ในการจัดโครงการ “ประชาธิปัตย์พบประชาชน” เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงเบื้องหลังและบทสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า 3ปีของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้บริหารงานล้มเหลวอย่างเห็นชัดเจนอยู่ 3 เรื่อง คือ ประเด็นที่1. ล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระดับรากหญ้า แต่ธุรกิจในเครือของนายกฯรวยขึ้น ในขณะที่คนจนจนลงและมีหนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากโครงการที่รัฐบาลได้โฆษณาประชาสัมพันธ์เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหนี้เพิ่มขึ้น และที่รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจดีขึ้นโดยอ้างว่าจีดีพีโต 6.7% ในปี2546 ปรากฎว่าเป็นตัวเลขการบริโภคของประชาชนที่สูงถึง 60% โดยธุรกิจมือถือโตขึ้น 36.3% ธุรกิจยานยนต์โตขึ้น 25.5% ขณะที่ภาคเกษตรโตขึ้นเพียง 2 % ก็แปลว่ารายได้ไม่ได้ตกที่ภาคการเกษตรแต่ตกอยู่ที่ธุรกิจยานยนต์และมือถือ ดังนั้นการที่นายกฯประกาศว่าอีก 6 ปีคนจนจะหมดประเทศนั้น หมดแน่ เพราะตายหมด
‘3 ปีรัฐบาลนายกฯทักษิณปรากฏว่าประชาชนมีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นจาก 68,000 บาทเป็น 110,133 บาท หรือเพิ่มขึ้น 61% นี่คือผลงานของพรรคไทยรักไทยความจริงอีกด้านหนึ่งที่ไม่มีทีวีช่องไหนบอกท่าน ในทางตรงกันข้ามธุรกิจครอบครัวและพวกพ้องของนายกฯทักษิณกลับรวยขึ้น เฉพาะ 7 บริษัทครอบครัวนายกฯรวยขึ้น 91,000 ล้านบาทตกลงใช้กี่ชาติหมด ถ้าเทียบค่าใช้จ่ายของคนเฉลี่ยปีละ 41,000บาทและถ้าคนไทยมีอายุเฉลี่ย 80 ปี แปลว่า 1 ชาติคนไทยใช้เงินตก 3ล้าน 3 แสนบาทต่อคน ผมหารตัวเลขแล้วต้องใช้ถึง 2 หมื่น 7 พันชาติถึงจะหมด’ นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประเด็นที่ 2.การประกาศของนายกฯที่ว่าจะทำสงครามกับคอรัปชั่นนั้นในที่สุดกลายเป็นทำสงครามกับฝ่ายตรงข้ามของตัวเอง คือคนอื่นห้ามโกง แต่โกงเองไม่เป็นไร เพราะฝ่ายค้านตรวจสอบแล้วพบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง 14 เรื่อง เป็นผลงานของรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลที่บริหารงานแล้วเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจนายกฯและครอบครัว มี 11 คนเกือบครึ่งครม.ที่เข้าไปทำประโยชน์ให้กับหัวหน้าพรรคเหมือนส่งส่วยทางการเมืองให้นาย คือ 1.สนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งมีปัญหาการทับที่ธรณีสงฆ์ โดยภริยานายกฯเป็นเจ้าของ 2.สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ซึ่งครอบครัวของนายกฯเข้าไปถือหุ้น โดยมีรัฐมนตรีคนหนึ่งเปิดโอกาสให้ไอทีวีใช้เป็นช่องทางฟ้องอนุญาโตตุลาการและหากกระบวนการนี้สำเร็จทำให้รัฐเสียรายได้ประมาณ 17,400 ล้านบาท 3.ปกป้องบริษัทชินแซทเทิลไลท์ 4.ไม่บังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าของกระทรวงพาณิชย์ 5.การออกพรก.ภาษีสรรพสามิตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทมือถือของครอบครัวนายกฯ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า 6.แก้สัญญาบริษัทเอไอเอส ให้เสียค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้องค์การโทรศัพท์น้อยลง 7.การลดภาษีนำเข้ามือถือจาก10 % เหลือ 0 % 8.เอื้อประโยชน์ให้สายการบินแอร์เอเซีย 9.