นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.ต จำลอง ศรีเมือง อดีตผู้ว่าราชการกทม.และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะเข้ามาคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่ากทม.ในนามอิสระว่า ไม่ว่าใครจะลงสมัครผู้ว่ากทม.แต่คนที่มีโอกาสเลือกคือคนกทม. และคนที่จะมาเป็นผู้ว่ากทม.ต้องมาจากเสียงส่วนใหญ่ของคนกทม.ไม่ใช่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือเพียงกลุ่มคนเดียว แม้ว่าตนจะลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่จะไม่ทิ้งประชาชน และพร้อมทำงานกับรัฐบาลได้ไม่ว่าพรรคไหนจะขึ้นมาเป็นรัฐบาล ตนมั่นใจว่าจะสามารถร่วมทำงานได้กับทุกรัฐบาล และพร้อมทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีทุกคน เพราะวิธีคิดของนักบริหารเมื่อได้เข้ามาเป็นผู้ว่ากทม.ต้องรู้จักบทบาทและหน้าที่ของตนเอง การลงสมัครในนามของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เป็นอุปสรรค หรือทำให้งานขาดประสิทธิภาพ
‘ผมไม่กังวลใจที่ พล.ต.จำลอง เข้ามาคัดเลือกตัวผู้สมัครเอง ถือเป็นสิทธิ์ของท่านที่จะเข้ามาช่วยดูแลเพราะเคยผ่านมางานผู้ว่ากทม.มาก่อนและเป็นผู้ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ แต่ถึงที่สุดแล้วประชาชนกทม.จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะเลือกใคร’นายอภิรักษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า พล.ต.จำลอง ระบุว่าตั้งแต่มีการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่ากทม. ยังไม่มีใครมีคุณสมบัติทที่เหมาะสมจึงต้องเข้ามาคัดเลือกเอง นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ต้องเคารพในความคิดเห็นของท่าน แม้ว่าตนจะเป็นหน้าใหม่ในทางการเมือง แต่มีความพร้อมเต็มร้อยทั้งในเรื่องประสบการณ์การบริหารงาน และมีความพร้อม มีทีมงานที่จะข้ามาร่วมในการผลักดันโครงการต่างๆ ดังนั้นในระยะเวลาที่เหลือประมาณ 2 เดือนเศษเป็นช่วงที่สำคัญมากสำหรับประชาชนชาวกทม.ในการพิจาณราให้รอบคอบ โดยดูถึงความมุ่งมั่น ประวัติความเป็นมาและแนนโยบายในตัวผู้สมัครแม้จะมีผู้สมัครหลายคน
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า การออกมาวิพากษ์วิจารณ์ของพล.ต.จำลองไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินสายหาเสียง หรือทำให้ท้อ แต่จะมุ่งมั่นลงพื้นที่อย่างเต็มที่ทุกวันในทุกพื้นที่ และได้รับกำลังใจจากประชาชนในหลานพื้นที่ ซึ่งตนก็ได้แสดงความพร้อมและความมั่นใจให้ประชาชนได้รับทราบอย่างเต็มที่ ทั่วถึงทุกลุ่ม
ต่อข้อซักถามว่าบุคคลที่ พล.ต.จำลอง จะคัดเลือกมาเป็นนักบริหารรุ่นใหม่ เมื่อเปิดออกมาแล้วจะได้รับความสนใจจากประชาชน นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ซึ่งตนก็เป็นนักบริหารมากว่า 20 ปีและมีประสบการณ์โดยตรงเพียงแต่ว่าหลายกลุ่มอาจจะรู้จักน้อย แต่ตรงนี้เป็นหน้าที่ของตนในการสร้างความมั่นใจให้คนในกทม.บางกลุ่มที่ยังรู้จักน้อย แม้ตนจะเป็นผู้บริหารมืออาชีพ เคนเป็นนายกสมาคมการตลาด และทราบดีว่าการทำการกตลาดเป็นอย่างไร แต่ตนไม่อยากให้พี่น้องชาวกรุงเทพเลือกผู้ว่า กทม.เพราะวิธีการทางการตลาด เพราะคนที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ว่าไม่ใช่เป็นเพราะมีสีสัน ไม่ควรได้รับเลือกเพราะมีนโยบายด้านการตลาดที่ทำให้คนดูตื่นเต้น แต่ควรเลือกด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ความสามารถในการบริหารที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ
