แท็ก
จีดีพี
ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. สศช.ปรับเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปี 47 ลดลงที่ระดับร้อยละ 6.0-7.0 เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกปี 47 ว่า เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 6.5 ชะลอลงจากร้อยละ
7.8 ในไตรมาสก่อน และเมื่อปรับค่าฤดูกาลแล้วผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ (จีดีพี) ยังขยายตัวร้อยละ 0.8 สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้จีดีพีขยายตัว
ในอัตราชะลอลง เนื่องจากการระบาดของไข้หวัดนกและปัญหาภัยแล้ง โดยภาคการผลิตขยายตัวในอัตราชะลอลงโดยเฉพาะภาคเกษตรหดตัว
ร้อยละ 2.8 เพราะไข้หวัดนกและภัยแล้ง ส่วนผลผลิตนอกภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 7.6 ชะลอลงจากร้อยละ 8.0 ในไตรมาสก่อน โดย
สาขาอุตสาหกรรมการก่อสร้าง การเงิน และการธนาคาร และบริการอื่น ๆ เป็นสาขาหลักในการขับเคลื่อนการขยายตัว ด้านการใช้จ่ายชะลอ
ตัวลงทั้งการบริโภคครัวเรือน การใช้จ่ายของรัฐบาล และการลงทุนรวมทั้งภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ สศช.ยังปรับเป้าหมายการเติบโตทาง
เศรษฐกิจในปี 47 ลดลงจากร้อยละ 7.0-8.0 คงเหลือร้อยละ 6.0-7.0 เนื่องจากเศรษฐกิจยังมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบเป็นปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน
โดยเฉพาะความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (ข่าวสด, ไทยรัฐ)
2. สมาคมธนาคารไทยเสนอแนวคิด 5 แนวทางแก่ นรม. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ รองประธานสมาคมธนาคารไทย
เปิดเผยภายหลังการหารือกับ นรม.ว่า สมาคมธนาคารไทยได้เสนอความคิดเห็นให้แก่ นรม. 5 แนวทาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบ
การ คือ 1) ขอให้รัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ย และควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากสภาพคล่องในระบบยัง
มีอยู่ประมาณ 7 แสนล้านบาท 2) รัฐบาลควรมีมาตรการเข้าไปดูแลทั้งเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและเรื่องอัตราดอกเบี้ยไม่ให้มีการเคลื่อนไหวรุนแรง
และฉับพลัน 3) ให้รัฐบาลทำความเข้าใจกับประชาชนและสถาบันการเงินเรื่องมาตรการต่าง ๆ ที่จะออกมา 4) รัฐบาลต้องทำความเข้าใจโดย
รวมในเรื่องที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพคล่อง โดยให้ชี้แจงข้อมูลให้เอกชนได้รับทราบอย่างรวดเร็วและชัดเจน และ 5) แนวทางเกี่ยวกับ
วัฒนธรรมในการชำระหนี้ที่ได้เสียไปตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยสร้างให้เกิดความเข้าใจทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้ (ข่าวสด, ไทยรัฐ)
3. ที่ประชุมคณะทำงานด้านวิชาการการแข่งขันทางการค้าเห็นชอบหลักเกณฑ์การควบรวมกิจการธุรกิจด้านการเงินและประกันภัย
นายศักดา ธนิตกุล อ.คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานด้านวิชาการการแข่งขันทางการค้าว่า ที่
ประชุมมีมติเห็นชอบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การควบรวมกิจการ โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) ธุรกิจทั่วไป เช่น การค้าสินค้า และการ
ค้าบริการทุกชนิด รวมถึงธุรกิจการประกันภัย โดยจะต้องมียอดขายมากกว่าหรือเท่ากับ 5 พันล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าหรือเท่ากับ
1 ใน 4 ของธุรกิจ ส่วนกรณีธุรกิจประกันภัยพิจารณาจากยอดเบี้ยประกันภัยรับต่อปี โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน และ 2) ธุรกิจด้านการเงิน เช่น
ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ต้องมียอดปล่อยสินเชื่อต่อปีเท่ากับหรือมากกว่า 1 แสนล้านบาทขึ้นไป และมีส่วนแบ่งการตลาดมาก
กว่าหรือเท่ากับ 1 ใน 4 ของยอดปล่อยสินเชื่อทั้งหมด (เดลินิวส์, ข่าวสด, ไทยรัฐ
4. ตลท.ร่วมกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนจัดตั้งสภาตลาดทุนไทย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