ตัดถนนเลียบทางด่วนรัชดาภิเษก-รามอินทรา ผ่านหมู่บ้านบางกอกบลูเลอวาร์ดที่มีคนในครอบครัวของนายกฯถือหุ้นอยู่ 10.การควบรวมธนาคารบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับธนาคารไทยทนุและธนาคารทหารไทย ที่มีลูกชายนายกฯถือหุ้นใหญ่อยู่ 11.การประมูลการเช่าคอมพิวเตอร์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3,192 ล้านบาทที่เอื้อให้กับบริษัทเอ็มลิงค์ซึ่งเป็นบริษัทของน้องสาวนายกฯ 12.จ้างบริษัทของประเทศจีนต่อเรือชายฝั่งของกองทัพไทย 2 ลำเพื่อแลกกับการเลื่อนองศาดาวเทียมของประเทศจีนคือเอเชียแซท์เพื่อไม่ให้มาทับคลื่นความถี่ของไอพีสตาร์ของครอบครัวนายกฯ ทำให้ประโยชน์ที่บริษัทชินแซท์ฯจะได้รับถึง 33,000 ล้านบาทตลอด 12 ปี 13.กรณีที่การขายที่ดินของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินมูลค่า 2 พันล้านบาท แต่ขายให้ภริยานายกฯเพียง 772 ล้านบาท และ14.การเปิดข้อสอบเอนทรานซ์เอื้อประโยชน์ให้ลูกคนมีอำนาจที่กำลังสอบ แม้ประเมินค่าเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่เป็นการทุจริตทางจริยธรรม
‘ทั้งหมดเป็น 14 เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จับได้ไล่ทัน เป็นผลงานชิ้นโบว์ดำ โบว์ม่วง โบว์เทา ที่ 11 รัฐมนตรีเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของนายกฯ ทั้งนี้เรายังมี 3 เรื่องที่กำลังติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่ และเมื่อได้เอกสารครบถ้วนแล้วจะเปิดเผยให้ประชาชนทราบต่อไป ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลก็พร้อมที่จะบริหารประเทศ แต่ถ้าเรามีเสียงไม่พอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล แต่ขอให้เรามีอย่างน้อย 200 เสียงเพื่อจะได้ตรวจสอบรัฐบาลได้เต็มรูปแบบ คือสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทั้งรัฐมนตรีและนายกฯเพราะเราเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า และวันหนึ่งคนโกงจะต้องมีอันเป็นไป’ นายจุรินทร์ กล่าว และว่า ประเด็นที่ 3.ในระยะ 3ปีรัฐบาลพรรคไทยรักไทยทำสังคมเลวลง คุณภาพคนถูกทำลายด้วยอบายมุข และย่ำยีการปฏิรูปการศึกษาซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างคนและสร้างชาติ
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
‘3 ปีรัฐบาลนายกฯทักษิณปรากฏว่าประชาชนมีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นจาก 68,000 บาทเป็น 110,133 บาท หรือเพิ่มขึ้น 61% นี่คือผลงานของพรรคไทยรักไทยความจริงอีกด้านหนึ่งที่ไม่มีทีวีช่องไหนบอกท่าน ในทางตรงกันข้ามธุรกิจครอบครัวและพวกพ้องของนายกฯทักษิณกลับรวยขึ้น เฉพาะ 7 บริษัทครอบครัวนายกฯรวยขึ้น 91,000 ล้านบาทตกลงใช้กี่ชาติหมด ถ้าเทียบค่าใช้จ่ายของคนเฉลี่ยปีละ 41,000บาทและถ้าคนไทยมีอายุเฉลี่ย 80 ปี แปลว่า 1 ชาติคนไทยใช้เงินตก 3ล้าน 3 แสนบาทต่อคน ผมหารตัวเลขแล้วต้องใช้ถึง 2 หมื่น 7 พันชาติถึงจะหมด’ นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประเด็นที่ 2.การประกาศของนายกฯที่ว่าจะทำสงครามกับคอรัปชั่นนั้นในที่สุดกลายเป็นทำสงครามกับฝ่ายตรงข้ามของตัวเอง คือคนอื่นห้ามโกง แต่โกงเองไม่เป็นไร เพราะฝ่ายค้านตรวจสอบแล้วพบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง 14 เรื่อง เป็นผลงานของรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลที่บริหารงานแล้วเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจนายกฯและครอบครัว มี 11 คนเกือบครึ่งครม.