นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายประการ จากการให้สัมภาษณ์ในหลายเรื่อง หลายกรณี ซึ่งพรรคฯมีความเป็นห่วงว่า พฤติกรรมการบริหารจัดการประเทศของนายกฯ ผ่านการให้สัมภาษณ์ต่างๆนั้น เป็นพฤติกรรมที่น่าวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งพฤติกรรมที่พรรคฯมองว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับนายกฯที่เป็นผู้นำประเทศ คือ
1. พฤติกรรมในการท้าทาย เช่น การท้าทาย นายชวน หลีกภัย ให้ไปแก้ปัญหาภาคใต้ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน เป็นต้น ‘นายกฯต้องเข้าใจว่าเรื่องของบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องจะนำมาเป็นเครื่องต่อรองท้าทาย ไม่ว่าจะนำมาพูดในหรือนอก ครม.ก็ตาม คำพูดของนายกฯนั้นถือเป็นคำพูดที่ศักดิ์สิทธิ์ และสำคัญ เพราะประเทศชาติ ไม่ใช่สนามการพนัน หรือสนามในการท้าทายให้นายกฯใช้เป็นเวทีในการจะพูดอะไรก็ได้ ซึ่งนายกฯต้องเข้าใจว่านานาชาติกำลังมอง ภาวะผู้นำของประเทศอยู่ ดังนั้นพฤติกรรมของนายกฯในการดำเนินการเรื่องนี้ ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่มีวุฒิภาวะบกพร่อง ทำให้ต่างชาติเกิดความไม่เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาภาคใต้ และอาจมองว่านายกฯไม่มีความจริงจังเพียงพอในการแก้ปัญหา’ นายองอาจกล่าว
2. พฤติกรรมการดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยามผู้อื่น จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดโครงการ ‘ประชาธิปัตย์ พบประชาชน’ โดยการเดินสายพบประชาชนตามภาคต่างๆนั้น นายก ฯ กลับพูดถากถางว่า ‘ไปก็เสียค่าเครื่องบินเปล่า ๆ’ ซึ่งตนคิดว่าคำพูดเช่นนี้ของนายกฯไม่ควรเกิดขึ้น ถ้านายกฯเห็นว่าการออกเดินสายของพรรคฯ มีการพูดจาและใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง นายกฯก็ควรจะนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาเปรียบเทียบข้อมูลของทั้งสองฝ่าย มากกว่าการเอาแต่พูดดูถูก เหยียดหยาม
3. พฤติกรรมการสร้างเรื่องใหม่กลบเรื่องเก่า เช่น กรณีการหยุดขายหวยหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล เนื่องจากถูกคัดค้านต่อต้านอย่างหนัก นายกฯก็เปิดประเด็นใหม่ กลบความอายที่ไม่สามารถดำเนินการในเรื่องเก่าได้ ด้วยการเสนอไอเดียซื้อหุ้น บริษัทผลิตรถยนต์ ระดับโลก อ้างว่า เพื่อเป็นการกระโดดในการพัฒนาประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่ายังไม่มีรายละเอียด เนื้อหาข้อมูลเพียงพอ ที่จะชี้ให้เห็นถึงการดำเนินการได้ หรือแม้กระทั่งการเปิดประเด็นจีดีพี 8 ล้านล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ จีดีพี ในปี 2547 ลดเหลือ 6-7 % จากที่เคย คุยอย่างมั่นใจว่าจะปั้น จีดีพี ให้ได้ 8 % ถือเป็นการสร้างฝันให้ประชาชนลืมตัวเลขเก่า ฝันถึงตัวเลขใหม่
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนคิดว่า นายกฯมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้อง ดังนั้นนายกฯต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ เพื่อให้เป็นนายกฯของประเทศไทยมากกว่าเป็นนายกฯของพรรคไทยรักไทย ดังนั้นพรรคฯ ต้องการเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้นำประเทศ และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นแบบอย่างในการทำงานทางการเมืองที่ถูกต้อง ‘ยิ่งรัฐบาลบริหารประเทศใกล้หมดวาระ เราก็ยิ่งเห็นพฤติกรรมแปลกๆของท่านนายกฯออกมาตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าตั้งแต่หัวหน้าพรรคลงมาจนถึงลูกพรรค ก็มักจะใช้วิธีการทำงานการเมืองที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ตนเองพูดตลอดเวลา เป็นการทำงานการเมืองที่ยิ่งกว่าน้ำเน่า ยิ่งกว่าความสกปรกที่เคยเกิดขึ้นมาในการดำเนินการการเมืองในประเทศไทย นายกฯควรทำงานทางการเมืองด้วยความถูกต้องมากกว่าทำงานเพื่อหวังผลทางการเลือกตั้ง’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