เปิดเผยว่า ตลท.จะร่วมกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน 5 แห่ง ได้แก่ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน สมาคมนัก
วิเคราะห์หลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจดทะเบียน และสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย จัดตั้งสภาตลาดทุนไทย ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับสภาอุตสาหกรรมไทย
อันมีประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีศักยภาพ และให้การบริหารงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน (เดลินิวส์, ไทยรัฐ)
5. ภาวะอุตสาหกรรมไทยในไตรมาสแรกปี 47 ลดลงร้อยละ 14.8 เทียบต่อปี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
เปิดเผยถึงภาวะอุตสาหกรรมในไตรมาสแรกของปี 47 ว่า อยู่ที่ระดับร้อยละ 10.4 ซึ่งปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ
14.8 แต่ก็ยังขยายตัวสูงกว่าการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 7.6 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คาดว่าภายในสิ้นปี 47 การขยายตัวจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ 11
เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาไทยประสบปัญหาภาวะวิกฤตหลายประเด็น โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมัน และการระบาดของไข้หวัดนก อันเป็นปัจจัยสำคัญ
ที่ส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมโดยรวม ส่งผลให้การขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ (เดลินิวส์)
6. ก.คลังเตรียมออกเอเชียบอนด์ 3 หมื่นล้านภายในปี 47 รมว.ก.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย
(เอเชียบอนด์) ว่าได้มอบหมายให้สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เป็นองค์กรที่จะออกเอเชียบอนด์วงเงิน 3 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ เพื่อ
ชดเชยความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน รวมทั้งได้พิจารณาที่จะยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้กับนักลงทุนต่าง
ประเทศ ซึ่งกรมสรรพากรได้รับเรื่องไปเพื่อหารือรายละเอียดกับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียถึงขอบเขตการยกเว้นภาษี (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตสูง แต่มีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ย รายงานจากกรุงสะวันนา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.47
เจ้าหน้าที่อาวุโสของ สรอ. กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มีปัจจัยเสี่ยงหลักอยู่
2 ประการ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก คือ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน
แต่ภาพรวมยังคงค่อนข้างดี ทั้งนี้ กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ มีกำหนดประชุมกันในวันอังคารนี้ที่ Sea Island สาธารณรัฐจอร์เจีย
เพื่อสนทนากันเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก (รอยเตอร์)
2. การให้สินเชื่อของธนาคารญี่ปุ่นเดือน พ.ค.47 ลดลง 3.6% รายงานจากโตเกียว ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.47 ธ.กลางญี่ปุ่นเปิด
เผยว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารญี่ปุ่นในเดือน พ.ค.47 ลดลงร้อยละ 3.6 จากปีก่อน นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 41 โดยข้อมูล
เบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า ยอดรวมเงินกู้จาก 4 ธนาคารหลักประเภทต่าง ๆ รวมถึง shinkin bank ในเดือน พ.ค.47 อยู่ที่ระดับ 450.3676
ล้านล้านเยน หรือ 4.106 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวลดลงทุกเดือนนับตั้งแต่ ธ.กลางญี่ปุ่น เริ่มนับรวมข้อมูลของ shinkin
bank ตั้งแต่เดือน ม.ค.44 แต่การลดลงเริ่มเบาบางลงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยการให้สินเชื่อลดลงร้อยละ 4.0 ในเดือน เม.ย.
