ตั้งแต่ ต.ค.46 ถึง เม.ย.47 กรมการค้าต่างประเทศออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิด- สินค้า
ให้กับผู้ส่งสินค้าออกไปจีนภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีไทย — จีน และอาเซียน — จีนไปแล้ว จำนวน
6,094 ฉบับ ปริมาณสินค้าส่งออกกว่า 1.6 ล้านตัน มูลค่าส่งออกเกือบ 7,000 ล้านบาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแจ้งว่า ตั้งแต่ไทยเปิดเขตการค้าเสรีกับประเทศจีนในเดือนตุลาคม
2546 จนถึงเมษายน 2547 กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าให้กับผู้ส่งออก
สำหรับสินค้าพิกัด 01 — 08 ไปจีนจำนวน 6,094 ฉบับ เป็นปริมาณสินค้าที่ส่งออก 1,632,363 ตัน
มูลค่า 6,904.38 ล้านบาท โดยเป็นสินค้าผักและผลไม้ (พิกัด 07 — 08) ปริมาณ 1,630,139 ตัน
มูลค่า 6,813.13 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณและมูลค่าร้อยละ 99.9 และ 98.7 ของการส่งออกทั้งหมด
สำหรับสถิติการส่งออก — นำเข้าสินค้าของกรมศุลกากร ตั้งแต่ ต.ค. 46 — มี.ค. 47 ไทยส่ง
สินค้าพิกัด 01 — 08 ภายใต้ข้อตกลงฯไปจีนแล้ว จำนวน 1,129,716 ตัน มูลค่า 5,279.61 ล้านบาท
โดยเป็นผักและผลไม้ (พิกัด 07 — 08) ปริมาณ 1,117,130 ตัน มูลค่า 4,744.21 ล้านบาท คิด
เป็นปริมาณร้อยละ 99 มูลค่าร้อยละ 89 ของการส่งออกทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบกับการส่งออกของ
ไทยก่อนมีข้อตกลงฯ (ต.ค. 45 — มี.ค. 46) ซึ่งส่งออกปริมาณ 740,036 ตัน มูลค่า 3,762.77
ล้านบาทปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 53 มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ มัน
สำปะหลังชนิดเป็นชิ้นคิดเป็นร้อยละ 59 รองลงมาคือ ลำไยอบแห้งร้อยละ 18 ลำไยสดร้อยละ 8 ทุเรียน
สดร้อยละ 3 และปลาแช่เย็นจนแข็งร้อยละ 2
ในขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าพิกัด 01 — 08 ภายใต้ข้อตกลงฯจากจีนจำนวน 165,168 ตัน มูลค่า
3,378.01 ล้านบาท โดยเป็นผักและผลไม้ (พิกัด 07 — 08) เช่นกัน มีปริมาณ 154,607 ตัน มูลค่า
2,864.62 ล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณร้อยละ 94 มูลค่าร้อยละ 85 ของการนำเข้าทั้งหมด และเมื่อ
เปรียบเทียบกับการนำเข้าของไทยก่อนมีข้อตกลงฯ (ต.ค. 45 — มี.ค. 46) ซึ่งมีปริมาณนำเข้า 53,961
ตัน มูลค่า 1,722.37 ล้านบาท ปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 206 และมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 96
สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุด คือ แอปเปิ้ลสดร้อยละ 41 รองลงมา ได้แก่ แพร์และควินส์สดร้อยละ 17
กระเทียมสดหรือแช่เย็นร้อยละ 5 ลูกนัตสดหรือแห้งร้อยละ 5 และเห็ดแห้งร้อยละ 4
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ ต.ค.46 — มี.ค.47 ไทยยังคงเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับจีนถึง 1,901.61
ล้านบาท แยกเป็นพิกัด 01 — 06 ตั้งแต่ ม.ค. — มี.ค.47 ได้ดุลการค้า 22.01 ล้านบาท
ในขณะที่ ม.ค. — มี.ค.46 ขาดดุล 31.14 ล้านบาท และพิกัด 07 — 08 ตั้งแต่ ต.ค. 46 —
มี.ค.47 ได้ดุลการค้า 1,879.59 ล้านบาท ลดลงจาก ต.ค.45 — มี.ค.46 ซึ่งได้ดุล 2,071.55
