นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2545 สหรัฐอเมริกา
ได้ออกกฎหมายป้องกันการก่อการร้ายทางชีวภาพ (Bioterrorism Act) ซึ่งภายใต้กฎหมายฉบับนี้มีระเบียบ
ย่อย 4 ฉบับ ที่มีผลกระทบต่อผู้ส่งออกอาหาร (อาหารมนุษย์และอาหารสัตว์) ของไทยไปยังตลาดสหรัฐ
อเมริกาที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว โดย 2 ฉบับแรกได้บังคับใช้แล้ว ตังแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2546
ที่ผ่านมา คือ การจดทะเบียนสถานที่ประกอบการอาหาร และการแจ้งข้อมูลสินค้าล่วงหน้าก่อนนำเข้า ทั้งนี้
สหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าจะมีผู้จดทะเบียนทั้งหมดประมาณ 420,000 ราย แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการได้จด
ทะเบียนจำนวน 195,929 ราย เป็นผู้ประกอบการต่างประเทศ 100,838 ราย กล่าวคือผู้ประกอบการไทย
จดทะเบียน 1,400 ราย เกาหลี 4,000 ราย และจีน 8,300 ราย ในปัจจุบันสหรัฐฯ ยังผ่อนปรนการ
บังคับใช้ระเบียบทั้งสอง โดยยังให้มีการจดทะเบียนสถานที่ประกอบการอาหารและแสดงข้อคิดเห็นต่อระเบียบ
ทั้งสองฉบับจนถึงเดือนสิงหาคมศกนี้ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยควรดำเนินการจดทะเบียนให้แล้วเสร็จและ
สามารถแสดงข้อคิดเห็นได้ที่เว็ปไซต์ของหน่วยงานอาหารและยาสหรัฐฯ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ระเบียบย่อย 2 ฉบับที่ยังไม่ประกาศบังคับใช้ คือ
ระเบียบการกักสินค้าโดยฝ่ายบริหาร และการจัดเก็บบันทึกข้อมูลประวัติการรับส่งสินค้า คาดว่าจะประกาศภาย
ในเดือนมิถุนายนศกนี้ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถศึกษาร่างระเบียบดังกล่าวได้ที่เว็ปไซต์ของหน่วยงานอาหาร
และยาสหรัฐฯ หรือเว็ปไซต์ของกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามระเบียบทั้ง
สองและมิให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าอาหาร ทั้งนี้ เมื่อระเบียบทั้งสองประกาศบังคับใช้กรมการค้าต่าง
ประเทศจะศึกษา และเผยแพร่ พร้อมทั้งจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทยอีกทางหนึ่ง เพื่อให้สามารถ
ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าอาหารในปัจจุบัน ประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทยได้มีมาตรการควบ
คุมอย่างเข้มงวดในการใช้สารเคมี สารตกค้าง และสารชีวภาพ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยควรศึกษากฎระเบียบ
ต่างๆ ของประเทศคู่ค้าด้วย เช่น มาตรการความปลอดภัยด้านอาหาร ระเบียบควบคุมเคมีภัณฑ์ของสหภาพยุโรป
และมาตรการที่มิใช่ภาษีต่างๆ ได้แก่ การส่งออกสินค้าอาหารไปสหรัฐอเมริกา ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงการ
ปนเปื้อนทางชีวภาพ เช่น เชื้อจุลินทรีย์ ไวรัสและปรสิต ทางสารเคมี เช่น สารตะกั่ว คลอแรมฟินิคอล ได
ออกซิน ปรอท และสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ เป็นต้น เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกและสามารถขยาย
ตลาดได้มากขึ้น
อนึ่ง ในปี 2546 ไทยส่งออกสินค้าอาหาร ไปสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 78,182 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
19 ของการส่งออกสินค้าอาหารทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้นจากปี 2545 คิดเป็นร้อยละ 5 และในช่วงเดือน
มกราคม - เมษายน 2547 ไทยส่งออกสินค้าอาหารไปสหรัฐฯ 24,580 ล้านบาท สำหรับสินค้าส่งออกอาหาร
5 อันดับแรกของไทยคือ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ข้าว
และผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ
ผู้ประกอบการที่ต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้ที่เว็ปไซต์ของหน่วยงานอาหาร
และยาสหรัฐฯ คือ http://www.fda.gov/oc/bioterrorism/bioact.html หรือที่เว็ปไซต์กรมการค้า
ต่างประเทศ www.dft.moc.go.th และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักมาตรการนำเข้าส่งออกสินค้า
ทั่วไป กรมการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 5118 โทรสาร 0 2547 4802 และ e-mail:
dv1_info@moc.go.th หรือสอบถามที่ Call Center 1385
