‘องอาจ’ ชี้ หุ้นหงส์เข้าข่ายการพนันเสี่ยงโชค :
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเข้าไปซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลของนายกฯ โดยระดมทุนจากการออกสลากหรือที่เรียกกันว่าหวยหงส์ และจะมีการจัดตั้งบริษัทมหาชนโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นผู้ดำเนินการนั้น ว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายของการพนันเสี่ยงโชค มีรางวัลเป็นตัวล่อ อีกทั้งการซื้อสลากหรือหวยหงส์ถือเป็นข้อสัญญาว่าประชาชนผู้ซื้อสลากเป็นผู้ถือสิทธิ์ในหุ้นของบริษัทมหาชนที่จะจัดตั้งขึ้นด้วยหรือไม่ หรือเป็นเพียงการซื้อสลากเหมือนหวยธรรมดา เมื่อออกรางวัลแล้วก็ถือว่าหมดพันธะอ้างสิทธิใดๆไม่ได้
นายองอาจ กล่าวว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตอีกว่าในส่วนของกรรมการบริหารบริษัทมหาชนที่จะจัดตั้งขึ้นนั้นจะเป็นพวกพ้องของนายกฯหรือไม่ และใครจะเป็นผู้กำหนดตัวบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการบริหารในเมื่อเงินทุนที่ระดมมานั้นมาจากประชาชน และหากนายกฯหรือพวกพ้องเข้าเป็นคณะบริหารบริษัทดังกล่าวถือสิทธิ อำนาจ อะไร เพราะไม่ได้ซื้อหุ้นลิเวอร์พูลด้วยเงินของตนเอง นอกจากนี้ในอนาคตหากนายกฯนำบริษัทมหาชน ดังกล่าวเข้าตลาดหลักทัรพย์เพื่อเพิ่มมูลค่า ใครจะได้ ประโยชน์จาก ส่วนต่าง กำไรที่ได้ จากขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
นายองอาจ ยังกล่าวด้วยว่า การดำเนินการเจรจาซื้อขายหุ้นดังกล่าวมีเงื่อนงำหลายเรื่องคือ การใช้ตำแหน่งอำนาจ ในฐานะนายกฯของประเทศไทย และทำเนียบรัฐบาล ในการเจรจาซื้อขายและพยายามสร้างภาพให้เกิดความเข้าใจผิดว่าซื้อในนามรัฐบาลไทย อีกทั้งมีการใช้หน่วยงานรัฐ รองรับ เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ โดยไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลไทยจะได้อะไร จาก การเข้าไปซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล นอกจากนี้การที่นายกฯ ส่ง นายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ชินฯ ไป ร่วมเจรจา ด้วย ซึ่ง นายกฯ ไม่สามารถอธิบายได้ว่าไปในฐานะอะไร ได้แต่บอกว่าไปช่วยชาติ และนอกจากนี้น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า นายกฯทักษิณไม่เคยพูดแม้แต่ครั้งเดียวว่า จะ ใช้ เงิน ของตนเอง ซื้อหุ้นลิเวอร์พูล ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง กำไรเป็นเม็ดเงินอาจไม่มาก เพียงแต่ นายกฯทักษิณใช้การริเริ่มจะซื้อหุ้นลิเวอร์พูลเป็นสื่อสร้างภาพ เพื่อชื่อเสียง ของตนเองต่อนานา ชาติเป็นการสร้างความเท่ห์ของคนมีเงินและอำนาจ
‘การใช้ทำเนียบเป็นสถานที่เจรจา การซื้อขายหุ้นลิเวอร์พูลและให้รมช.พานิชย์ เป็นผู้ลงนามข้อตกลงเบื้องต้นเท่ากับว่าเป็นความพยายาม ของ นายกฯ ที่ต้องการให้ประชาชนทั่วไป เข้าใจว่า การซื้อทีมฟุตบอล ครั้งนี้ กระทำไปในนามรัฐบาลไทย อีกทั้งอาจหวังผลเพื่อผลทางจิตวิทยาการต่อรองระหว่างรัฐบาลไทย กับ สโมสรลิเวอร์พูล และด้วยเหตุที่การระดมทุนเพื่อซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล ใช้ รูปแบบ การออกสลากพิเศษ มีรางวัลล่อใจที่สูงลิ่ว เท่ากับ รัฐบาล ส่งเสริม ให้ ลุ่มหลง งมงาย ในการเสี่ยงโชค เพาะเชื้อ การพนันแห่งชาติ มอมเมาประชาชน รอคอยรางวัล ไม่ทำมาหากิน แน่นอนว่า สิ่งที่จะตามมาอย่างแน่นอน ก็คือ การพนันบอล จะ เกิดขึ้นทุกหัวระแหง แทนที่ เยาวชน หันมาเล่นกีฬา กลับมีแต่ จะลุ่มหลงแทงบอลกันง่ายขึ้น’ นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า ตนขอเสนอให้นายกฯใช้เงินของตนเองโดยการระดมทุนจากตระกูลชินวัตร จึงรุ่งเรืองกิจ มหากิจศิริ หรือโนมินีต่างชาติซึ่งกลุ่ม เหล่านี้ ล้วนแต่มีหุ้นอยู่ ใน ปตท.และ กลุ่ม ชิน ทั้งสิ้น เพื่อจะได้ไม่มีข้อครหาและประชาชนก็จะมีความเชื่อมั่นว่าหุ้นหงส์มีความมั่นคง สามารถสร้างกำไรได้ ต่อเนื่อง แม้ หากการแข่งขันจะแพ้ หรือฝีมือตกก็ตาม