ซึ่งพฤติกรรมที่พรรคฯมองว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับนายกฯที่เป็นผู้นำประเทศ คือ
1. พฤติกรรมในการท้าทาย เช่น การท้าทาย นายชวน หลีกภัย ให้ไปแก้ปัญหาภาคใต้ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน เป็นต้น ‘นายกฯต้องเข้าใจว่าเรื่องของบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องจะนำมาเป็นเครื่องต่อรองท้าทาย ไม่ว่าจะนำมาพูดในหรือนอก ครม.ก็ตาม คำพูดของนายกฯนั้นถือเป็นคำพูดที่ศักดิ์สิทธิ์ และสำคัญ เพราะประเทศชาติ ไม่ใช่สนามการพนัน หรือสนามในการท้าทายให้นายกฯใช้เป็นเวทีในการจะพูดอะไรก็ได้ ซึ่งนายกฯต้องเข้าใจว่านานาชาติกำลังมอง ภาวะผู้นำของประเทศอยู่ ดังนั้นพฤติกรรมของนายกฯในการดำเนินการเรื่องนี้ ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่มีวุฒิภาวะบกพร่อง ทำให้ต่างชาติเกิดความไม่เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาภาคใต้ และอาจมองว่านายกฯไม่มีความจริงจังเพียงพอในการแก้ปัญหา’ นายองอาจกล่าว
2. พฤติกรรมการดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยามผู้อื่น จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดโครงการ ‘ประชาธิปัตย์ พบประชาชน’ โดยการเดินสายพบประชาชนตามภาคต่างๆนั้น นายก ฯ กลับพูดถากถางว่า ‘ไปก็เสียค่าเครื่องบินเปล่า ๆ’ ซึ่งตนคิดว่าคำพูดเช่นนี้ของนายกฯไม่ควรเกิดขึ้น ถ้านายกฯเห็นว่าการออกเดินสายของพรรคฯ มีการพูดจาและใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง นายกฯก็ควรจะนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาเปรียบเทียบข้อมูลของทั้งสองฝ่าย มากกว่าการเอาแต่พูดดูถูก เหยียดหยาม
3. พฤติกรรมการสร้างเรื่องใหม่กลบเรื่องเก่า เช่น กรณีการหยุดขายหวยหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล เนื่องจากถูกคัดค้านต่อต้านอย่างหนัก นายกฯก็เปิดประเด็นใหม่ กลบความอายที่ไม่สามารถดำเนินการในเรื่องเก่าได้ ด้วยการเสนอไอเดียซื้อหุ้น บริษัทผลิตรถยนต์ ระดับโลก อ้างว่า เพื่อเป็นการกระโดดในการพัฒนาประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่ายังไม่มีรายละเอียด เนื้อหาข้อมูลเพียงพอ ที่จะชี้ให้เห็นถึงการดำเนินการได้ หรือแม้กระทั่งการเปิดประเด็นจีดีพี 8 ล้านล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ จีดีพี ในปี 2547 ลดเหลือ 6-7 % จากที่เคย คุยอย่างมั่นใจว่าจะปั้น จีดีพี ให้ได้ 8 % ถือเป็นการสร้างฝันให้ประชาชนลืมตัวเลขเก่า ฝันถึงตัวเลขใหม่
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนคิดว่า นายกฯมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้อง ดังนั้นนายกฯต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ เพื่อให้เป็นนายกฯของประเทศไทยมากกว่าเป็นนายกฯของพรรคไทยรักไทย ดังนั้นพรรคฯ ต้องการเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้นำประเทศ และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นแบบอย่างในการทำงานทางการเมืองที่ถูกต้อง ‘ยิ่งรัฐบาลบริหารประเทศใกล้หมดวาระ เราก็ยิ่งเห็นพฤติกรรมแปลกๆของท่านนายกฯออกมาตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าตั้งแต่หัวหน้าพรรคลงมาจนถึงลูกพรรค ก็มักจะใช้วิธีการทำงานการเมืองที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ตนเองพูดตลอดเวลา เป็นการทำงานการเมืองที่ยิ่งกว่าน้ำเน่า ยิ่งกว่าความสกปรกที่เคยเกิดขึ้นมาในการดำเนินการการเมืองในประเทศไทย นายกฯควรทำงานทางการเมืองด้วยความถูกต้องมากกว่าทำงานเพื่อหวังผลทางการเลือกตั้ง’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-