--กรมการค้าต่างประเทศ มิถุนายน 2547--
-สส-
ได้ออกกฎหมายป้องกันการก่อการร้ายทางชีวภาพ (Bioterrorism Act) ซึ่งภายใต้กฎหมายฉบับนี้มีระเบียบ
ย่อย 4 ฉบับ ที่มีผลกระทบต่อผู้ส่งออกอาหาร (อาหารมนุษย์และอาหารสัตว์) ของไทยไปยังตลาดสหรัฐ
อเมริกาที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว โดย 2 ฉบับแรกได้บังคับใช้แล้ว ตังแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2546
ที่ผ่านมา คือ การจดทะเบียนสถานที่ประกอบการอาหาร และการแจ้งข้อมูลสินค้าล่วงหน้าก่อนนำเข้า ทั้งนี้
สหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าจะมีผู้จดทะเบียนทั้งหมดประมาณ 420,000 ราย แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการได้จด
ทะเบียนจำนวน 195,929 ราย เป็นผู้ประกอบการต่างประเทศ 100,838 ราย กล่าวคือผู้ประกอบการไทย
จดทะเบียน 1,400 ราย เกาหลี 4,000 ราย และจีน 8,300 ราย ในปัจจุบันสหรัฐฯ ยังผ่อนปรนการ
บังคับใช้ระเบียบทั้งสอง โดยยังให้มีการจดทะเบียนสถานที่ประกอบการอาหารและแสดงข้อคิดเห็นต่อระเบียบ
ทั้งสองฉบับจนถึงเดือนสิงหาคมศกนี้ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยควรดำเนินการจดทะเบียนให้แล้วเสร็จและ
สามารถแสดงข้อคิดเห็นได้ที่เว็ปไซต์ของหน่วยงานอาหารและยาสหรัฐฯ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ระเบียบย่อย 2 ฉบับที่ยังไม่ประกาศบังคับใช้ คือ
ระเบียบการกักสินค้าโดยฝ่ายบริหาร และการจัดเก็บบันทึกข้อมูลประวัติการรับส่งสินค้า คาดว่าจะประกาศภาย
ในเดือนมิถุนายนศกนี้ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถศึกษาร่างระเบียบดังกล่าวได้ที่เว็ปไซต์ของหน่วยงานอาหาร
และยาสหรัฐฯ หรือเว็ปไซต์ของกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามระเบียบทั้ง
สองและมิให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าอาหาร ทั้งนี้ เมื่อระเบียบทั้งสองประกาศบังคับใช้กรมการค้าต่าง
ประเทศจะศึกษา และเผยแพร่ พร้อมทั้งจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทยอีกทางหนึ่ง เพื่อให้สามารถ
ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าอาหารในปัจจุบัน ประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทยได้มีมาตรการควบ
คุมอย่างเข้มงวดในการใช้สารเคมี สารตกค้าง และสารชีวภาพ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยควรศึกษากฎระเบียบ
ต่างๆ ของประเทศคู่ค้าด้วย เช่น มาตรการความปลอดภัยด้านอาหาร ระเบียบควบคุมเคมีภัณฑ์ของสหภาพยุโรป
และมาตรการที่มิใช่ภาษีต่างๆ ได้แก่ การส่งออกสินค้าอาหารไปสหรัฐอเมริกา ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงการ
ปนเปื้อนทางชีวภาพ เช่น เชื้อจุลินทรีย์ ไวรัสและปรสิต ทางสารเคมี เช่น สารตะกั่ว คลอแรมฟินิคอล ได
ออกซิน ปรอท และสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ เป็นต้น เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกและสามารถขยาย
ตลาดได้มากขึ้น
อนึ่ง ในปี 2546 ไทยส่งออกสินค้าอาหาร ไปสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 78,182 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ
19 ของการส่งออกสินค้าอาหารทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้นจากปี 2545 คิดเป็นร้อยละ 5 และในช่วงเดือน
มกราคม - เมษายน 2547 ไทยส่งออกสินค้าอาหารไปสหรัฐฯ 24,580 ล้านบาท สำหรับสินค้าส่งออกอาหาร
5 อันดับแรกของไทยคือ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ข้าว
และผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ
ผู้ประกอบการที่ต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้ที่เว็ปไซต์ของหน่วยงานอาหาร
และยาสหรัฐฯ คือ http://www.fda.gov/oc/bioterrorism/bioact.html หรือที่เว็ปไซต์กรมการค้า
ต่างประเทศ www.dft.moc.go.th และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักมาตรการนำเข้าส่งออกสินค้า
ทั่วไป กรมการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 5118 โทรสาร 0 2547 4802 และ e-mail:
dv1_info@moc.go.th หรือสอบถามที่ Call Center 1385
--กรมการค้าต่างประเทศ มิถุนายน 2547--
-สส-