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเข้าไปซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูลของนายกฯ โดยระดมทุนจากการออกสลากหรือที่เรียกกันว่าหวยหงส์ และจะมีการจัดตั้งบริษัทมหาชนโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นผู้ดำเนินการนั้น ว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายของการพนันเสี่ยงโชค มีรางวัลเป็นตัวล่อ อีกทั้งการซื้อสลากหรือหวยหงส์ถือเป็นข้อสัญญาว่าประชาชนผู้ซื้อสลากเป็นผู้ถือสิทธิ์ในหุ้นของบริษัทมหาชนที่จะจัดตั้งขึ้นด้วยหรือไม่ หรือเป็นเพียงการซื้อสลากเหมือนหวยธรรมดา เมื่อออกรางวัลแล้วก็ถือว่าหมดพันธะอ้างสิทธิใดๆไม่ได้
นายองอาจ กล่าวว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตอีกว่าในส่วนของกรรมการบริหารบริษัทมหาชนที่จะจัดตั้งขึ้นนั้นจะเป็นพวกพ้องของนายกฯหรือไม่ และใครจะเป็นผู้กำหนดตัวบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการบริหารในเมื่อเงินทุนที่ระดมมานั้นมาจากประชาชน และหากนายกฯหรือพวกพ้องเข้าเป็นคณะบริหารบริษัทดังกล่าวถือสิทธิ อำนาจ อะไร เพราะไม่ได้ซื้อหุ้นลิเวอร์พูลด้วยเงินของตนเอง นอกจากนี้ในอนาคตหากนายกฯนำบริษัทมหาชน ดังกล่าวเข้าตลาดหลักทัรพย์เพื่อเพิ่มมูลค่า ใครจะได้ ประโยชน์จาก ส่วนต่าง กำไรที่ได้ จากขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
นายองอาจ ยังกล่าวด้วยว่า การดำเนินการเจรจาซื้อขายหุ้นดังกล่าวมีเงื่อนงำหลายเรื่องคือ การใช้ตำแหน่งอำนาจ ในฐานะนายกฯของประเทศไทย และทำเนียบรัฐบาล ในการเจรจาซื้อขายและพยายามสร้างภาพให้เกิดความเข้าใจผิดว่าซื้อในนามรัฐบาลไทย อีกทั้งมีการใช้หน่วยงานรัฐ รองรับ เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ โดยไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลไทยจะได้อะไร จาก การเข้าไปซื้อหุ้นทีมลิเวอร์พูล นอกจากนี้การที่นายกฯ ส่ง นายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ชินฯ ไป ร่วมเจรจา ด้วย ซึ่ง นายกฯ ไม่สามารถอธิบายได้ว่าไปในฐานะอะไร ได้แต่บอกว่าไปช่วยชาติ และนอกจากนี้น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า นายกฯทักษิณไม่เคยพูดแม้แต่ครั้งเดียวว่า จะ ใช้ เงิน ของตนเอง ซื้อหุ้นลิเวอร์พูล ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง กำไรเป็นเม็ดเงินอาจไม่มาก เพียงแต่ นายกฯทักษิณใช้การริเริ่มจะซื้อหุ้นลิเวอร์พูลเป็นสื่อสร้างภาพ เพื่อชื่อเสียง ของตนเองต่อนานา ชาติเป็นการสร้างความเท่ห์ของคนมีเงินและอำนาจ
‘การใช้ทำเนียบเป็นสถานที่เจรจา การซื้อขายหุ้นลิเวอร์พูลและให้รมช.พานิชย์ เป็นผู้ลงนามข้อตกลงเบื้องต้นเท่ากับว่าเป็นความพยายาม ของ นายกฯ ที่ต้องการให้ประชาชนทั่วไป เข้าใจว่า การซื้อทีมฟุตบอล ครั้งนี้ กระทำไปในนามรัฐบาลไทย อีกทั้งอาจหวังผลเพื่อผลทางจิตวิทยาการต่อรองระหว่างรัฐบาลไทย กับ สโมสรลิเวอร์พูล และด้วยเหตุที่การระดมทุนเพื่อซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล ใช้ รูปแบบ การออกสลากพิเศษ มีรางวัลล่อใจที่สูงลิ่ว เท่ากับ รัฐบาล ส่งเสริม ให้ ลุ่มหลง งมงาย ในการเสี่ยงโชค เพาะเชื้อ การพนันแห่งชาติ มอมเมาประชาชน รอคอยรางวัล ไม่ทำมาหากิน แน่นอนว่า สิ่งที่จะตามมาอย่างแน่นอน ก็คือ การพนันบอล จะ เกิดขึ้นทุกหัวระแหง แทนที่ เยาวชน หันมาเล่นกีฬา กลับมีแต่ จะลุ่มหลงแทงบอลกันง่ายขึ้น’ นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า ตนขอเสนอให้นายกฯใช้เงินของตนเองโดยการระดมทุนจากตระกูลชินวัตร จึงรุ่งเรืองกิจ มหากิจศิริ หรือโนมินีต่างชาติซึ่งกลุ่ม เหล่านี้ ล้วนแต่มีหุ้นอยู่ ใน ปตท.และ กลุ่ม ชิน ทั้งสิ้น เพื่อจะได้ไม่มีข้อครหาและประชาชนก็จะมีความเชื่อมั่นว่าหุ้นหงส์มีความมั่นคง สามารถสร้างกำไรได้ ต่อเนื่อง แม้ หากการแข่งขันจะแพ้ หรือฝีมือตกก็ตาม
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-