‘อาคม เอ่งฉ้วน’ เตรียมเอกสารยื่นฟ้อง ‘ส.ส.กลุ่มวาดะห์พรรคไทยรักไทย’ กรณีกล่าวหาสมัยเป็นรมช.เกษตรฯ มีการเอาภาษีประชาชน ไปแทรกแซงยางพารากว่า 5 พันล้านบาท พร้อมระบุ ทุกรัฐบาลก็แทรกแซงราคายางพาราไม่ใช่เฉพาะสมัยที่ตนเป็นรมช.สมัยเดียว
นายอาคม เอ่งฉ้วน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายบูราฮานูดีน อุเซ็ง ส.ส.กลุ่มวาดะห์พรรคไทยรักไทย ออกมากล่าวหาว่าในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการนำภาษีของประชาชนมาแทรกแซงราคายางพารากว่า 5,000 ล้านบาทว่า ในเรื่องนี้ตนได้ชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาแล้ว แต่เมื่อนายบูราฮานูดีน อุเซ็ง ออกมาพูดนอกสภาโดยกล่าวหาให้ตนเกิดความเสียหาย ตนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องฟ้องร้องนายบูราฮานูดีน อุเซ็ง เพื่อปกป้องชื่อเสียงเกียรติยศในการทำงานทางการเมืองมา 20 กว่าปี
‘ผมไม่ติดใจหากนายบูราฮานูดีน อุเซ็ง จะทำวีซีดีการอภิปรายเรื่องยางพาราออกมาแจกจ่ายให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะผมถือว่าเป็นการนำการอภิปรายออกมาขยายผลเท่านั้น แต่หากวีซีดีชุดดังกล่าวมีการบิดเบือนข้อมูลจากการอภิปราย และหากนายบูราฮานูดีน หรือใครก็ตามออกมาให้สัมภาษณ์หรือกล่าวหาขยายผลจากการอภิปรายในทำนองที่ทำให้ผมเสื่อมเสีย ผมก็จำเป็นต้องฟ้องร้องบุคคลนั้น เพื่อปกป้องชื่อเสียงทางการเมืองที่ผมสั่งสมมา 20 กว่าปี แต่ผมคิดว่าการออกมาให้สัมภาษณ์ของนายบูราฮานูดีน คงเป็นการแก้เกี้ยวการอภิปรายที่รัฐมนตรีตอบคำถามไม่ได้มากกว่า’ ส.ส.กระบี่กล่าว
นายอาคมกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ได้ใช้มติคณะรัฐมนตรีทำแพ็คกิ้งเครดิต หรือการขออนุมัติเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อแทรกแซงราคายางพารา ออกมาถึง 2 ครั้ง คือวันที่ 1 ตุลาคม 2544 วงเงิน 1,000 ล้านบาท และครั้งที่ 2 วงเงิน 1,300 ล้านบาท นอกจากนี้เมื่อ 25 ธันวาคม 2544 รัฐบาลยังอนุมัติให้องค์การสวนยางกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย 4,000 ล้านบาทเพื่อไปแทรกแซงราคายางพาราที่กำลังตกต่ำในระหว่างปี 2544 — 2545 ซึ่งจากการแทรกแซงดังกล่าวจะเห็นได้ว่ารัฐบาลทุกชุดต่างให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือชาวสวนยาง เพราะยางเป็นทั้งพืชเศรษฐกิจของไทย และเป็นวิถีชีวิตของงคนภาคใต้ ภาคตะวันออก และวันนี้มีความสำคัญต่อคนภาคเหนือและภาคอีสาน
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
นายอาคม เอ่งฉ้วน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายบูราฮานูดีน อุเซ็ง ส.ส.กลุ่มวาดะห์พรรคไทยรักไทย ออกมากล่าวหาว่าในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการนำภาษีของประชาชนมาแทรกแซงราคายางพารากว่า 5,000 ล้านบาทว่า ในเรื่องนี้ตนได้ชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาแล้ว แต่เมื่อนายบูราฮานูดีน อุเซ็ง ออกมาพูดนอกสภาโดยกล่าวหาให้ตนเกิดความเสียหาย ตนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องฟ้องร้องนายบูราฮานูดีน อุเซ็ง เพื่อปกป้องชื่อเสียงเกียรติยศในการทำงานทางการเมืองมา 20 กว่าปี
‘ผมไม่ติดใจหากนายบูราฮานูดีน อุเซ็ง จะทำวีซีดีการอภิปรายเรื่องยางพาราออกมาแจกจ่ายให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะผมถือว่าเป็นการนำการอภิปรายออกมาขยายผลเท่านั้น แต่หากวีซีดีชุดดังกล่าวมีการบิดเบือนข้อมูลจากการอภิปราย และหากนายบูราฮานูดีน หรือใครก็ตามออกมาให้สัมภาษณ์หรือกล่าวหาขยายผลจากการอภิปรายในทำนองที่ทำให้ผมเสื่อมเสีย ผมก็จำเป็นต้องฟ้องร้องบุคคลนั้น เพื่อปกป้องชื่อเสียงทางการเมืองที่ผมสั่งสมมา 20 กว่าปี แต่ผมคิดว่าการออกมาให้สัมภาษณ์ของนายบูราฮานูดีน คงเป็นการแก้เกี้ยวการอภิปรายที่รัฐมนตรีตอบคำถามไม่ได้มากกว่า’ ส.ส.กระบี่กล่าว
นายอาคมกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ได้ใช้มติคณะรัฐมนตรีทำแพ็คกิ้งเครดิต หรือการขออนุมัติเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อแทรกแซงราคายางพารา ออกมาถึง 2 ครั้ง คือวันที่ 1 ตุลาคม 2544 วงเงิน 1,000 ล้านบาท และครั้งที่ 2 วงเงิน 1,300 ล้านบาท นอกจากนี้เมื่อ 25 ธันวาคม 2544 รัฐบาลยังอนุมัติให้องค์การสวนยางกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย 4,000 ล้านบาทเพื่อไปแทรกแซงราคายางพาราที่กำลังตกต่ำในระหว่างปี 2544 — 2545 ซึ่งจากการแทรกแซงดังกล่าวจะเห็นได้ว่ารัฐบาลทุกชุดต่างให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือชาวสวนยาง เพราะยางเป็นทั้งพืชเศรษฐกิจของไทย และเป็นวิถีชีวิตของงคนภาคใต้ ภาคตะวันออก และวันนี้มีความสำคัญต่อคนภาคเหนือและภาคอีสาน
โดยทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-