‘องอาจ คล้ามไพบูลย์’ เสนอแนวทางพลิกวิกฤติเป็นโอกาส แนะรัฐบาลเร่งสร้างจิตสำนึกแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานในระยะยาว เพราะเชื่อว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันยังคงผันผวนตลอดเวลา และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น
วันนี้ (13 มิ.ย. 47) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศว่า จากการตรวจสอบของพรรคฯพบว่าราคาน้ำมันยังมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา และมีแนวโน้มว่าราคาจะมีแต่เพิ่มขึ้น เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่มาจากหลายสาเหตุ เช่น การก่อการร้าย ความเชื่อว่าเศรษฐกิจของโลกจะฟื้นตัวทำให้มีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น รวมทั้ง อุปสงค์ อุปทาน เป็นต้น เพราะฉะนั้นจึงส่งผลกระทบกับราคาน้ำมันในประเทศไทยด้วย
นายองอาจกล่าวว่า รัฐบาลมีความกังวลถึงผลกระทบต่อคะแนนนิยมที่ประชาชนมีให้รัฐบาล จึงทำให้การจัดการปัญหาในเรื่องของราคาน้ำมันยังไม่เด็ดขาดเพียงพอ ขณะนี้รัฐบาลใช้วิธีการขอความร่วมมือในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ซึ่งพรรคฯเห็นว่ารัฐบาลควรจะดำเนินการเพิ่มเติมอย่างจริงจังมากขึ้น และควรเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เพื่อสร้างให้ประชาชนมีจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานในระยะยาว ดังนั้นพรรคฯจึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาล ดังนี้
1. นอกเหนือจากที่รัฐบาลมีนโยบายให้หน่วยราชการลดการใช้พลังงานลง 10% แล้ว รัฐบาลควรประสานงานกับภาคเอกชนให้มีการลดการใช้พลังงานลง 10% ด้วย
2. รัฐบาลควรสร้างจิตสำนึกของการประหยัดพลังงานขึ้นในสังคมไทย
3. รัฐบาลควรสร้างกระบวนการขัดเกลาทางสังคมให้ทุกส่วนของสังคมตระหนักถึงการประหยัดพลังงานในระยะยาว ไม่ใช่ประหยัดเฉพาะในช่วงที่ราคาน้ำมันมีความผันผวน
4. รัฐบาลควรบริหารจัดการเรื่องของรถสาธารณะ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชน ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
5. การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการใช้รถยนต์ในเขตเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เป็นต้น
‘ผมคิดว่ามาตรการต่างๆเหล่านี้จะมีส่วนทำให้ เรื่องของการประหยัดพลังงานเกิดผลมากขึ้นกว่าที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ในหลายๆประเทศนั้น เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวน เค้าก็มักจะปล่อยให้ราคาน้ำมันลอยตัว ซึ่งจะทำให้เกิดการหดตัวของการใช้น้ำมันมากขึ้น รวมทั้งการพิจารณาเรื่องน้ำมันทางเลือก ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่พรรคฯอยากฝากให้รัฐบาลนี้ใช้โอกาสในช่วงราคาน้ำมันมีความผันผวนดำเนินการรณรงค์ประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง เพราะจะช่วยให้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำมันในประเทศในโอกาสต่อไป’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
วันนี้ (13 มิ.ย. 47) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศว่า จากการตรวจสอบของพรรคฯพบว่าราคาน้ำมันยังมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา และมีแนวโน้มว่าราคาจะมีแต่เพิ่มขึ้น เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่มาจากหลายสาเหตุ เช่น การก่อการร้าย ความเชื่อว่าเศรษฐกิจของโลกจะฟื้นตัวทำให้มีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น รวมทั้ง อุปสงค์ อุปทาน เป็นต้น เพราะฉะนั้นจึงส่งผลกระทบกับราคาน้ำมันในประเทศไทยด้วย
นายองอาจกล่าวว่า รัฐบาลมีความกังวลถึงผลกระทบต่อคะแนนนิยมที่ประชาชนมีให้รัฐบาล จึงทำให้การจัดการปัญหาในเรื่องของราคาน้ำมันยังไม่เด็ดขาดเพียงพอ ขณะนี้รัฐบาลใช้วิธีการขอความร่วมมือในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ซึ่งพรรคฯเห็นว่ารัฐบาลควรจะดำเนินการเพิ่มเติมอย่างจริงจังมากขึ้น และควรเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เพื่อสร้างให้ประชาชนมีจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานในระยะยาว ดังนั้นพรรคฯจึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาล ดังนี้
1. นอกเหนือจากที่รัฐบาลมีนโยบายให้หน่วยราชการลดการใช้พลังงานลง 10% แล้ว รัฐบาลควรประสานงานกับภาคเอกชนให้มีการลดการใช้พลังงานลง 10% ด้วย
2. รัฐบาลควรสร้างจิตสำนึกของการประหยัดพลังงานขึ้นในสังคมไทย
3. รัฐบาลควรสร้างกระบวนการขัดเกลาทางสังคมให้ทุกส่วนของสังคมตระหนักถึงการประหยัดพลังงานในระยะยาว ไม่ใช่ประหยัดเฉพาะในช่วงที่ราคาน้ำมันมีความผันผวน
4. รัฐบาลควรบริหารจัดการเรื่องของรถสาธารณะ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชน ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
5. การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการใช้รถยนต์ในเขตเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เป็นต้น
‘ผมคิดว่ามาตรการต่างๆเหล่านี้จะมีส่วนทำให้ เรื่องของการประหยัดพลังงานเกิดผลมากขึ้นกว่าที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ในหลายๆประเทศนั้น เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวน เค้าก็มักจะปล่อยให้ราคาน้ำมันลอยตัว ซึ่งจะทำให้เกิดการหดตัวของการใช้น้ำมันมากขึ้น รวมทั้งการพิจารณาเรื่องน้ำมันทางเลือก ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่พรรคฯอยากฝากให้รัฐบาลนี้ใช้โอกาสในช่วงราคาน้ำมันมีความผันผวนดำเนินการรณรงค์ประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง เพราะจะช่วยให้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำมันในประเทศในโอกาสต่อไป’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-