รองหน.ปชป. ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ ระบุมีรมต.อย่างน้อย 11 คน บริหารงาน 14 เรื่องเอื้อประโยชน์ ‘นายกฯ — ธุรกิจในเครือ’ แจงเหตุนายกฯมีเงินใช้ถึง 27,000 ชาติ พร้อมชูนโยบายเร่งด่วนปชป. ด้าน ‘มนตรี ปานน้อยนนท์’ ยืนยัน ไม่ย้ายพรรคแน่นอน
วานนี้(17 มิ.ย.47) เวลา 18.30น.พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดโครงการ ‘ประชาธิปัตย์พบประชาชน’ ที่สนามโรงเรียนกรุยบุรีวิทยา อำเภอกรุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายมนตรี ปานน้อยนนท์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ นายสุวโรช พะลัง ส.ส.ชุมพร และนายธานินทร์ ใจสมุทร ส.ส.สตูล พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วม โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยว่า การบริหารงาน 3 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลนายกฯทักษิณ มีรัฐมนตรีอย่างน้อย 11 คนที่บริหารงานเอื้อประโยชน์ให้กับนายกฯเป็นการเฉพาะ และมีอย่างน้อย 14 เรื่องที่เอื้อประโยชน์ให้นายกฯ และเครือข่ายธุรกิจของนายกฯทักษิณ
นายจุรินทร์กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารงานมา 3 ปีมีแต่การโฆษณาว่า ทำให้เศรษฐกิจของประเทศโต แต่โดยความเป็นจริงแล้วตนไม่ทราบว่า จะเป็นเศรษฐกิจของประชาชนหรือเศรษฐกิจของนายกฯกันแน่ เพราะ 3 ปีที่ผ่านมา คนจนจนลง นายกฯและธุรกิจในเครือข่ายของนายกฯกลับรวยขึ้น รายได้ของประชาชนไม่สัมพันธ์กับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น เพราะยุคนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น เช่น เนื้อหมูกิโลกรัมละ 120 บาท เนื้อวัวกิโลกรัมละ 125 บาท เป็นต้น
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทุกโครงการของรัฐบาลส่งเสริมให้คนเป็นหนี้มากขึ้น ส่งเสริมให้มีการกู้อย่างเดียว โดยไม่มีการลงทุนและการส่งเสริมอาชีพมารองรับ โดยเฉพาะโครงการกองทุยนหมู่บ้านที่ผลการวิจัยของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)พบว่าสินค้าที่คนไทยกู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน แล้วนำไปซื้อมากที่สุดคือมอเตอร์ไซด์และโทรศัพท์มือถือ และยังพบว่า 3 ปีที่ผ่านมาคนไทยเป็นหนี้เพิ่มขึ้น 61% ส่วนโครงการพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี และโครงการธนาคารประชาชนนั้น ทำให้คนไทยเป็นหนี้เพิ่มขึ้น 48.9% และ 88.5% ตามลำดับ
นายจุรินทร์กล่าวว่า บริษัทในเครือของนายกฯ 7 บริษัทที่จดทะเบียนถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้น ในปี 2544 ที่นายกฯเข้ามาบริหารประเทศ หุ้นทั้ง 7 บริษัทมีมูลค่า 1 แสนล้านบาทแต่เมื่อครบ 3 ปีของการบริหารประเทศเมื่อวันที่ 9 ก.พ.47 หุ้นทั้ง 7 บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 1.9 แสนล้านบาท ‘จากตัวเลขของ สศช.เฉลี่ยคนไทยใช้เงิน 41,000 ต่อปี ถ้าสมมติว่าอายุเฉลี่ยคนไทย 80 ปี ก็จะใช้เงิน 3.3 ล้านบาท แต่ 3 ปีที่ผ่านมานายกฯรวยขึ้น 9.1 หมื่นล้านบาท ก็จะใช้เงินจำนวนนี้ถึง 27,000 ชาติถึงจะหมด’ นายจุรินทร์กล่าว และว่า เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้จึงเป็นรัฐบาลที่เน้นการสร้างหนี้ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เน้นการสร้าสงคนเพื่อการศึกษา
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์คือ 1.เรียนฟรีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงม.6 2.เด็กที่จบมหาวิทยาลัยจะได้รับการฝึกงาน 1 ปีและมีรายได้ให้ทุกคน 3.เพิ่มรายได้ให้คนไทยและให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการเกษตรผสมผสาน 4.มีเบี้ยเลี้ยงให้ผู้สูงอายุ ที่มาอายุเกิน 60 ปี ที่ไม่มีรายได้เป็นของตนเองคนละ 1 พันบาทต่อเดือน นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายที่สำคัญคือ ปรับลด ปลดหนี้ ฟื้นฟูชีวีเกษตรกรไทย
‘เกษตรกรคนไหนเป็นหนี้โดยความผิดของรัฐบาลที่ไปส่งเสริมให้ทำโครงการต่างๆ จนประสบภาวะขาดทุน และเกษตรกรที่ทำการเกษตรและเกิดอุทกภัย รัฐบาลประชาธิปัตย์จะปลดหนี้ให้ทั้งหมด ส่วนกรณีหนี้ที่เกิดจากความผิดพลาดของประชาชน รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จะส่งเสริมให้ทำงานให้กับสังคม โดยคิดค่าแรงงานให้ และถือเป็นการลดหนี้ให้กับประชาชนด้วย’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ด้านนายมนตรี ปานน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าตนจะย้ายพรรคว่า ตนขอยืนยันว่าจะไม่ย้ายพรรคไปไหน จะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
ทั้งนี้การจัดโครงการประชาธิปัตย์พบประชาชนดังกล่าวได้มีการแสดงคอนเสิรต์นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ‘เอกชัย ศรีวิชัย’ และนักร้องลูกทุ่งอื่นๆอีกมากมาย โดยได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนที่เข้าชมจำนวนกว่า 1,000 คน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