ที่เข้าไปทำประโยชน์ให้กับหัวหน้าพรรคเหมือนส่งส่วยทางการเมืองให้นาย คือ 1.สนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งมีปัญหาการทับที่ธรณีสงฆ์ โดยภริยานายกฯเป็นเจ้าของ 2.สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ซึ่งครอบครัวของนายกฯเข้าไปถือหุ้น โดยมีรัฐมนตรีคนหนึ่งเปิดโอกาสให้ไอทีวีใช้เป็นช่องทางฟ้องอนุญาโตตุลาการและหากกระบวนการนี้สำเร็จทำให้รัฐเสียรายได้ประมาณ 17,400 ล้านบาท 3.ปกป้องบริษัทชินแซทเทิลไลท์ 4.ไม่บังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าของกระทรวงพาณิชย์ 5.การออกพรก.ภาษีสรรพสามิตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทมือถือของครอบครัวนายกฯ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า 6.แก้สัญญาบริษัทเอไอเอส ให้เสียค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้องค์การโทรศัพท์น้อยลง 7.การลดภาษีนำเข้ามือถือจาก10 % เหลือ 0 % 8.เอื้อประโยชน์ให้สายการบินแอร์เอเซีย 9.ตัดถนนเลียบทางด่วนรัชดาภิเษก-รามอินทรา ผ่านหมู่บ้านบางกอกบลูเลอวาร์ดที่มีคนในครอบครัวของนายกฯถือหุ้นอยู่ 10.การควบรวมธนาคารบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับธนาคารไทยทนุและธนาคารทหารไทย ที่มีลูกชายนายกฯถือหุ้นใหญ่อยู่ 11.การประมูลการเช่าคอมพิวเตอร์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3,192 ล้านบาทที่เอื้อให้กับบริษัทเอ็มลิงค์ซึ่งเป็นบริษัทของน้องสาวนายกฯ 12.จ้างบริษัทของประเทศจีนต่อเรือชายฝั่งของกองทัพไทย 2 ลำเพื่อแลกกับการเลื่อนองศาดาวเทียมของประเทศจีนคือเอเชียแซท์เพื่อไม่ให้มาทับคลื่นความถี่ของไอพีสตาร์ของครอบครัวนายกฯ ทำให้ประโยชน์ที่บริษัทชินแซท์ฯจะได้รับถึง 33,000 ล้านบาทตลอด 12 ปี 13.กรณีที่การขายที่ดินของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินมูลค่า 2 พันล้านบาท แต่ขายให้ภริยานายกฯเพียง 772 ล้านบาท และ14.การเปิดข้อสอบเอนทรานซ์เอื้อประโยชน์ให้ลูกคนมีอำนาจที่กำลังสอบ แม้ประเมินค่าเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่เป็นการทุจริตทางจริยธรรม
‘ทั้งหมดเป็น 14 เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จับได้ไล่ทัน เป็นผลงานชิ้นโบว์ดำ โบว์ม่วง โบว์เทา ที่ 11 รัฐมนตรีเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของนายกฯ ทั้งนี้เรายังมี 3 เรื่องที่กำลังติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่ และเมื่อได้เอกสารครบถ้วนแล้วจะเปิดเผยให้ประชาชนทราบต่อไป ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลก็พร้อมที่จะบริหารประเทศ แต่ถ้าเรามีเสียงไม่พอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล แต่ขอให้เรามีอย่างน้อย 200 เสียงเพื่อจะได้ตรวจสอบรัฐบาลได้เต็มรูปแบบ คือสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทั้งรัฐมนตรีและนายกฯเพราะเราเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า และวันหนึ่งคนโกงจะต้องมีอันเป็นไป’ นายจุรินทร์ กล่าว และว่า ประเด็นที่ 3.ในระยะ 3ปีรัฐบาลพรรคไทยรักไทยทำสังคมเลวลง คุณภาพคนถูกทำลายด้วยอบายมุข และย่ำยีการปฏิรูปการศึกษาซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างคนและสร้างชาติ
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-