นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแปลงสภาพ ททบ.5 เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ว่าทางพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าการดำเนินการ โดยการพยายามที่จะนำททบ.เข้าไปในตลาดหลักทรัพย์ โดยการตั้งบริษัทอาร์ทีเอ จากการดำเนินการที่ผ่านมา พรรคฯมีความคิดเห็นว่า ผู้บัญชาการทหารบก (พล.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร) มีความพยายามที่จะเร่งดำเนินในเรื่องนี้ผิดปกติ เปรียบเสมือนว่า ททบ.5 เป็นทรัพย์สินส่วนตัว โดยไม่ฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง
นายองอาจ กล่าวว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ ขอตั้งกระทู้ถามนอกสภา ถึงกรณีดังกล่าวว่า
1. ทำไมต้องรีบร้อน นำททบ. 5 เข้าตลาดหลักทรัพย์และพยายามแต่งตัวเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างน่าสงสัย และมีความผิดปกติในหลายรายการ
2. กรณีที่ปลดผู้อำนวยการสถานีกองทัพบกช่อง 5 ออก พร้อมกัน 2 คน ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบความชัดเจน
3. การดำเนินดังกล่าวทำให้ททบ.5 สูญเสียผลประโยชน์ กว่า 3,000 ล้านบาท จากการใช้วิธีตกแต่งบัญชี เพื่อนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ จึงมีคำถามว่าเมื่อ ททบ.5 เสียประโยชน์ ผู้ที่ได้ประโยชน์คือใคร
4. การทำสัญญายกสิทธิผูกขาด เอาเวลาออกอาการไปแสวงหาประโยชน์จากการเช่าเวลา และถ่ายโฆษณา ประโยชน์ส่วนนี้ตกเป็นขอใคร ซึ่งเป็นผลประโยชน์ที่ ททบ. 5 พึงได้ และสุดท้ายคือ จากข้อมูลพบว่ามีนักธุรกิจเข้าไปถือหุ้น ในบริษัทอาร์ทีเอ อยู่จำนวนมาก และขึ้นตอนการเข้าไปถือ หุ้นรวมถึงวิธีการได้มาซึ่งหุ้นมีข้อน่าสงสัยหลายประการ จึงมีคำถามว่านักธุรกิจเข้าไปถือหุ้น อาร์ทีเอ ได้อย่างไร และมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่ ถ้ามีคือคนใกล้ชิด ผบ.ทบ. ใช่หรือไม่
อย่างไรก็ดี การนายกรัฐมนตรี พยายามตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาดำเนินการดำเนินการของททบ. โดยมีผู้บัญชาการทหารบกเข้ามาเกี่ยวข้อง ชี้ให้เห็นถึงข้อพิรุธ ชี้ให้เห็นว่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อน มีการเอื้อประโยชน์ ให้พวกพ้องอย่างชัดเจน การตั้งคณะกรรมการไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหา เพราะจากข้อมูลข่าวสารที่ระบุในขณะนี้ สามารถดำเนินการที่จะสั่งการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันที แต่การตั้งคณะกรรมการขึ้นมานั้นตนเห็นว่า น่าจะเป็นการลดกระการกดดันทางสังคม ในความไม่ถูกต้องในการดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะติดตามความคืบหน้าต่อไป
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่าสิ่งที่น่าสงสัยคือ ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลหลายอย่าง ชี้ให้เห็นถึงวาระซ้อนเร้นค่อนข้างมาก และพยายามที่จะกินรวบสื่อโทรทัศน์ ทุกส่วนให้เข้าไปเอื้อประโยชน์ ให้กับพวกพ้อง และเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ข้อมูลเบื้องต้นที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับคือรัฐบาลพยายามที่จะรวบสื่อให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และสิ่งที่พรรคอยากเรียกร้องคือให้รัฐบาลเอา ททบ. 5 มาคืนให้ประชาชน อย่าปล้นสมบัติของชาติไปโดยไม่ชอบธรรม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
นายองอาจ กล่าวว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ ขอตั้งกระทู้ถามนอกสภา ถึงกรณีดังกล่าวว่า
1. ทำไมต้องรีบร้อน นำททบ. 5 เข้าตลาดหลักทรัพย์และพยายามแต่งตัวเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างน่าสงสัย และมีความผิดปกติในหลายรายการ
2. กรณีที่ปลดผู้อำนวยการสถานีกองทัพบกช่อง 5 ออก พร้อมกัน 2 คน ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบความชัดเจน
3. การดำเนินดังกล่าวทำให้ททบ.5 สูญเสียผลประโยชน์ กว่า 3,000 ล้านบาท จากการใช้วิธีตกแต่งบัญชี เพื่อนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ จึงมีคำถามว่าเมื่อ ททบ.5 เสียประโยชน์ ผู้ที่ได้ประโยชน์คือใคร
4. การทำสัญญายกสิทธิผูกขาด เอาเวลาออกอาการไปแสวงหาประโยชน์จากการเช่าเวลา และถ่ายโฆษณา ประโยชน์ส่วนนี้ตกเป็นขอใคร ซึ่งเป็นผลประโยชน์ที่ ททบ. 5 พึงได้ และสุดท้ายคือ จากข้อมูลพบว่ามีนักธุรกิจเข้าไปถือหุ้น ในบริษัทอาร์ทีเอ อยู่จำนวนมาก และขึ้นตอนการเข้าไปถือ หุ้นรวมถึงวิธีการได้มาซึ่งหุ้นมีข้อน่าสงสัยหลายประการ จึงมีคำถามว่านักธุรกิจเข้าไปถือหุ้น อาร์ทีเอ ได้อย่างไร และมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่ ถ้ามีคือคนใกล้ชิด ผบ.ทบ. ใช่หรือไม่
อย่างไรก็ดี การนายกรัฐมนตรี พยายามตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาดำเนินการดำเนินการของททบ. โดยมีผู้บัญชาการทหารบกเข้ามาเกี่ยวข้อง ชี้ให้เห็นถึงข้อพิรุธ ชี้ให้เห็นว่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อน มีการเอื้อประโยชน์ ให้พวกพ้องอย่างชัดเจน การตั้งคณะกรรมการไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหา เพราะจากข้อมูลข่าวสารที่ระบุในขณะนี้ สามารถดำเนินการที่จะสั่งการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันที แต่การตั้งคณะกรรมการขึ้นมานั้นตนเห็นว่า น่าจะเป็นการลดกระการกดดันทางสังคม ในความไม่ถูกต้องในการดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะติดตามความคืบหน้าต่อไป
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่าสิ่งที่น่าสงสัยคือ ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลหลายอย่าง ชี้ให้เห็นถึงวาระซ้อนเร้นค่อนข้างมาก และพยายามที่จะกินรวบสื่อโทรทัศน์ ทุกส่วนให้เข้าไปเอื้อประโยชน์ ให้กับพวกพ้อง และเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ข้อมูลเบื้องต้นที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับคือรัฐบาลพยายามที่จะรวบสื่อให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และสิ่งที่พรรคอยากเรียกร้องคือให้รัฐบาลเอา ททบ. 5 มาคืนให้ประชาชน อย่าปล้นสมบัติของชาติไปโดยไม่ชอบธรรม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-