เปิดงานระดมทุน ‘บัญญัติ ‘ ชี้จุดแข็งทำให้ ปชป.เป็นสถาบันการเมือง
เมื่อเวลา 19.30 น. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดงานระดมทุนภาคเหนือ ภายใต้ชื่อ ‘สร้างพลังร่วมกัน ผลักดันคนดี สู่เวทีประชาธิปไตย’ โดยระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแหล่งเงินทุนที่มาสนับสนุน พรรคอยู่ 3 แหล่งด้วยกันคือ 1. จากการบริจาค จากรายได้หรือเงินเดือน ส.ส. หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น ของพรรค 2.การสนับสนุนจากสมาชิกของพรรค รวมถึงบุคคลภายนอกตามอัธยาศัย 3. มาจากการระดมทุน ซึ่งในช่วงระหว่างปี 2546-2547 พรรค ประชาธิปัตย์มีการระดมทุนมาแล้ว 4 ครั้ง คือ 1. การระดมทุนของคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ 2. การระดมทุนภาคกลางที่จัดโดย นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 3. การระดมทุนผู้ว่ากทม. ‘อภิรักษ์ กับกรุงเทพฯ 360 องศา’ และการระดมทุนในครั้งนี้
นายบัญญัติ กล่าวว่า เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดออกมา ให้มีเงินทุนเพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง โดยมีวัตถุประสงค์คือไม่ให้พรรคการเมือง ตกอยู่ภายใต้กลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง ดังนั้นกองทุนที่ตั้งขึ้นมาใหม่นี้ คือแหล่งเงินทุนแหล่งที่ 4 ของพรรคประชาธิปัตย์
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในปัจจุบันมีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง เงินจึงกลายเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน ทางการเมือง ซึ่งต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบกับพรรคประชาธิปัตย์ พอสมควร แต่ก็เป็นที่น่ายินดี ที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยท้อแท้หรือท้อถอย จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินมาด้วยดี
‘ผมเคยพูดมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แม้ว่าเงินไม่ใช่พระเจ้า แต่คนของพระเจ้าต้องใช้เงิน ซึ่งขณะนี้ก็มีความจำเป็น ที่คนของพระเจ้าจะต้องใช้เงินแล้ว ผมคิดว่าจากแหล่งที่มาของเงินทุนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ก็พอจะบอกได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีความภูมิใจคือ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นอิสระในการดำเนินงานทางการเมือง และจากการมีส่วนร่วมดังกล่าว จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ดำรงความเป็นสถาบันทางการเมืองตราบนานเท่านาน’ นายบัญญัติ กล่าว
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
เมื่อเวลา 19.30 น. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดงานระดมทุนภาคเหนือ ภายใต้ชื่อ ‘สร้างพลังร่วมกัน ผลักดันคนดี สู่เวทีประชาธิปไตย’ โดยระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแหล่งเงินทุนที่มาสนับสนุน พรรคอยู่ 3 แหล่งด้วยกันคือ 1. จากการบริจาค จากรายได้หรือเงินเดือน ส.ส. หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น ของพรรค 2.การสนับสนุนจากสมาชิกของพรรค รวมถึงบุคคลภายนอกตามอัธยาศัย 3. มาจากการระดมทุน ซึ่งในช่วงระหว่างปี 2546-2547 พรรค ประชาธิปัตย์มีการระดมทุนมาแล้ว 4 ครั้ง คือ 1. การระดมทุนของคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ 2. การระดมทุนภาคกลางที่จัดโดย นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 3. การระดมทุนผู้ว่ากทม. ‘อภิรักษ์ กับกรุงเทพฯ 360 องศา’ และการระดมทุนในครั้งนี้
นายบัญญัติ กล่าวว่า เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดออกมา ให้มีเงินทุนเพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง โดยมีวัตถุประสงค์คือไม่ให้พรรคการเมือง ตกอยู่ภายใต้กลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง ดังนั้นกองทุนที่ตั้งขึ้นมาใหม่นี้ คือแหล่งเงินทุนแหล่งที่ 4 ของพรรคประชาธิปัตย์
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในปัจจุบันมีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง เงินจึงกลายเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน ทางการเมือง ซึ่งต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบกับพรรคประชาธิปัตย์ พอสมควร แต่ก็เป็นที่น่ายินดี ที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยท้อแท้หรือท้อถอย จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินมาด้วยดี
‘ผมเคยพูดมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แม้ว่าเงินไม่ใช่พระเจ้า แต่คนของพระเจ้าต้องใช้เงิน ซึ่งขณะนี้ก็มีความจำเป็น ที่คนของพระเจ้าจะต้องใช้เงินแล้ว ผมคิดว่าจากแหล่งที่มาของเงินทุนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ก็พอจะบอกได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีความภูมิใจคือ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นอิสระในการดำเนินงานทางการเมือง และจากการมีส่วนร่วมดังกล่าว จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ดำรงความเป็นสถาบันทางการเมืองตราบนานเท่านาน’ นายบัญญัติ กล่าว
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-