เทียบปีต่อปี อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่นับรวม shinkin bank ตัวเลขสินเชื่อของธนาคารญี่ปุ่นจะลดลงร้อยละ 4.1 อยู่ที่ระดับ 388.9582 ล้าน
ล้านเยน เป็นการลดลงติดต่อกันเดือนที่ 77 ส่วนการให้สินเชื่อของธนาคารต่างประเทศในญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 20.1 จากปีก่อน อยู่ที่ระดับ
5.5089 ล้านล้านเยน (รอยเตอร์)
3. จีนผ่อนปรนนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อกระตุ้นกิจการในประเทศให้ไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น รายงานจากปักกิ่งเมื่อ วันที่
7 มิ.ย. 47 รัฐบาลจีนผ่อนคลายข้อจำกัดอัตราแลกเปลี่ยน และข้อจำกัดเงินทุนเพื่อส่งเสริมกิจการในประเทศให้ไปลงทุนต่างประเทศ เนื่องจาก
กิจการที่จะไปลงทุนในต่างประเทศต้องนำสกุลเงินท้องถิ่นไปแลกเป็นเงินตราต่างประเทศ the State Admintration of Foreign
Exchange —SAFE เปิดเผยว่าจีนเกินดุลการชำระเงิน ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินเรนมินบิ (หยวน) มีเสถียรภาพ และมีทุนสำรองระหว่าง
ประเทศมากพอที่จะพัฒนากลยุทธอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดย SAFE จะปรับปรุงนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนให้ทันสมัยเพื่อช่วยกิจการในประเทศใน
การในเรื่องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหากจำเป็น ทั้งนี้รัฐบาลจีนได้ตั้งโควตาอัตราแลกเปลี่ยนไว้ 2.23 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ.
เพื่อเป็นโครงการนำร่องใน 19 จังหวัดและเมือง เพื่อลดข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ส่วนกิจการขนาดใหญ่นั้น รัฐบาลจะ
ผ่อนปรนข้อจำกัดเพื่ออนุญาตให้นำเงินทุนออกไปลงทุนด้วยเงินสกุลต่างประเทศ ทั้งนี้ในปี 46 กิจการในจีนลงทุนในต่างประเทศเป็นเงินถึง 2.1
พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากปี 45 ถึงร้อยละ 112.3 อย่างไรก็ตามการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในจีนในปีที่แล้วยังคงมีประมาณ
53.5 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. และ ณ สิ้นสุดเดือนมี.ค. 47 เงินสำรองระหว่างประเทศของจีน สูงถึง 439.8 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. มาก
เป็นอันดับที 2 ของโลกเป็นรองจากญี่ปุ่น แม้ว่าจีนจะต่อต้านแรงกดดันจากต่างประเทศให้ปรับค่าเงินหยวนแต่ก็ได้ผ่อนปรนให้มีการนำเงินทุนออก
ไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นอย่างไรก็ตามจีนยังคงเข้มงวดต่อการตรวจสอบการไหลเข้าของเงินลงทุนในประเทศด้วย(รอยเตอร์)
4. รัฐบาลเม็กซิโกคาดว่าการส่งออกจะถูกกระทบหากสรอ.ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย รายงานจากเม็กซิโกเมื่อ วันที่ 7 มิ.ย. 47 รมช.
