอบายมุข ยิ่งตั้งเงินรางวัลล่อใจเป็นจำนวนสูงๆ อย่างที่รัฐบาลนี้กำลังจะทำ ก็ยิ่งชัดเจนและด้วยเหตุนี้เองการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ผ่านมาจะออกสลากกรณีพิเศษ เฉพาะเพื่อการกุศลเท่านั้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลท่านนายกฯทักษิณ จะออกสลากเพื่อการธุรกิจ ที่ผ่านมาประเทศไทยจะออกสลากพิเศษนานๆครั้งและเพื่อการกุศลครั้งใหญ่ เช่น สลากคุ้มเกล้า เพื่อระดมทุนสร้างโรงพยาบาล เพื่อรักษาพยาบาลคน สลากบำรุงสภากาชาดไทย ล้วนแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อคนจน เพื่อการกุศลทั้งนั้น ยังไม่เคยมีรัฐบาลใดที่ใช้วีธีการออกสลากด้วยการลงทุนในเชิงธุรกิจเช่นนี้ กฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ก็ได้กำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนไว้แล้ว
ทิศทางของประเทศไทยในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร รัฐบาลท่านนายกฯทักษิณ ได้นำหวยใต้ดินมาทำให้ถูกกฎหมายในขณะที่หวยใต้ดินที่ผิดกฎหมายยังมีอยู่ต่อไป รัฐบาลจะมุ่งเปิดบ่อนกาสิโนในรูปแบบต่างๆ และเมื่อมาถึงคราวนี้ก็น่าจะคาดหมายได้ว่า สุดท้ายรัฐบาลของท่านนายกฯทักษิณ ก็คงจะมุ่งสู้การเปิดการพนันฟุตบอลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รัฐบาลนำเอาอบายมุขเป็นเข็มทิศชี้นำเศรษฐกิจ รัฐบาลนำเอาแนวทางการแสวงหาเงินตรามากว่าค่านิยมที่ถูกต้อง ของเยาวชนและประชาชนทั้งประเทศ รัฐบาลมองข้ามศีลธรรม คิดแต่เรื่องทุน คิดแต่เรื่องกำไรในเชิงธุรกิจเท่านั้น
การที่นายกฯทักษิณ ซึ่งร่ำรวยมหาศาลมาจากความสำเร็จในการทำธุรกิจไม่ยึดติดรูปแบบเพียงเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด และนำเอาปรัชญาส่วนตัวมาชี้นำการพัฒนาประเทศ นับวันจะนำพาแต่ประชาชนและประเทศชาติไปสู่ความสับสนมากยิ่งขึ้นทุกที ผมจึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้
1. ยกเลิกการระดมเงินประชาชนไปซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล หากท่านนายกฯทักษิณอยากได้หุ้นลิเวอร์พูลก็ขอให้นำเงินส่วนตัวออกไปซื้อ
2. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณแก่สมาคมฟุตบอลอาชพของเมืองไทยอย่างจริงจัง หากมุ่งจะพัฒนาฟุตบอลไทยจริง
3. ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการกีฬาอย่างแท้จริง ด้วยการส่งเสริมให้มีการสร้างสนามกีฬาทุกหมู่บ้าน และให้จัดสรรอุปกรณ์กีฬาแก่เยาวชนและแก่ประชาชนชาวไทยให้เพียงพอ
4. ขอให้รัฐบาลสนับสนุน โรงเรียนกีฬา และ วิทยาลัยการกีฬา ที่ได้จัดตั้งขึ้นแล้วให้มีความพร้อม มีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัยอย่างพอเพียง และมีอาจารย์ผู้สอนที่มีความชำนาญ เฉพาะทางมากยิ่งขึ้น
5. ขอให้รัฐบาลเลิกมอมเมาสังคม ควบคุมอยาบมุข ทุกรูปแบบ ให้อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีงามของชาติ ไม่มองการพัฒนาประเทศเป็นธุรกิจเป็นทุน หรือเป็นกำไรสูงสุดเท่านั้น สัปดาห์นี้คงพบกันเท่านี้กระมังครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับสวัสดีครับ
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 พ.ค. 2547--จบ--
-ดท-
สวัสดีครับผม บัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พบกันเช่นเคยครับ ในรายการ ประชาธิปัตย์ออนไลน์ สำหรับสัปดาห์นี้ เรื่องท่านนายกฯทักษิณกับหงส์แดง ซึ่งก็คือกรณีที่ท่านนายกฯทักษิณประกาศซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล 30 % ซึ่งคิดเป็นมูลค่า กว่า 4,600 ล้านบาทในนามของรัฐบาลไทย ยังเถียงกันยังไม่จบ และยังคงจะต้องเถียงกันไปอีกนาน ผมจึงคิดว่าวันนี้น่าจะได้พูดคุยกันในเรื่องนี้
