รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นด้วยกับการออกมาตรการประหยัดน้ำมัน แต่เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการชดเชยราคาน้ำมันเบนซิน พร้อมเชื่อว่าประชาชนผู้ใช้น้ำมันจะเข้าใจและยอมรับได้
วันนี้ ( 9 มิ.ย.47) เวลา 09.20 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวยามเช้า ทางคลื่นวิทยุ 101.0 เมกกะเฮิร์ต ถึงกรณีราคาน้ำมันที่แพงขึ้นว่า รัฐบาลจะต้องติดตามเรื่องนี้ด้วยความใกล้ชิดและระมัดระวัง ตนคิดว่ามี 3 ปัจจัยที่รัฐบาลต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ
1.เรื่องน้ำมัน
2.ผลกระทบที่จะต่อเนื่องไปถึงเรื่องการค้าดุลบัญชีเดินสะพัด และ ภาวะเงินเฟ้อ
3.ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะกระทบกับเศรษฐกิจในภาพรวมได้ โดยเฉพาะการกระทบในเชิงทิศทางของเสถียรภาพ และการชะลออัตราการขยายตัวด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะออกมาตรการมารองรับเพื่อการประหยัดน้ำมันนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่อาจจะเป็นแนวคิดที่สายเกินไป และสิ่งที่สำคัญตอนนี้คือ รัฐบาลควรจะต้องทบทวนอย่างจริงจังในเรื่องของการหยุดชดเชยราคาน้ำมันเบนซิน เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้นตลอด และไม่ใช่ภาวะการเคลื่อนไหวชั่วคราว ดังนั้นรัฐบาลต้องรีบตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่าหากปล่อยราคาน้ำมันเบนซินให้เป็นไปตามความจริง ประชาชนผู้ใช้น้ำมันจะสามารถยอมรับและเข้าใจถึงภาวะที่เกิดขึ้นได้
‘ปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในขณะนี้ถือว่า เหมือนการเก็งตลาดผิด เมื่อขณะนี้ไม่ใช่ภาวะชั่วคราว รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร เพราะฉะนั้นในส่วนของน้ำมันเบนซิน รัฐบาลจะต้องทบทวนอย่างจริงจัง และต้องมีความกล้าหาญในการที่จะบอกกับผู้ใช้น้ำมัน เพราะตรงนี้จะเป็นสัญญาณที่ชัดกว่ามาตรการประหยัดการใช้น้ำมันอื่นใดทั้งสิ้น จึงอยากให้รัฐบาลได้เร่งย้อนกลับมาดูภาพรวมแล้วตัดสินใจในสิ่งที่มีความจำเป็น ซึ่งผมคิดว่าประชาชนจะเข้าใจ เพราะทราบกันดีว่าปัญหามาจากราคาน้ำมันในตลาดโลก การเมือง รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างประเทศ’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
วันนี้ ( 9 มิ.ย.47) เวลา 09.20 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวยามเช้า ทางคลื่นวิทยุ 101.0 เมกกะเฮิร์ต ถึงกรณีราคาน้ำมันที่แพงขึ้นว่า รัฐบาลจะต้องติดตามเรื่องนี้ด้วยความใกล้ชิดและระมัดระวัง ตนคิดว่ามี 3 ปัจจัยที่รัฐบาลต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ
1.เรื่องน้ำมัน
2.ผลกระทบที่จะต่อเนื่องไปถึงเรื่องการค้าดุลบัญชีเดินสะพัด และ ภาวะเงินเฟ้อ
3.ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะกระทบกับเศรษฐกิจในภาพรวมได้ โดยเฉพาะการกระทบในเชิงทิศทางของเสถียรภาพ และการชะลออัตราการขยายตัวด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะออกมาตรการมารองรับเพื่อการประหยัดน้ำมันนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่อาจจะเป็นแนวคิดที่สายเกินไป และสิ่งที่สำคัญตอนนี้คือ รัฐบาลควรจะต้องทบทวนอย่างจริงจังในเรื่องของการหยุดชดเชยราคาน้ำมันเบนซิน เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้นตลอด และไม่ใช่ภาวะการเคลื่อนไหวชั่วคราว ดังนั้นรัฐบาลต้องรีบตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่าหากปล่อยราคาน้ำมันเบนซินให้เป็นไปตามความจริง ประชาชนผู้ใช้น้ำมันจะสามารถยอมรับและเข้าใจถึงภาวะที่เกิดขึ้นได้
‘ปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในขณะนี้ถือว่า เหมือนการเก็งตลาดผิด เมื่อขณะนี้ไม่ใช่ภาวะชั่วคราว รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร เพราะฉะนั้นในส่วนของน้ำมันเบนซิน รัฐบาลจะต้องทบทวนอย่างจริงจัง และต้องมีความกล้าหาญในการที่จะบอกกับผู้ใช้น้ำมัน เพราะตรงนี้จะเป็นสัญญาณที่ชัดกว่ามาตรการประหยัดการใช้น้ำมันอื่นใดทั้งสิ้น จึงอยากให้รัฐบาลได้เร่งย้อนกลับมาดูภาพรวมแล้วตัดสินใจในสิ่งที่มีความจำเป็น ซึ่งผมคิดว่าประชาชนจะเข้าใจ เพราะทราบกันดีว่าปัญหามาจากราคาน้ำมันในตลาดโลก การเมือง รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างประเทศ’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-