คลังเม็กซิโกเปิดเผยว่า การส่งออกของเม็กซิโกและการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศอาจถูกกระทบหากสรอ.ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แม้ว่า
เมื่อเร็วๆนี้การส่งสินค้าออกไปสรอ.จะเพิ่มขึ้น ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2 เนื่องจากอุปสงค์ของสรอ.ฟื้นตัว โดยการส่งออก
ของเม็กซิโกถึงร้อยละ 85 เป็นการส่งออกไปสรอ.(รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 8/6/47 7/6/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.586 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40.4064/40.6910 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1250 - 1.2500 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 625.83/15.43 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,500/7,600 7,450/7,550 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 34.16 3374 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 18.19*/14.59 17.59/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 8 มิ.ย.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. สศช.ปรับเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปี 47 ลดลงที่ระดับร้อยละ 6.0-7.0 เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกปี 47 ว่า เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 6.5 ชะลอลงจากร้อยละ
7.8 ในไตรมาสก่อน และเมื่อปรับค่าฤดูกาลแล้วผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ (จีดีพี) ยังขยายตัวร้อยละ 0.8 สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้จีดีพีขยายตัว
ในอัตราชะลอลง เนื่องจากการระบาดของไข้หวัดนกและปัญหาภัยแล้ง โดยภาคการผลิตขยายตัวในอัตราชะลอลงโดยเฉพาะภาคเกษตรหดตัว
ร้อยละ 2.8 เพราะไข้หวัดนกและภัยแล้ง ส่วนผลผลิตนอกภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 7.6 ชะลอลงจากร้อยละ 8.0 ในไตรมาสก่อน โดย
สาขาอุตสาหกรรมการก่อสร้าง การเงิน และการธนาคาร และบริการอื่น ๆ เป็นสาขาหลักในการขับเคลื่อนการขยายตัว ด้านการใช้จ่ายชะลอ
ตัวลงทั้งการบริโภคครัวเรือน การใช้จ่ายของรัฐบาล และการลงทุนรวมทั้งภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ สศช.ยังปรับเป้าหมายการเติบโตทาง
เศรษฐกิจในปี 47 ลดลงจากร้อยละ 7.0-8.0 คงเหลือร้อยละ 6.0-7.0 เนื่องจากเศรษฐกิจยังมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบเป็นปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน
โดยเฉพาะความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (ข่าวสด, ไทยรัฐ)
2. สมาคมธนาคารไทยเสนอแนวคิด 5 แนวทางแก่ นรม. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ รองประธานสมาคมธนาคารไทย
เปิดเผยภายหลังการหารือกับ นรม.ว่า สมาคมธนาคารไทยได้เสนอความคิดเห็นให้แก่ นรม. 5 แนวทาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบ
การ คือ 1) ขอให้รัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ย และควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากสภาพคล่องในระบบยัง
มีอยู่ประมาณ 7 แสนล้านบาท 2) รัฐบาลควรมีมาตรการเข้าไปดูแลทั้งเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและเรื่องอัตราดอกเบี้ยไม่ให้มีการเคลื่อนไหวรุนแรง
และฉับพลัน 3) ให้รัฐบาลทำความเข้าใจกับประชาชนและสถาบันการเงินเรื่องมาตรการต่าง ๆ ที่จะออกมา 4) รัฐบาลต้องทำความเข้าใจโดย
รวมในเรื่องที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพคล่อง โดยให้ชี้แจงข้อมูลให้เอกชนได้รับทราบอย่างรวดเร็วและชัดเจน และ 5) แนวทางเกี่ยวกับ
วัฒนธรรมในการชำระหนี้ที่ได้เสียไปตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยสร้างให้เกิดความเข้าใจทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้ (ข่าวสด, ไทยรัฐ)
3. ที่ประชุมคณะทำงานด้านวิชาการการแข่งขันทางการค้าเห็นชอบหลักเกณฑ์การควบรวมกิจการธุรกิจด้านการเงินและประกันภัย
นายศักดา ธนิตกุล อ.คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานด้านวิชาการการแข่งขันทางการค้าว่า ที่
ประชุมมีมติเห็นชอบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การควบรวมกิจการ โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) ธุรกิจทั่วไป เช่น การค้าสินค้า และการ
ค้าบริการทุกชนิด รวมถึงธุรกิจการประกันภัย โดยจะต้องมียอดขายมากกว่าหรือเท่ากับ 5 พันล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าหรือเท่ากับ