เมื่อถามว่าการประกาศหนุนผู้ว่าอิสระของ พล.ต จำลอง จะเป็นการตัดคะแนนผู้สมัครรายอื่นโดยเฉพาะนายอภิรักษ์ หรือไม่ ผู้สมัครผู้ว่ากทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผู้สมัครแต่ละคนก็มีขาประจำ หรือแฟนๆ ให้การสนับสนุนอยู่แล้ว หากมีผู้สมัครหลายท่านคะแนนย่อมกระจายไปตามผู้สมัคร ซึ่งตนยังมั่นในกลุ่มที่ให้ความสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดนโยบายวันแรก และประชาชนจะได้รู้จักตนมาขึ้นเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาเคลื่อนไหวของพล.ต.จำลองครั้งนี้ เป็นกลยุทธหนึ่งของพรรคไทยรักไทยเพื่อช่วงชิงคะแนนนิยมจากพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ก็ได้แต่หวังว่านายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าพรรครักไทย จะได้ปฏิบัติตามที่ได้พูดไว้คือจะไม่ส่งผู้ว่ากทม.ในนามพรรคไทยรักไทย สำหรับผู้สมัครอิสระที่ประกาศตัวออกมาและกำลังจะประกาศตัวก็ได้แต่หวังว่าจะมีความเป็นอิสระจริง ประชาชนจะได้เลือกจากบุคคลนั้นจริงๆ ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนมองว่าผู้ว่าแต่ละคนลงในนามพรรคหรืออิสระ แต่ขอให้มองมีคุณภาพประสิทธิภาพในการทำงาน และนโยบายมากกว่า เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงกับความต้องการของคน กทม.
‘ไม่ว่าพรรคไหนจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนทีมีแนวคิดเป็นนักบริหาร ก็ต้องแสวงหาแนวร่วมในการทำงานได้ เมื่อผมประกาศตัวอาสาเข้ามาเป็นผู้ว่ากทม.ผมก็พร้อมทำงานกับทุกรัฐบาล ไม่ต้องห่วงว่าอยู่คนละพรรคจะทำงานร่วมกันไม่ได้ แม่แต่พรรคเดียวกันถ้าไม่เข้าใจการบริหารก็ทำงานร่วมกันไม่ได้ ผมพร้อมเต็มที่และไม่แพ้แดดด้วย เพราะตั้งแต่ประกาศตัวเมือเดือนมกราคมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้แม้หน้าผมจะดำไปเยอะ แต่ไม่มีปัญหาหาแพ้แดด’ นายอภิรักษ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
‘ผมไม่กังวลใจที่ พล.ต.จำลอง เข้ามาคัดเลือกตัวผู้สมัครเอง ถือเป็นสิทธิ์ของท่านที่จะเข้ามาช่วยดูแลเพราะเคยผ่านมางานผู้ว่ากทม.มาก่อนและเป็นผู้ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ แต่ถึงที่สุดแล้วประชาชนกทม.จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะเลือกใคร’นายอภิรักษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า พล.ต.จำลอง ระบุว่าตั้งแต่มีการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่ากทม. ยังไม่มีใครมีคุณสมบัติทที่เหมาะสมจึงต้องเข้ามาคัดเลือกเอง นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ต้องเคารพในความคิดเห็นของท่าน แม้ว่าตนจะเป็นหน้าใหม่ในทางการเมือง แต่มีความพร้อมเต็มร้อยทั้งในเรื่องประสบการณ์การบริหารงาน และมีความพร้อม มีทีมงานที่จะข้ามาร่วมในการผลักดันโครงการต่างๆ ดังนั้นในระยะเวลาที่เหลือประมาณ 2 เดือนเศษเป็นช่วงที่สำคัญมากสำหรับประชาชนชาวกทม.ในการพิจาณราให้รอบคอบ โดยดูถึงความมุ่งมั่น ประวัติความเป็นมาและแนนโยบายในตัวผู้สมัครแม้จะมีผู้สมัครหลายคน
