เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมครม.ท้าทายนายชวน ให้กลับมาเป็นนายกฯ 3 เดือนเท่านั้น เพื่อแก้ไขปัญหาภาคใต้ว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายกฯ เพราะไม่รู้ว่าพูดจริงหรือไม่ เนื่องจากเป็นรายงานข่าว แต่หากเป็นเรื่องจริงก็ถือว่านายกฯไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ เพราะการพูดท้าทายผู้อื่นในเรื่องใดก็ตามด้วยความไม่ระมัดระวัง หากบุคคลนั้นรับคำท้า ก็จะเกิดความวุ่นวายตามมาได้ และหากตนรับคำท้าไปดำรงตำแหน่งนายกฯ 3 เดือน พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องลาออก ซึ่งตนขอถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ทำได้จริงหรือ ทั้งนี้การไปพูดท้าทาย คือที่มาของปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาภาคใต้ ที่รัฐบาลชุดนี้ ดำเนินนโยบายผิดพลาดด้วยการท้าทายคนอื่น และไม่แน่จริง จึงทำให้เกิดปัญหา
‘ผมคิดว่าในฐานะผู้รับผิดชอบบ้านเมือง ต้องมีวุฒิภาวะในการแก้ไขปัญหา ถ้านายกรัฐมนตรีพูดเช่นนี้ก็แสดงว่าไม่มีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำเลย และการแก้ไขปัญหาไม่ใช่ใช้วิธีท้าทาย และสิ่งที่ท้าทายก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะลาออกให้ผมไปเป็นนายกรัฐมนตรี 3 เดือน ผมถามว่า มันทำได้หรือไม่ และท่านนายกฯพร้อมที่จะทำหรือไม่ ถ้าพร้อมที่จะลาออกก็ลองดู แต่ผมคิดว่าคงเป็นเพียงแค่คำพูดตามประสาคนพูดมาก พูดง่ายๆ ขี้อวด ขี้คุย พูดโดยไม่รับผิดชอบ พูดอย่างทำอย่าง ผมไม่อยากใช้คำว่าพูดพล่อย ๆ แต่การพูดท้าทายคนอื่น คือต้นตอของปัญหาทุกวันนี้ ซึ่งผมคิดว่านิสัยเช่นนี้คงแก้ยากและอยากบอกว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของทดลอง ไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่บริษัทส่วนตัวของนายกฯทักษิณ เวลาจะทำอะไรต้องคิดให้หนักว่านี่คือบ้านเมือง’ นายชวนกล่าว
นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่าไม่สามารถให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 3 เดือนได้ เพราะจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายว่า รัฐบาลชุดนี้ลืมอดีตว่าในยุครัฐบาลที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี และมีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรองนายกรัฐมนตรี ในช่วงปลายปี 2540 ได้นำประเทศเข้าสู่เงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ จากนั้น เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นก็ลาออกและทิ้งปัญหาไว้ อีกทั้งมีการเปลี่ยนชื่อพรรค เปลี่ยนพรรค ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงานแบบไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ทำเอาไว้
‘ตอนนั้นพวกท่านบอกว่าเศรษฐกิจไทยเปรียบเหมือนคนไข้ ตายแน่นอน และไม่ต้องการให้ตายในมือของเขา พวกเราเข้าไปคลี่คลายปัญหา ทำให้เศรษฐกิจ อยู่รอด คนไข้ไม่ตาย จนรัฐบาลทักษิณมาทำต่อได้จากเงินสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่ประมาณ 800 ล้านบาท เมื่อปี 2540 ถ้าไม่ใช่พวกผมแก้ปัญหาไว้ พวกท่านคงทำไม่ได้ นี่คือผลพวงที่พรรคประชาธิปัตย์เคยทำไว้ให้ และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้อาศัยทำงานกันอยู่ในขณะนี้ เพียงแต่พวกท่านชอบยกตนข่มท่าน ดูถูกคนอื่น ประเมินคนอื่นน้อยไป ไปเจอของจริงภาคใต้เข้าก็เลยมีปัญหา ซึ่งผมเสียดายเพราะเหตุการณ์เลวร้ายไม่เคยเกิดขึ้นในรอบร้อยสองร้อย ปี แต่ที่เกิดขึ้นก็เพราะนโยบายผิดพลาดของนายกฯทักษิณ นโยบายคิดใหม่ทำใหม่ นโยบายความตายเอื้ออาทร นโยบายที่ดูถูก ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด แล้วยังไม่สำนึก ยังไปท้าทายคนอื่น ผมขอเตือนด้วยความหวังดีต่อบ้านเมือง ให้ไปมุ่งแก้ปัญหาปรับปรุงสิ่งที่ผิดพลาดดีกว่าจะมาท้าทายคนอื่นในสิ่งที่ทำไม่ได้ แล้วลองคิดดูว่าท่านทำได้ไหม ถ้าทำได้ ก็ไม่มีปัญหาเลย มีคนพร้อมรับคำท้าครับ’ นายชวน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีขีดเส้นตายใหม่ว่าจะแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้ได้ภายใน 30 วัน คิดว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า อยากให้ย้อนไปดูช่วงเดือนเมษายน 2544 ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่ารู้ปัญหาภาคใต้หมดทุกอย่าง จะแก้ได้ภายใน 3 เดือน ขอให้ดูวันที่พูดวันนั้น จนถึงวันนี้ ว่าระยะเวลาผ่านมานานเท่าไร เหตุการณ์ดีขึ้นหรือเลวร้ายลง ตนในฐานะเป็นคนภาคใต้ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์มาก เพราะกระทบหมด และค่อย ๆ ลุกลามไปทีละจังหวัด ๆ เป็นเรื่องที่น่าห่วง ซึ่งตนก็ขอเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ขอให้ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน และขอให้ประชาชนไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธ หรือไทยมุสลิม อย่าตกเป็นเหยื่อของปัญหา ให้ช่วยกันแก้ปัญหา เพราะขณะนี้ประชาชนว้าเหว่มาก ทำมาหากินลำบาก ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีเตรียมที่จะย้ายข้าราชการที่กลัวตายออกจากพื้นที่นั้น นายชวน กล่าวว่า ความกลัวตายเป็นเรื่องธรรมดาของคน แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ ใครที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อะไร ก็ทำสิ่งนั้น แต่อย่าไปดูถูกคนอื่นว่ากลัวตาย แล้วตัวเองไม่กลัวตาย
‘นายกรัฐมนตรีลองปรับสถานะให้เป็นเหมือนคนอื่น แต่นี่นายกฯลงพื้นที่ก็สิ้นเปลืองทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และงบประมาณ มีการดูแลอย่างนี้ ก็ไม่มีปัญหา แต่เจ้าหน้าที่เขาเสี่ยงภัยทุกวัน ต้องเข้าใจ เพราะไม่มีคนคุ้มครองพวกเขา เหมือนที่คุ้มครองนายกฯ แต่ถ้ากลัวตายจนไม่ทำงาน ก็เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้’ นายชวน กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
‘ผมคิดว่าในฐานะผู้รับผิดชอบบ้านเมือง ต้องมีวุฒิภาวะในการแก้ไขปัญหา ถ้านายกรัฐมนตรีพูดเช่นนี้ก็แสดงว่าไม่มีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำเลย และการแก้ไขปัญหาไม่ใช่ใช้วิธีท้าทาย และสิ่งที่ท้าทายก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะลาออกให้ผมไปเป็นนายกรัฐมนตรี 3 เดือน ผมถามว่า มันทำได้หรือไม่ และท่านนายกฯพร้อมที่จะทำหรือไม่ ถ้าพร้อมที่จะลาออกก็ลองดู แต่ผมคิดว่าคงเป็นเพียงแค่คำพูดตามประสาคนพูดมาก พูดง่ายๆ ขี้อวด ขี้คุย พูดโดยไม่รับผิดชอบ พูดอย่างทำอย่าง ผมไม่อยากใช้คำว่าพูดพล่อย ๆ แต่การพูดท้าทายคนอื่น คือต้นตอของปัญหาทุกวันนี้ ซึ่งผมคิดว่านิสัยเช่นนี้คงแก้ยากและอยากบอกว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของทดลอง ไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่บริษัทส่วนตัวของนายกฯทักษิณ เวลาจะทำอะไรต้องคิดให้หนักว่านี่คือบ้านเมือง’ นายชวนกล่าว
นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่าไม่สามารถให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 3 เดือนได้ เพราะจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายว่า รัฐบาลชุดนี้ลืมอดีตว่าในยุครัฐบาลที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี และมีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรองนายกรัฐมนตรี ในช่วงปลายปี 2540 ได้นำประเทศเข้าสู่เงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ จากนั้น เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นก็ลาออกและทิ้งปัญหาไว้ อีกทั้งมีการเปลี่ยนชื่อพรรค เปลี่ยนพรรค ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงานแบบไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ทำเอาไว้
‘ตอนนั้นพวกท่านบอกว่าเศรษฐกิจไทยเปรียบเหมือนคนไข้ ตายแน่นอน และไม่ต้องการให้ตายในมือของเขา พวกเราเข้าไปคลี่คลายปัญหา ทำให้เศรษฐกิจ อยู่รอด คนไข้ไม่ตาย จนรัฐบาลทักษิณมาทำต่อได้จากเงินสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่ประมาณ 800 ล้านบาท เมื่อปี 2540 ถ้าไม่ใช่พวกผมแก้ปัญหาไว้ พวกท่านคงทำไม่ได้ นี่คือผลพวงที่พรรคประชาธิปัตย์เคยทำไว้ให้ และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้อาศัยทำงานกันอยู่ในขณะนี้ เพียงแต่พวกท่านชอบยกตนข่มท่าน ดูถูกคนอื่น ประเมินคนอื่นน้อยไป ไปเจอของจริงภาคใต้เข้าก็เลยมีปัญหา ซึ่งผมเสียดายเพราะเหตุการณ์เลวร้ายไม่เคยเกิดขึ้นในรอบร้อยสองร้อย ปี แต่ที่เกิดขึ้นก็เพราะนโยบายผิดพลาดของนายกฯทักษิณ นโยบายคิดใหม่ทำใหม่ นโยบายความตายเอื้ออาทร นโยบายที่ดูถูก ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด แล้วยังไม่สำนึก ยังไปท้าทายคนอื่น ผมขอเตือนด้วยความหวังดีต่อบ้านเมือง ให้ไปมุ่งแก้ปัญหาปรับปรุงสิ่งที่ผิดพลาดดีกว่าจะมาท้าทายคนอื่นในสิ่งที่ทำไม่ได้ แล้วลองคิดดูว่าท่านทำได้ไหม ถ้าทำได้ ก็ไม่มีปัญหาเลย มีคนพร้อมรับคำท้าครับ’ นายชวน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีขีดเส้นตายใหม่ว่าจะแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้ได้ภายใน 30 วัน คิดว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า อยากให้ย้อนไปดูช่วงเดือนเมษายน 2544 ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่ารู้ปัญหาภาคใต้หมดทุกอย่าง จะแก้ได้ภายใน 3 เดือน ขอให้ดูวันที่พูดวันนั้น จนถึงวันนี้ ว่าระยะเวลาผ่านมานานเท่าไร เหตุการณ์ดีขึ้นหรือเลวร้ายลง ตนในฐานะเป็นคนภาคใต้ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์มาก เพราะกระทบหมด และค่อย ๆ ลุกลามไปทีละจังหวัด ๆ เป็นเรื่องที่น่าห่วง ซึ่งตนก็ขอเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ขอให้ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน และขอให้ประชาชนไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธ หรือไทยมุสลิม อย่าตกเป็นเหยื่อของปัญหา ให้ช่วยกันแก้ปัญหา เพราะขณะนี้ประชาชนว้าเหว่มาก ทำมาหากินลำบาก ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีเตรียมที่จะย้ายข้าราชการที่กลัวตายออกจากพื้นที่นั้น นายชวน กล่าวว่า ความกลัวตายเป็นเรื่องธรรมดาของคน แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ ใครที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อะไร ก็ทำสิ่งนั้น แต่อย่าไปดูถูกคนอื่นว่ากลัวตาย แล้วตัวเองไม่กลัวตาย
‘นายกรัฐมนตรีลองปรับสถานะให้เป็นเหมือนคนอื่น แต่นี่นายกฯลงพื้นที่ก็สิ้นเปลืองทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และงบประมาณ มีการดูแลอย่างนี้ ก็ไม่มีปัญหา แต่เจ้าหน้าที่เขาเสี่ยงภัยทุกวัน ต้องเข้าใจ เพราะไม่มีคนคุ้มครองพวกเขา เหมือนที่คุ้มครองนายกฯ แต่ถ้ากลัวตายจนไม่ทำงาน ก็เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้’ นายชวน กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-