ท่านนายกฯทักษิณ ได้มีบัญชาให้การกีฬาแห่งประเทศไทยดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมา โดยให้การกีฬาแห่งประเทศไทยถือหุ้นใหญ่ 51 % ที่เหลือจะกระจายออกไป และจะใช้วิธีออกสลากพิเศษ ในชื่อสลากบำรุงการกีฬาเพื่อพัฒนากีฬาไทย หรือที่เรียกกันว่า หวยหงส์ เป็นการระดมทุน โดยให้เหตุผลในการซื้อว่า การซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ทั้งยังได้บอกกล่าวกับคณะรัฐมนตรีให้ได้รับทราบว่า คิดเรื่องนี้มาตลอดเพราะเห็นคุณค่าของกีฬา อยากเห็นคนหนุ่มสาวของประเทศหันมาสนใจและเล่นกีฬามากยิ่งขึ้น
ประเด็นที่น่าสนใจจึงอยู่ที่ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลของท่านนายกฯทักษิณ สนใจและให้การสนับสนุนกีฬามากน้อยขนาดไหนเพียงใด ผมอยากให้ท่านทั้งหลายลองมาดูตัวเลขงบประมาณที่รัฐบาลนี้จัดให้ ดูกันใกล้ๆ เฉพาะ 2 ปีเท่านั้น คือปีงบประมาณ 2547 ปีหนึ่ง กับงบประมาณปี 2548 อีกปีหนึ่ง ในปีงบประมาณ 2547 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้แก่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จำนวน 2,572 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเฉพาะด้านกีฬาและนันทนาการเป็นเงิน 1,313ล้านบาท ปีงบประมาณ 2548 ที่กำลังจะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณารัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นจำนวน 2,413 ล้านบาท และถ้าแยกเฉพาะกีฬาและนันทนาการนั้นก็คิดเป็นจำนวน 1,644 ล้านบาท โดยสรุปแล้วรัฐบาลจัดสรรงบประมาณด้านการกีฬาบวกนันทนาการให้แก่คนไทยทั้งประเทศ 60 ล้านคนเพียง 1,000ล้านบาทกว่าๆเท่านั้นเอง คิดแล้วไม่ถึง 1 ใน 3 ของงบประมาณที่จะซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล
ในการประชุมสหภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณางบประมารายจ่ายประจำปี 2547ในปีที่ผ่านมา เมื่อมีคำถามว่า ทำไม จัดสรรงบประมาณด้านการกีฬาเป็นจำนวนน้อยมาก รัฐบาลก็ตอบว่า มีงบประมาณจำกัด ทั้งๆที่ได้ตั้งใจไว้ในรายการอื่นๆที่ไม่น่าจำเป็นอีกมากมาย อย่างนี้ยังบอกว่ารัฐบาลคติดเรื่องกีฬามาตลอด เพราะเห็นคุณค่าของ กีฬา คงไม่จริง
แต่ครั้งนี้รัฐบาลจ่ายเงินกว่า 3 เท่าของงบประมาณประจำปีด้านกีฬาทั้งหมด เพื่อซื้อหุ้นของสโมสรลิเวอร์พูลของอังกฤษ จึงดูแปลกดีแต่ปัญหาที่น่าพิจารณาควรจะอยู่ที่ว่า แล้วเด็กไทยและยาวชนไทยจะได้อะไรกับการจ่ายเงินมหาศาลให้แก่สโมสรลิเวอร์พูล ของอังกฤษในครั้งนี้ ในเมื่อเด็กใน 6,000 กว่าตำบลทั่วประเทศไทยในหลาย 100 ตำบลหลายแห่ง ยังไม่มีสนามฟุตบอล และเด็กไทยอีกหลายล้านคน ที่ยังไม่มีลูกฟุตบอลไว้เตะเล่นเลย จะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยๆได้อย่างไร หรือถ้าจะพัฒนาแบบชี้วัดผลงานรัฐบาล ก็จะต้องแจกแจงรายละเอียด ที่บอกว่าจะมีผลประโยชน์ตกแก่เด็กๆและเยาวชนไทยหน่อย ว่าจะได้ผลประโยชน์อย่างไร
