นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ ‘หนทางที่ดีกว่า สู่อนาคตที่มั่นคง’ ว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศใช้เวลาถึง 3 ปี พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ลงพื้นที่มาโดยตลอด และทุกครั้งที่ลงพื้นที่ทางพรรคจะพูดถึงแนวนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลชุดนี้
“เราบอกกับประชาชนว่า นายกฯทักษิณ มองคนเป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เป็นกลไกเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น ในขณะที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ มองคนเป็นสติปัญญา เป็นพลังของทางสังคมที่น่าสนใจในการสร้างสังคมให้เข้มแข็ง”นายบัญญัติกล่าว
นายบัญญัติยังกล่าวถึง แนวคิดอีกอย่างหนึ่งคือ กระตุ้นเศรษฐกิจโดยให้คนใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งการใช้จ่ายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้นั้นต้องเป็นการใช้จ่ายที่ได้มาจากรายได้ของผู้บริโภคเอง หรือของประชาชนเอง ไม่ใช่เป็นการกู้ยืมอย่างที่รัฐบาลคิด เมื่อรัฐบาลมีแนวทางที่เชื่อว่า คนเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลจึงใช้คนเป็นทางผ่านในการอัดฉีดเงินลงมาจากเงินของรัฐ ในรูปแบบกองทุนต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างหนี้ให้กับประชาชน ที่นายกฯบอกว่า ตัวเลขเศรษฐกิจหรือ จีดีพี.โตขึ้นนั้น ก็มีเพียงธุรกิจของครอบครับนายกฯและพวกฟ้องเท่านั้นที่ดีขึ้น
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อบ้านเมืองเดินไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ทางพรรคประชาธิปัตย์จึงขอนำแนวทางที่ดีกว่ามาเสนอ แม้นายกฯทักษิณจะเชื่อว่า แนวทางที่ดีที่ดำเนินอยู่ในตอนนี้จะนำพาประเทศไปในทางที่ดี แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์กลับเชื่อว่า แนวคิดดังกล่าวจะสร้างหนี้ให้กับประชาชนไม่มีทางจบสิ้น และทางพรรคยังเชื่อว่า การมีส่วนร่วมของประชาชน และการเรียนรู้ การพัฒนาตัวเองอย่างยั่งยืน จะเป็นแนวทางในการสร้างคนเพื่ออนาคตของประเทศชาติมากกว่าการใช้อำนาจซีอีโอ. เพราะแท้จริงคือการนำเอาแนวคิดแบบเผด็จการมาปรับปรุงแต่งเท่านั้นเอง
การที่จะนำประเทศชาติไปสู่ความเจริญ คือ การพัฒนาประชากรในประเทศชาติให้มีทักษะความรู้ในการประกอบวิชาชีพ
นายบัญญัติ กล่าวว่า จากผลการสำรวจของพรรคประชาธิปัตย์สิ่งที่คนไทยต้องการมีอยู่ 3 ประการคือ
1. ความมีคุณภาพชีวิตที่ดี
2. ประสงค์จะมีรายได้ที่ดี เพื่อส่งเสริมให้บุตรหลานได้มีการศึกษาในระดับที่ดีขึ้น
3. ต้องการให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและสงบสุข
โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีการกำหนดแผนเพื่อนำพาประเทศชาติและประชาชนไปสู่ความต้องการ 3 ประการในหัวข้อ ”บันไดสองขั้น เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” เพื่อให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น สิ่งที่สำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู้ความก้าวหน้าคือ การส่งเสิมการศึกษาซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีการกำหนด เป็น 4 พันธกิจ เพื่อความเจริญของประเทศอันได้แก่
1. พัฒนาการศึกษาให้แก่เด็กไทยอย่างเต็ทรูปแบบโดยให้ภาครัฐเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าใช่จ่ายทั้งหมด
2. พันธกิจว่าด้วยการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน
3. การดำเนินการสร้างงานเพื่อให้มีรายได้ ยกรายได้ของประชาชนให้สูงขึ้น และส่งเสริมแนวควาสมคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียง และก็ต้องมีการส่งเสริมดูแลรักษาป่า เพื่อป้องกันอุบัติภัยทางธรรมชาติ ต้องส่งเสริมสร้างคนให้มีความรู้ ให้มีทักษะ ในการประกอบอาชีพ