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า การออกมาวิพากษ์วิจารณ์ของพล.ต.จำลองไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินสายหาเสียง หรือทำให้ท้อ แต่จะมุ่งมั่นลงพื้นที่อย่างเต็มที่ทุกวันในทุกพื้นที่ และได้รับกำลังใจจากประชาชนในหลานพื้นที่ ซึ่งตนก็ได้แสดงความพร้อมและความมั่นใจให้ประชาชนได้รับทราบอย่างเต็มที่ ทั่วถึงทุกลุ่ม
ต่อข้อซักถามว่าบุคคลที่ พล.ต.จำลอง จะคัดเลือกมาเป็นนักบริหารรุ่นใหม่ เมื่อเปิดออกมาแล้วจะได้รับความสนใจจากประชาชน นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ซึ่งตนก็เป็นนักบริหารมากว่า 20 ปีและมีประสบการณ์โดยตรงเพียงแต่ว่าหลายกลุ่มอาจจะรู้จักน้อย แต่ตรงนี้เป็นหน้าที่ของตนในการสร้างความมั่นใจให้คนในกทม.บางกลุ่มที่ยังรู้จักน้อย แม้ตนจะเป็นผู้บริหารมืออาชีพ เคนเป็นนายกสมาคมการตลาด และทราบดีว่าการทำการกตลาดเป็นอย่างไร แต่ตนไม่อยากให้พี่น้องชาวกรุงเทพเลือกผู้ว่า กทม.เพราะวิธีการทางการตลาด เพราะคนที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ว่าไม่ใช่เป็นเพราะมีสีสัน ไม่ควรได้รับเลือกเพราะมีนโยบายด้านการตลาดที่ทำให้คนดูตื่นเต้น แต่ควรเลือกด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ความสามารถในการบริหารที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ
เมื่อถามว่าการประกาศหนุนผู้ว่าอิสระของ พล.ต จำลอง จะเป็นการตัดคะแนนผู้สมัครรายอื่นโดยเฉพาะนายอภิรักษ์ หรือไม่ ผู้สมัครผู้ว่ากทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผู้สมัครแต่ละคนก็มีขาประจำ หรือแฟนๆ ให้การสนับสนุนอยู่แล้ว หากมีผู้สมัครหลายท่านคะแนนย่อมกระจายไปตามผู้สมัคร ซึ่งตนยังมั่นในกลุ่มที่ให้ความสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดนโยบายวันแรก และประชาชนจะได้รู้จักตนมาขึ้นเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาเคลื่อนไหวของพล.ต.จำลองครั้งนี้ เป็นกลยุทธหนึ่งของพรรคไทยรักไทยเพื่อช่วงชิงคะแนนนิยมจากพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ก็ได้แต่หวังว่านายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าพรรครักไทย จะได้ปฏิบัติตามที่ได้พูดไว้คือจะไม่ส่งผู้ว่ากทม.ในนามพรรคไทยรักไทย สำหรับผู้สมัครอิสระที่ประกาศตัวออกมาและกำลังจะประกาศตัวก็ได้แต่หวังว่าจะมีความเป็นอิสระจริง ประชาชนจะได้เลือกจากบุคคลนั้นจริงๆ ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนมองว่าผู้ว่าแต่ละคนลงในนามพรรคหรืออิสระ แต่ขอให้มองมีคุณภาพประสิทธิภาพในการทำงาน และนโยบายมากกว่า เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงกับความต้องการของคน กทม.
‘ไม่ว่าพรรคไหนจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนทีมีแนวคิดเป็นนักบริหาร ก็ต้องแสวงหาแนวร่วมในการทำงานได้ เมื่อผมประกาศตัวอาสาเข้ามาเป็นผู้ว่ากทม.ผมก็พร้อมทำงานกับทุกรัฐบาล ไม่ต้องห่วงว่าอยู่คนละพรรคจะทำงานร่วมกันไม่ได้ แม่แต่พรรคเดียวกันถ้าไม่เข้าใจการบริหารก็ทำงานร่วมกันไม่ได้ ผมพร้อมเต็มที่และไม่แพ้แดดด้วย เพราะตั้งแต่ประกาศตัวเมือเดือนมกราคมที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้แม้หน้าผมจะดำไปเยอะ แต่ไม่มีปัญหาหาแพ้แดด’ นายอภิรักษ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-