1 ใน 4 ของธุรกิจ ส่วนกรณีธุรกิจประกันภัยพิจารณาจากยอดเบี้ยประกันภัยรับต่อปี โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน และ 2) ธุรกิจด้านการเงิน เช่น
ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ต้องมียอดปล่อยสินเชื่อต่อปีเท่ากับหรือมากกว่า 1 แสนล้านบาทขึ้นไป และมีส่วนแบ่งการตลาดมาก
กว่าหรือเท่ากับ 1 ใน 4 ของยอดปล่อยสินเชื่อทั้งหมด (เดลินิวส์, ข่าวสด, ไทยรัฐ
4. ตลท.ร่วมกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนจัดตั้งสภาตลาดทุนไทย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
เปิดเผยว่า ตลท.จะร่วมกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน 5 แห่ง ได้แก่ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน สมาคมนัก
วิเคราะห์หลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจดทะเบียน และสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย จัดตั้งสภาตลาดทุนไทย ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับสภาอุตสาหกรรมไทย
อันมีประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีศักยภาพ และให้การบริหารงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน (เดลินิวส์, ไทยรัฐ)
5. ภาวะอุตสาหกรรมไทยในไตรมาสแรกปี 47 ลดลงร้อยละ 14.8 เทียบต่อปี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
เปิดเผยถึงภาวะอุตสาหกรรมในไตรมาสแรกของปี 47 ว่า อยู่ที่ระดับร้อยละ 10.4 ซึ่งปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ
14.8 แต่ก็ยังขยายตัวสูงกว่าการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 7.6 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คาดว่าภายในสิ้นปี 47 การขยายตัวจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ 11
เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาไทยประสบปัญหาภาวะวิกฤตหลายประเด็น โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมัน และการระบาดของไข้หวัดนก อันเป็นปัจจัยสำคัญ
ที่ส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมโดยรวม ส่งผลให้การขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ (เดลินิวส์)
6. ก.คลังเตรียมออกเอเชียบอนด์ 3 หมื่นล้านภายในปี 47 รมว.ก.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย
(เอเชียบอนด์) ว่าได้มอบหมายให้สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เป็นองค์กรที่จะออกเอเชียบอนด์วงเงิน 3 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ เพื่อ
ชดเชยความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน รวมทั้งได้พิจารณาที่จะยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้กับนักลงทุนต่าง
ประเทศ ซึ่งกรมสรรพากรได้รับเรื่องไปเพื่อหารือรายละเอียดกับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียถึงขอบเขตการยกเว้นภาษี (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตสูง แต่มีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ย รายงานจากกรุงสะวันนา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.47
เจ้าหน้าที่อาวุโสของ สรอ. กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มีปัจจัยเสี่ยงหลักอยู่
2 ประการ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก คือ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน
แต่ภาพรวมยังคงค่อนข้างดี ทั้งนี้ กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ มีกำหนดประชุมกันในวันอังคารนี้ที่ Sea Island สาธารณรัฐจอร์เจีย
เพื่อสนทนากันเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก (รอยเตอร์)
2. การให้สินเชื่อของธนาคารญี่ปุ่นเดือน พ.ค.47 ลดลง 3.6% รายงานจากโตเกียว ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.47 ธ.กลางญี่ปุ่นเปิด
เผยว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารญี่ปุ่นในเดือน พ.ค.47 ลดลงร้อยละ 3.6 จากปีก่อน นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 41 โดยข้อมูล
เบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า ยอดรวมเงินกู้จาก 4 ธนาคารหลักประเภทต่าง ๆ รวมถึง shinkin bank ในเดือน พ.ค.47 อยู่ที่ระดับ 450.3676
ล้านล้านเยน หรือ 4.106 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวลดลงทุกเดือนนับตั้งแต่ ธ.กลางญี่ปุ่น เริ่มนับรวมข้อมูลของ shinkin
bank ตั้งแต่เดือน ม.ค.44 แต่การลดลงเริ่มเบาบางลงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยการให้สินเชื่อลดลงร้อยละ 4.0 ในเดือน เม.ย.