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษภาคม 2547--
-สส-
ให้กับผู้ส่งสินค้าออกไปจีนภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีไทย — จีน และอาเซียน — จีนไปแล้ว จำนวน
6,094 ฉบับ ปริมาณสินค้าส่งออกกว่า 1.6 ล้านตัน มูลค่าส่งออกเกือบ 7,000 ล้านบาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแจ้งว่า ตั้งแต่ไทยเปิดเขตการค้าเสรีกับประเทศจีนในเดือนตุลาคม
2546 จนถึงเมษายน 2547 กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าให้กับผู้ส่งออก
สำหรับสินค้าพิกัด 01 — 08 ไปจีนจำนวน 6,094 ฉบับ เป็นปริมาณสินค้าที่ส่งออก 1,632,363 ตัน
มูลค่า 6,904.38 ล้านบาท โดยเป็นสินค้าผักและผลไม้ (พิกัด 07 — 08) ปริมาณ 1,630,139 ตัน
มูลค่า 6,813.13 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณและมูลค่าร้อยละ 99.9 และ 98.7 ของการส่งออกทั้งหมด
สำหรับสถิติการส่งออก — นำเข้าสินค้าของกรมศุลกากร ตั้งแต่ ต.ค. 46 — มี.ค. 47 ไทยส่ง
สินค้าพิกัด 01 — 08 ภายใต้ข้อตกลงฯไปจีนแล้ว จำนวน 1,129,716 ตัน มูลค่า 5,279.61 ล้านบาท
โดยเป็นผักและผลไม้ (พิกัด 07 — 08) ปริมาณ 1,117,130 ตัน มูลค่า 4,744.21 ล้านบาท คิด
เป็นปริมาณร้อยละ 99 มูลค่าร้อยละ 89 ของการส่งออกทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบกับการส่งออกของ
ไทยก่อนมีข้อตกลงฯ (ต.ค. 45 — มี.ค. 46) ซึ่งส่งออกปริมาณ 740,036 ตัน มูลค่า 3,762.77
ล้านบาทปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 53 มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ มัน
สำปะหลังชนิดเป็นชิ้นคิดเป็นร้อยละ 59 รองลงมาคือ ลำไยอบแห้งร้อยละ 18 ลำไยสดร้อยละ 8 ทุเรียน
สดร้อยละ 3 และปลาแช่เย็นจนแข็งร้อยละ 2
ในขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าพิกัด 01 — 08 ภายใต้ข้อตกลงฯจากจีนจำนวน 165,168 ตัน มูลค่า
3,378.01 ล้านบาท โดยเป็นผักและผลไม้ (พิกัด 07 — 08) เช่นกัน มีปริมาณ 154,607 ตัน มูลค่า
2,864.62 ล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณร้อยละ 94 มูลค่าร้อยละ 85 ของการนำเข้าทั้งหมด และเมื่อ
เปรียบเทียบกับการนำเข้าของไทยก่อนมีข้อตกลงฯ (ต.ค. 45 — มี.ค. 46) ซึ่งมีปริมาณนำเข้า 53,961
ตัน มูลค่า 1,722.37 ล้านบาท ปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 206 และมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 96
สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุด คือ แอปเปิ้ลสดร้อยละ 41 รองลงมา ได้แก่ แพร์และควินส์สดร้อยละ 17
กระเทียมสดหรือแช่เย็นร้อยละ 5 ลูกนัตสดหรือแห้งร้อยละ 5 และเห็ดแห้งร้อยละ 4
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ ต.ค.46 — มี.ค.47 ไทยยังคงเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับจีนถึง 1,901.61
ล้านบาท แยกเป็นพิกัด 01 — 06 ตั้งแต่ ม.ค. — มี.ค.47 ได้ดุลการค้า 22.01 ล้านบาท
ในขณะที่ ม.ค. — มี.ค.46 ขาดดุล 31.14 ล้านบาท และพิกัด 07 — 08 ตั้งแต่ ต.ค. 46 —
มี.ค.47 ได้ดุลการค้า 1,879.59 ล้านบาท ลดลงจาก ต.ค.45 — มี.ค.46 ซึ่งได้ดุล 2,071.55
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษภาคม 2547--
-สส-