นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ถึงการคัดเลือกตัวผู้สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคฯว่า การคัดเลือกผู้สมัครของพรรคฯมีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี โดยมีผู้สนใจลงสมัครในนามพรรคฯเป็นอย่างมาก พรรคฯจึงมั่นใจว่าจะสามารถส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้ครบทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ แต่ในส่วนของภาคอีสานนั้น ต้องพิจารณาผู้สมัครมากกว่าภาคอื่นๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของพรรคไทยรักไทย ดังนั้นกระแสความนิยมในพรรคประชาธิปัตย์จึงแตกต่างจากภาคอื่นๆ ซึ่งผู้สมัครฯในภาคอีสานส่วนใหญ่จะเป็น อดีต ส.ส. นักการเมืองท้องถิ่น และคนรุ่นใหม่ที่เป็นลูกหลานของนักการเมืองในพื้นที่
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคฯยังมีความวิตกกังวลในเรื่องที่พรรคการเมืองอื่นต้องการตัวผู้สมัครของพรรคฯ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการเข้ามาเจรจาทาบทาม เพื่อเสนอผลประโยชน์ต่างๆมากขึ้นเรื่อย ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคฯจะหาทางแก้ไขต่อไป แต่ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่มีผู้สมัครคนใดย้ายไปอยู่พรรคอื่น เนื่องจากคนที่กล้าตัดสินใจลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่พรรครัฐบาลมีทั้งอำนาจรัฐและอำนาจเงินนั้น ต้องเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรคฯ และพรรคฯได้พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้สมัครฯแล้วว่า ให้มองการเมืองในระยะยาว ไม่ควรคิดแค่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า จะต้องใช้ความอดทน และทำงานหนัก ซึ่งเมื่อผ่านไปได้จะเป็นคนมีอนาคตทางการเมืองอย่างแน่นอน
‘เรามีความวิตกและไม่สบายใจ การเมืองยุคปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญใหม่ ควรจะมีการดำเนินการทางการเมืองที่สร้างสรรค์มากกว่าการใช้วิธีดูดผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคอื่น หรือใช้วิธีซื้อพรรคการเมืองอื่นไปควบรวมกับพรรคของตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นการกระทำที่สวนทางกับการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างมาก คนที่ตัดสินใจลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่พรรครัฐบาลมีทั้งอำนาจรัฐ อำนาจเงิน อำนาจอิทธิพลมากมาย แต่คนเหล่านี้ก็ยังกล้าตัดสินใจที่จะเดินเข้ามาสมัครในนามพรรค ผมจึงยกย่องและศรัทราในอุดมการณ์และการตัดสินใจของเค้ามาก ’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคฯยังมีความวิตกกังวลในเรื่องที่พรรคการเมืองอื่นต้องการตัวผู้สมัครของพรรคฯ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการเข้ามาเจรจาทาบทาม เพื่อเสนอผลประโยชน์ต่างๆมากขึ้นเรื่อย ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคฯจะหาทางแก้ไขต่อไป แต่ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่มีผู้สมัครคนใดย้ายไปอยู่พรรคอื่น เนื่องจากคนที่กล้าตัดสินใจลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่พรรครัฐบาลมีทั้งอำนาจรัฐและอำนาจเงินนั้น ต้องเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรคฯ และพรรคฯได้พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้สมัครฯแล้วว่า ให้มองการเมืองในระยะยาว ไม่ควรคิดแค่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า จะต้องใช้ความอดทน และทำงานหนัก ซึ่งเมื่อผ่านไปได้จะเป็นคนมีอนาคตทางการเมืองอย่างแน่นอน
‘เรามีความวิตกและไม่สบายใจ การเมืองยุคปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญใหม่ ควรจะมีการดำเนินการทางการเมืองที่สร้างสรรค์มากกว่าการใช้วิธีดูดผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคอื่น หรือใช้วิธีซื้อพรรคการเมืองอื่นไปควบรวมกับพรรคของตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นการกระทำที่สวนทางกับการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างมาก คนที่ตัดสินใจลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่พรรครัฐบาลมีทั้งอำนาจรัฐ อำนาจเงิน อำนาจอิทธิพลมากมาย แต่คนเหล่านี้ก็ยังกล้าตัดสินใจที่จะเดินเข้ามาสมัครในนามพรรค ผมจึงยกย่องและศรัทราในอุดมการณ์และการตัดสินใจของเค้ามาก ’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-