เทียบปีต่อปี อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่นับรวม shinkin bank ตัวเลขสินเชื่อของธนาคารญี่ปุ่นจะลดลงร้อยละ 4.1 อยู่ที่ระดับ 388.9582 ล้าน
ล้านเยน เป็นการลดลงติดต่อกันเดือนที่ 77 ส่วนการให้สินเชื่อของธนาคารต่างประเทศในญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 20.1 จากปีก่อน อยู่ที่ระดับ
5.5089 ล้านล้านเยน (รอยเตอร์)
3. จีนผ่อนปรนนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อกระตุ้นกิจการในประเทศให้ไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น รายงานจากปักกิ่งเมื่อ วันที่
7 มิ.ย. 47 รัฐบาลจีนผ่อนคลายข้อจำกัดอัตราแลกเปลี่ยน และข้อจำกัดเงินทุนเพื่อส่งเสริมกิจการในประเทศให้ไปลงทุนต่างประเทศ เนื่องจาก
กิจการที่จะไปลงทุนในต่างประเทศต้องนำสกุลเงินท้องถิ่นไปแลกเป็นเงินตราต่างประเทศ the State Admintration of Foreign
Exchange —SAFE เปิดเผยว่าจีนเกินดุลการชำระเงิน ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินเรนมินบิ (หยวน) มีเสถียรภาพ และมีทุนสำรองระหว่าง
ประเทศมากพอที่จะพัฒนากลยุทธอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดย SAFE จะปรับปรุงนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนให้ทันสมัยเพื่อช่วยกิจการในประเทศใน
การในเรื่องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหากจำเป็น ทั้งนี้รัฐบาลจีนได้ตั้งโควตาอัตราแลกเปลี่ยนไว้ 2.23 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ.
เพื่อเป็นโครงการนำร่องใน 19 จังหวัดและเมือง เพื่อลดข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ส่วนกิจการขนาดใหญ่นั้น รัฐบาลจะ
ผ่อนปรนข้อจำกัดเพื่ออนุญาตให้นำเงินทุนออกไปลงทุนด้วยเงินสกุลต่างประเทศ ทั้งนี้ในปี 46 กิจการในจีนลงทุนในต่างประเทศเป็นเงินถึง 2.1
พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากปี 45 ถึงร้อยละ 112.3 อย่างไรก็ตามการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในจีนในปีที่แล้วยังคงมีประมาณ
53.5 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. และ ณ สิ้นสุดเดือนมี.ค. 47 เงินสำรองระหว่างประเทศของจีน สูงถึง 439.8 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. มาก
เป็นอันดับที 2 ของโลกเป็นรองจากญี่ปุ่น แม้ว่าจีนจะต่อต้านแรงกดดันจากต่างประเทศให้ปรับค่าเงินหยวนแต่ก็ได้ผ่อนปรนให้มีการนำเงินทุนออก
ไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นอย่างไรก็ตามจีนยังคงเข้มงวดต่อการตรวจสอบการไหลเข้าของเงินลงทุนในประเทศด้วย(รอยเตอร์)
4. รัฐบาลเม็กซิโกคาดว่าการส่งออกจะถูกกระทบหากสรอ.ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย รายงานจากเม็กซิโกเมื่อ วันที่ 7 มิ.ย. 47 รมช.
คลังเม็กซิโกเปิดเผยว่า การส่งออกของเม็กซิโกและการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศอาจถูกกระทบหากสรอ.ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แม้ว่า
เมื่อเร็วๆนี้การส่งสินค้าออกไปสรอ.จะเพิ่มขึ้น ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2 เนื่องจากอุปสงค์ของสรอ.ฟื้นตัว โดยการส่งออก
ของเม็กซิโกถึงร้อยละ 85 เป็นการส่งออกไปสรอ.(รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 8/6/47 7/6/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 40.586 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 40.4064/40.6910 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1250 - 1.2500 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 625.83/15.43 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,500/7,600 7,450/7,550 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 34.16 3374 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 18.19*/14.59 17.59/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 8 มิ.ย.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-