4. พันธกิจดูแลผู้สูงอายุ โดยจัดรายได้เดือนละ 1,000 บาทต่อเดือนให้กับผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
“เราบอกกับประชาชนว่า นายกฯทักษิณ มองคนเป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เป็นกลไกเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น ในขณะที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ มองคนเป็นสติปัญญา เป็นพลังของทางสังคมที่น่าสนใจในการสร้างสังคมให้เข้มแข็ง”นายบัญญัติกล่าว
นายบัญญัติยังกล่าวถึง แนวคิดอีกอย่างหนึ่งคือ กระตุ้นเศรษฐกิจโดยให้คนใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งการใช้จ่ายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้นั้นต้องเป็นการใช้จ่ายที่ได้มาจากรายได้ของผู้บริโภคเอง หรือของประชาชนเอง ไม่ใช่เป็นการกู้ยืมอย่างที่รัฐบาลคิด เมื่อรัฐบาลมีแนวทางที่เชื่อว่า คนเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลจึงใช้คนเป็นทางผ่านในการอัดฉีดเงินลงมาจากเงินของรัฐ ในรูปแบบกองทุนต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างหนี้ให้กับประชาชน ที่นายกฯบอกว่า ตัวเลขเศรษฐกิจหรือ จีดีพี.โตขึ้นนั้น ก็มีเพียงธุรกิจของครอบครับนายกฯและพวกฟ้องเท่านั้นที่ดีขึ้น
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อบ้านเมืองเดินไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ทางพรรคประชาธิปัตย์จึงขอนำแนวทางที่ดีกว่ามาเสนอ แม้นายกฯทักษิณจะเชื่อว่า แนวทางที่ดีที่ดำเนินอยู่ในตอนนี้จะนำพาประเทศไปในทางที่ดี แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์กลับเชื่อว่า แนวคิดดังกล่าวจะสร้างหนี้ให้กับประชาชนไม่มีทางจบสิ้น และทางพรรคยังเชื่อว่า การมีส่วนร่วมของประชาชน และการเรียนรู้ การพัฒนาตัวเองอย่างยั่งยืน จะเป็นแนวทางในการสร้างคนเพื่ออนาคตของประเทศชาติมากกว่าการใช้อำนาจซีอีโอ. เพราะแท้จริงคือการนำเอาแนวคิดแบบเผด็จการมาปรับปรุงแต่งเท่านั้นเอง
การที่จะนำประเทศชาติไปสู่ความเจริญ คือ การพัฒนาประชากรในประเทศชาติให้มีทักษะความรู้ในการประกอบวิชาชีพ
นายบัญญัติ กล่าวว่า จากผลการสำรวจของพรรคประชาธิปัตย์สิ่งที่คนไทยต้องการมีอยู่ 3 ประการคือ
1. ความมีคุณภาพชีวิตที่ดี
2. ประสงค์จะมีรายได้ที่ดี เพื่อส่งเสริมให้บุตรหลานได้มีการศึกษาในระดับที่ดีขึ้น
3. ต้องการให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและสงบสุข
โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีการกำหนดแผนเพื่อนำพาประเทศชาติและประชาชนไปสู่ความต้องการ 3 ประการในหัวข้อ ”บันไดสองขั้น เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” เพื่อให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น สิ่งที่สำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู้ความก้าวหน้าคือ การส่งเสิมการศึกษาซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีการกำหนด เป็น 4 พันธกิจ เพื่อความเจริญของประเทศอันได้แก่
1. พัฒนาการศึกษาให้แก่เด็กไทยอย่างเต็ทรูปแบบโดยให้ภาครัฐเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าใช่จ่ายทั้งหมด
2. พันธกิจว่าด้วยการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน
3. การดำเนินการสร้างงานเพื่อให้มีรายได้ ยกรายได้ของประชาชนให้สูงขึ้น และส่งเสริมแนวควาสมคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียง และก็ต้องมีการส่งเสริมดูแลรักษาป่า เพื่อป้องกันอุบัติภัยทางธรรมชาติ ต้องส่งเสริมสร้างคนให้มีความรู้ ให้มีทักษะ ในการประกอบอาชีพ
4. พันธกิจดูแลผู้สูงอายุ โดยจัดรายได้เดือนละ 1,000 บาทต่อเดือนให้กับผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-