พาณิชย์สกัดสินค้านำเข้า

        เล็งออกระเบียบติดฉลากภาษาไทย
        พาณิชย์เตรียมเสนอออกระเบียบบังคับสินค้าทุกรายการติดฉลากภาษาไทย ก่อนการนำเข้าหวังชะลอนำเข้าลดปัญหาขาดดุล นายพิษณุ เหรียญมหาสาร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการบริหารการนำเข้า (สบน.)กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการบริหารการนำเข้ามีมติร่วมกันให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)ออกประกาศเพิ่มเติมกำหนดให้สินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศทุกรายการซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายของหน่วยงานราชการใดกำกับดูแลต้องติดฉลากเป็นภาษาไทยก่อนการนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยรายละเอียดของฉลากจะต้องประกอบด้วยชื่อผู้ผลิต วัน เดือน ปีที่ผลิตและวันหมดอายุ รวมถึงส่วนประกอบของสินค้าซึ่งหากมีการประกาศบังคับใช้สินค้าใดไม่ได้ติดฉลากภาษาไทยก็ไม่สามารถนำเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรไทยได้ ซึ่งจะช่วยชะลอการนำเข้าสินค้าได้ทางหนึ่ง 
        “ขณะนี้สคบ.เห็นด้วย และยอมที่จะเพิ่มเติมประกาศเรื่องการติดฉลากภาษาไทยแล้วซึ่งสินค้าที่เข้าข่ายต้องติดฉลากภาษาไทยก่อนการนำเข้าคือสินค้าทุกรายการ ที่ไม่ยังมีหน่วยงานกำกับดูแลอยู่ก่อนแล้วเช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องหนัง ยกเว้นสินค้าที่มีหน่วยงานภายในกำกับดูแลอยู่แล้วไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว แต่ให้ปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยงานนั้นๆ เช่น สินค้าอาหารและยารักษาโรค สินค้าอุตสาหกรรมบางรายการ สุรา ซึ่งมีการออกมาตรการมากำกับดูแลอยู่แล้ว จากสำนักงานอาหารและยา(อย.) กระทรวงอุตสาหกรรม กรมสรรพสามิต เป็นต้น โดยจะนำเสนอมาตรการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารการนำเข้า(กบน.)ที่มีนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์เป็นประธานพิจารณาอนุมัติในวันที่ 9 ก.ค.ก่อนที่สคบ.จะประกาศบังคับใช้ภายในปีนี้” นายพิษณุกล่าวว่า นอกจากนี้คณะอนุกรรมการฯเตรียมที่จะเสนอแนวทางการทดแทนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศต่อกบน.ด้วย โดยในเบื้องต้นกำหนดสินค้าเป้าหมายแรกจำนวน 3 รายการคือ 1.สินค้าอะไหล่รถยนต์ ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้าปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท 2. ผลิตภัณฑ์พลาสติก นำเข้าปีละ 6 หมื่นล้านบาทและ3.เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ 2 แสนล้านบาทสำหรับสินค้า 3 รายการหากมีการชะลอการนำเข้าจะช่วยลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศได้เกือบ 4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการช่วยแก้ไขการขาดดุลการค้าของประเทศด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้สนบ.อยู่ระหว่างศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้างการผลิตและการนำเข้าของอุตสาหกรรมที่สำคัญไทย 5 กลุ่มคือ 1.อาหาร 2.สินค้าแฟชั่น (เสื้อผ้า อัญมณี และเครื่องประดับ)3.เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน 4.ยานยนต์และชิ้นส่วน 5.เครื่องจักรกลและชิ้นส่วน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบาย มาตรการการบริหารการนำเข้าเพื่อลดการพึ่งพิงจากต่างประเทศ 
        กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-