วานนี้(17 มิ.ย.47) เวลา 18.30น.พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดโครงการ ‘ประชาธิปัตย์พบประชาชน’ ที่สนามโรงเรียนกรุยบุรีวิทยา อำเภอกรุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายมนตรี ปานน้อยนนท์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ นายสุวโรช พะลัง ส.ส.ชุมพร และนายธานินทร์ ใจสมุทร ส.ส.สตูล พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วม โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยว่า การบริหารงาน 3 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลนายกฯทักษิณ มีรัฐมนตรีอย่างน้อย 11 คนที่บริหารงานเอื้อประโยชน์ให้กับนายกฯเป็นการเฉพาะ และมีอย่างน้อย 14 เรื่องที่เอื้อประโยชน์ให้นายกฯ และเครือข่ายธุรกิจของนายกฯทักษิณ
นายจุรินทร์กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารงานมา 3 ปีมีแต่การโฆษณาว่า ทำให้เศรษฐกิจของประเทศโต แต่โดยความเป็นจริงแล้วตนไม่ทราบว่า จะเป็นเศรษฐกิจของประชาชนหรือเศรษฐกิจของนายกฯกันแน่ เพราะ 3 ปีที่ผ่านมา คนจนจนลง นายกฯและธุรกิจในเครือข่ายของนายกฯกลับรวยขึ้น รายได้ของประชาชนไม่สัมพันธ์กับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น เพราะยุคนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น เช่น เนื้อหมูกิโลกรัมละ 120 บาท เนื้อวัวกิโลกรัมละ 125 บาท เป็นต้น
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทุกโครงการของรัฐบาลส่งเสริมให้คนเป็นหนี้มากขึ้น ส่งเสริมให้มีการกู้อย่างเดียว โดยไม่มีการลงทุนและการส่งเสริมอาชีพมารองรับ โดยเฉพาะโครงการกองทุยนหมู่บ้านที่ผลการวิจัยของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)พบว่าสินค้าที่คนไทยกู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน แล้วนำไปซื้อมากที่สุดคือมอเตอร์ไซด์และโทรศัพท์มือถือ และยังพบว่า 3 ปีที่ผ่านมาคนไทยเป็นหนี้เพิ่มขึ้น 61% ส่วนโครงการพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี และโครงการธนาคารประชาชนนั้น ทำให้คนไทยเป็นหนี้เพิ่มขึ้น 48.9% และ 88.5% ตามลำดับ
นายจุรินทร์กล่าวว่า บริษัทในเครือของนายกฯ 7 บริษัทที่จดทะเบียนถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้น ในปี 2544 ที่นายกฯเข้ามาบริหารประเทศ หุ้นทั้ง 7 บริษัทมีมูลค่า 1 แสนล้านบาทแต่เมื่อครบ 3 ปีของการบริหารประเทศเมื่อวันที่ 9 ก.พ.47 หุ้นทั้ง 7 บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 1.9 แสนล้านบาท ‘จากตัวเลขของ สศช.เฉลี่ยคนไทยใช้เงิน 41,000 ต่อปี ถ้าสมมติว่าอายุเฉลี่ยคนไทย 80 ปี ก็จะใช้เงิน 3.3 ล้านบาท แต่ 3 ปีที่ผ่านมานายกฯรวยขึ้น 9.1 หมื่นล้านบาท ก็จะใช้เงินจำนวนนี้ถึง 27,000 ชาติถึงจะหมด’ นายจุรินทร์กล่าว และว่า เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้จึงเป็นรัฐบาลที่เน้นการสร้างหนี้ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เน้นการสร้าสงคนเพื่อการศึกษา
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์คือ 1.เรียนฟรีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงม.6 2.เด็กที่จบมหาวิทยาลัยจะได้รับการฝึกงาน 1 ปีและมีรายได้ให้ทุกคน 3.เพิ่มรายได้ให้คนไทยและให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการเกษตรผสมผสาน 4.มีเบี้ยเลี้ยงให้ผู้สูงอายุ ที่มาอายุเกิน 60 ปี ที่ไม่มีรายได้เป็นของตนเองคนละ 1 พันบาทต่อเดือน นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายที่สำคัญคือ ปรับลด ปลดหนี้ ฟื้นฟูชีวีเกษตรกรไทย
‘เกษตรกรคนไหนเป็นหนี้โดยความผิดของรัฐบาลที่ไปส่งเสริมให้ทำโครงการต่างๆ จนประสบภาวะขาดทุน และเกษตรกรที่ทำการเกษตรและเกิดอุทกภัย รัฐบาลประชาธิปัตย์จะปลดหนี้ให้ทั้งหมด ส่วนกรณีหนี้ที่เกิดจากความผิดพลาดของประชาชน รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จะส่งเสริมให้ทำงานให้กับสังคม โดยคิดค่าแรงงานให้ และถือเป็นการลดหนี้ให้กับประชาชนด้วย’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ด้านนายมนตรี ปานน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าตนจะย้ายพรรคว่า ตนขอยืนยันว่าจะไม่ย้ายพรรคไปไหน จะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
ทั้งนี้การจัดโครงการประชาธิปัตย์พบประชาชนดังกล่าวได้มีการแสดงคอนเสิรต์นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ‘เอกชัย ศรีวิชัย’ และนักร้องลูกทุ่งอื่นๆอีกมากมาย โดยได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนที่เข้าชมจำนวนกว่า 1,000 คน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-