สโมสรฟุตบอลอาชีพในอังกฤษและยุโรปหลายประเทศ เช่น สเปน อิตตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส ต่างมีเงินทุนหมุนเวียนสโมสรละนับ แสนล้านบาท ในขณะที่สมาคมฟุตบอลกึ่งอาชีพของประเทศไทยของเรามีเงินหมุนเวียนไม่กี่ 10 ล้าน เงินทุนจำนวนน้อยของประเทศไทย ทำให้สมาคมฟุตบอลอาชีพเกิดขึ้นไม่ได้เป็นได้เพียงกึ่งอาชีพ ซึ่งเมื่อสอบถามผู้รับผิดชอบในวงการฟุตบอลไทยทุกคนจะตอบเหมือนกันทุกคนว่ารัฐบาลไม่ได้จัดสรรงบประมาสนับสนุนอย่างเพียงพอ นักำฟุตบอลไทยที่เล่นเก่งๆที่สุด ในเอเชียอาคเนย์ของเราหรือ อาเซียน ซึ่งชนะเลิสซีเกมส์มาหลายๆครั้ง นักฟุตบอลไทยจึงทำได้แตเพียงไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพของประเทศสิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเชีย นักฟุตบอลอาชีพในประเทศไทยเกิดไม่ได้ เพราะรัฐบาลไม่สันบสนุนจริง
และเมื่อหันมาดูด้านกีฬาเพื่อสุขภาพรัฐบาลก็ให้ความสำคัญน้อยมาก เรื่องของสุขภาพกำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่จนมีการพูดกันแล้วว่า ปัญหาสุขภาพกำลังวิกฤติ โดยมีการร่าง พรบ.ปฎิรูปสุขภาพมาแล้ว 3 ปี แต่ขณะนี้ยัง ไม่สามารถเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ ยังตกค้างอยู่ที่รัฐบาลมาปีกว่าแล้ว ไม่มีใครทราบว่าเมื่อไหร่พรบ.ปฎิรูปสุขภาพจะถูกนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งถ้ารัฐบาลจะได้เร่งทำเรื่อวงปฎิรูปสุขภาพรวดเร็วเหมือนซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลก็คงจะดี
โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ยังขาดแคลนงบประมาณหลายโรงพยาบาลขาดเงินทุนสำรอง ที่จะรักษาประชาชน และประชาชนคนจนก็ไม่มีเงินที่จะซื้อยานอกบัญชี เพื่อรักษาตนเอง งบประมาณเพื่อการเสริมสร้างมาตรฐานการรักษาพยาบาลก็มีไม่เพียงพอ แต่รัฐาลจะนำเงินกว่า 4,600 ล้านบาทไปซื้อหุ้น สโมสรฟุตบอลในต่างประเทศ เงินจำนวนมหาศาลครึ่งหมื่นล้านบาทควรจะลงทุนที่ไหน รัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัย หน่วยงานของรัฐบาลหลายๆหน่วยงาน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมฯรวมทั้ง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เอง ล้วนแต่ได้ใช้ความพยายามให้ต่างประเทศขนเงินมาลงทุนในประเทศไทย แต่ละไตรมาสแต่ละปี ทุกหน่วยงานต้องแถลงผลงานว่า มีเงินตราต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุน ไหลเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใด แต่รัฐบาลท่านนายกฯทักษิณ กำลังขนเงินออกนอกประเทศเป็นจำนวนมหาศาล
ซึ่งท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจะนำเงินจำนวน 4,700 ล้านบาท หรือ จำนวน 115 เหรียญอเมริกา ไปซื้อหุ้นลิเวอร์พูลนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียด เพราะตามกฎหมายแล้ว ผู้จะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ จำนวนเกินกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปีต้องขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน
แต่ที่สำคัญที่สุดของผม ก็คือว่า ในขณะที่ยังมีเรื่องสำคัยและจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายอีกมากมาย ภายในประเทศของเรา ซึ่งในระยะ 2 - 3 ปีที่ผ่านมาเมื่อมีคำถามในสภาว่า เหตุใดรัฐบาลจึงไม่ได้ตั้งจ่ายเอาไว้ในงบประมาณรายจ่ายของงบประมาณแผ่นดิน คำตอบของรัฐบาลก็คือ เรามีงบประมาณจำกัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือว่า ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยากจนมีรายได้ไม่พอรายจ่ายมีแต่หนี้ เด็กนักเรียนจำนวนมากยังไม่มีเงินซื้อหนังสือ คนจนจำนวนไม่น้อยยังไม่มีข้าวบริโภคครบทุกมื้อ แล้วรัฐบาลยังจะเดินสวนทางด้วยการนำเงินจำนวนมหาศาลไปซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลในต่างประเทศเช่นนี้จะเป็นการสมควรแล้วหรือ
