นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศไม่ยุบสภาเพื่อต้องการสร้างประวัติศาสตร์ วันนี้เสียงเริ่มแผ่วลงตามภาวะขาลงของรัฐบาล แม้มีผู้นำทางความคิดทำตัวเป็นศาสดาชี้นำเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ว่าเศรษฐกิจดี ถ้ามีฝีมือจริงสมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรี สมัยที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรีทำไมไม่ช่วยแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ หรือวางยาพล.อ.ชวลิต และสมัยนั้นมีคนได้กำไรจากค่าเงินบาทที่นำไปใช้ในการเลือกตั้ง จนถึงปัจจุบันประชาชนประชาชนเป็นหนี้ต่อครัวเรือนสูงขึ้น รัฐบาลกลับปากแข็งว่าตัวเลขเศรษฐกิจดี คงดีเฉพาะคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าเพิ่มขึ้น ยิ่งทำให้คนเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำความหายนะ เพราะรัฐบาลใจดำไม่รณรงค์ให้ประชาชนประหยัด เพียงเพื่อต้องการให้คนใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายในปี 2548 นั้น มีโครงการใหญ่เป็นจำนวนมาก ที่จะมีการกินเปอร์เซ็นเตรียมเงินไว้เลือกตั้งต่อไป
‘ตลอดระยะเวลา 3 ปีถ้าหากมองเฉพาะตัวเลขแล้วรู้สึกว่ารัฐบาลจะมีความภาคภูมิใจมากว่า จีดีพี.เพิ่มมากขึ้น แต่ภายใต้การเพิ่มขึ้นนั้น ใครที่ได้ ประโยชน์ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ในขณะที่คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศจนลง’ นายบัญยัติกล่าว
นายบัญญัติกล่าวต่อไปว่า กรณีช่อง 5 ที่โอนผลประโยชน์มากมายให้บริษัทเอกชน พร้อมตบแต่งบัญชีเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น คนพวกนี้หายใจเข้าออกเป็นตลาดหลักทรัพย์ แถมยังให้ช่อง 5 ใช้หนี้บริษัทเอกชนถึง 216 ล้านบาท เรื่องนี้ใครทนได้ก็ทนไป แต่พรรคประชาธิปัตย์ทนไม่ได้ เรื่องนี้ทำไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผบ.ทบ. ระบุรำคาญฝ่ายค้านนั้น เป็นทัศนคติของทหารรุ่นเก่าในยุคเผด็จการ
นายบัญญัติกล่าวว่า ส่วนเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น ไม่ทราบว่าประชาชนจะทนอยู่รัฐบาลนี้จะอยู่อีกนานเท่าไหร แต่คนรู้มากขึ้น ดังนั้นพรรคไทยรักไทยที่ประกาศจะได้ส.ส. 400 เสียงนั้น เป็นแค่คำพูดเท่านั้น แค่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวให้เกิน 250 เสียงก็เกินพอแล้วในตอนนี้ โดยเฉพาะในภาคใต้ 6 เสียงของพรรคไทยรักไทย จะต้องเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ 3 ที่นั่งแน่นอน
นายบัญญัติกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประกาศไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคไทยรักไทยนั้น ความจริงถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ส่งใครลงคนกทม.จะปฏิเสธ เพราะไม่ชอบคนเหิมเห่อ ลืมตัว มัวเมาอำนาจ จึงไม่กล้าส่ง กลัวแพ้เลือกตั้งที่จะกระทบต่อการเลือกตั้งใหญ่ด้วย จึงได้พยายาทำทุกวิถีทางไม่ให้คนของพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นผู้ว่าฯกทม. ดังนั้นขอให้ชาวกทม.ต้องตบหน้ากลับไปเลือกนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ที่จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
‘ตลอดระยะเวลา 3 ปีถ้าหากมองเฉพาะตัวเลขแล้วรู้สึกว่ารัฐบาลจะมีความภาคภูมิใจมากว่า จีดีพี.เพิ่มมากขึ้น แต่ภายใต้การเพิ่มขึ้นนั้น ใครที่ได้ ประโยชน์ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ในขณะที่คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศจนลง’ นายบัญยัติกล่าว
นายบัญญัติกล่าวต่อไปว่า กรณีช่อง 5 ที่โอนผลประโยชน์มากมายให้บริษัทเอกชน พร้อมตบแต่งบัญชีเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น คนพวกนี้หายใจเข้าออกเป็นตลาดหลักทรัพย์ แถมยังให้ช่อง 5 ใช้หนี้บริษัทเอกชนถึง 216 ล้านบาท เรื่องนี้ใครทนได้ก็ทนไป แต่พรรคประชาธิปัตย์ทนไม่ได้ เรื่องนี้ทำไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผบ.ทบ. ระบุรำคาญฝ่ายค้านนั้น เป็นทัศนคติของทหารรุ่นเก่าในยุคเผด็จการ
นายบัญญัติกล่าวว่า ส่วนเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น ไม่ทราบว่าประชาชนจะทนอยู่รัฐบาลนี้จะอยู่อีกนานเท่าไหร แต่คนรู้มากขึ้น ดังนั้นพรรคไทยรักไทยที่ประกาศจะได้ส.ส. 400 เสียงนั้น เป็นแค่คำพูดเท่านั้น แค่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวให้เกิน 250 เสียงก็เกินพอแล้วในตอนนี้ โดยเฉพาะในภาคใต้ 6 เสียงของพรรคไทยรักไทย จะต้องเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ 3 ที่นั่งแน่นอน
นายบัญญัติกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประกาศไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคไทยรักไทยนั้น ความจริงถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ส่งใครลงคนกทม.จะปฏิเสธ เพราะไม่ชอบคนเหิมเห่อ ลืมตัว มัวเมาอำนาจ จึงไม่กล้าส่ง กลัวแพ้เลือกตั้งที่จะกระทบต่อการเลือกตั้งใหญ่ด้วย จึงได้พยายาทำทุกวิถีทางไม่ให้คนของพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นผู้ว่าฯกทม. ดังนั้นขอให้ชาวกทม.ต้องตบหน้ากลับไปเลือกนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ที่จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-