การออกสลากไม่ว่าจะเรียกว่า พิเศษหรือไม่พิเศษอย่างไร ก็คือการสนับสนุนส่งสริมให้มีการเล่นการพนันขันต่อเป็นอบายมุข ยิ่งตั้งเงินรางวัลล่อใจเป็นจำนวนสูงๆ อย่างที่รัฐบาลนี้กำลังจะทำ ก็ยิ่งชัดเจนและด้วยเหตุนี้เองการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ผ่านมาจะออกสลากกรณีพิเศษ เฉพาะเพื่อการกุศลเท่านั้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลท่านนายกฯทักษิณ จะออกสลากเพื่อการธุรกิจ ที่ผ่านมาประเทศไทยจะออกสลากพิเศษนานๆครั้งและเพื่อการกุศลครั้งใหญ่ เช่น สลากคุ้มเกล้า เพื่อระดมทุนสร้างโรงพยาบาล เพื่อรักษาพยาบาลคน สลากบำรุงสภากาชาดไทย ล้วนแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อคนจน เพื่อการกุศลทั้งนั้น ยังไม่เคยมีรัฐบาลใดที่ใช้วีธีการออกสลากด้วยการลงทุนในเชิงธุรกิจเช่นนี้ กฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ก็ได้กำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนไว้แล้ว
ทิศทางของประเทศไทยในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร รัฐบาลท่านนายกฯทักษิณ ได้นำหวยใต้ดินมาทำให้ถูกกฎหมายในขณะที่หวยใต้ดินที่ผิดกฎหมายยังมีอยู่ต่อไป รัฐบาลจะมุ่งเปิดบ่อนกาสิโนในรูปแบบต่างๆ และเมื่อมาถึงคราวนี้ก็น่าจะคาดหมายได้ว่า สุดท้ายรัฐบาลของท่านนายกฯทักษิณ ก็คงจะมุ่งสู้การเปิดการพนันฟุตบอลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รัฐบาลนำเอาอบายมุขเป็นเข็มทิศชี้นำเศรษฐกิจ รัฐบาลนำเอาแนวทางการแสวงหาเงินตรามากว่าค่านิยมที่ถูกต้อง ของเยาวชนและประชาชนทั้งประเทศ รัฐบาลมองข้ามศีลธรรม คิดแต่เรื่องทุน คิดแต่เรื่องกำไรในเชิงธุรกิจเท่านั้น
การที่นายกฯทักษิณ ซึ่งร่ำรวยมหาศาลมาจากความสำเร็จในการทำธุรกิจไม่ยึดติดรูปแบบเพียงเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด และนำเอาปรัชญาส่วนตัวมาชี้นำการพัฒนาประเทศ นับวันจะนำพาแต่ประชาชนและประเทศชาติไปสู่ความสับสนมากยิ่งขึ้นทุกที ผมจึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้
1. ยกเลิกการระดมเงินประชาชนไปซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล หากท่านนายกฯทักษิณอยากได้หุ้นลิเวอร์พูลก็ขอให้นำเงินส่วนตัวออกไปซื้อ
2. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณแก่สมาคมฟุตบอลอาชพของเมืองไทยอย่างจริงจัง หากมุ่งจะพัฒนาฟุตบอลไทยจริง
3. ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการกีฬาอย่างแท้จริง ด้วยการส่งเสริมให้มีการสร้างสนามกีฬาทุกหมู่บ้าน และให้จัดสรรอุปกรณ์กีฬาแก่เยาวชนและแก่ประชาชนชาวไทยให้เพียงพอ
4. ขอให้รัฐบาลสนับสนุน โรงเรียนกีฬา และ วิทยาลัยการกีฬา ที่ได้จัดตั้งขึ้นแล้วให้มีความพร้อม มีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัยอย่างพอเพียง และมีอาจารย์ผู้สอนที่มีความชำนาญ เฉพาะทางมากยิ่งขึ้น
5. ขอให้รัฐบาลเลิกมอมเมาสังคม ควบคุมอยาบมุข ทุกรูปแบบ ให้อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีงามของชาติ ไม่มองการพัฒนาประเทศเป็นธุรกิจเป็นทุน หรือเป็นกำไรสูงสุดเท่านั้น สัปดาห์นี้คงพบกันเท่านี้กระมังครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับสวัสดีครับ
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 พ.ค. 2547--จบ--
-ดท-