นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือน
มกราคม ถึง เดือนพฤษภาคม 2547 การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
โดยมีมูลค่าการส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2546 ถึงร้อยละ 26.13 คิดเป็นมูลค่ากว่า
14,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อการส่งออกมันสำปะหลังไทย คือ การเปิดเขตเสรีทางการค้ากับ
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบกับแนวโน้มราคาธัญพืชอาหารสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่สำคัญ
ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวบาเล่ย์ และกากถั่วเหลือง มีการปรับตัวของราคาที่ค่อนข้างสูง จึงเป็นผลให้ผู้
ใช้และผู้นำเข้าให้ความสนใจมาใช้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทดแทนเพิ่มมากขึ้น ปริมาณการส่งออกจึงปรับตัวสูงขึ้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
ทั้งหมดของไทยในช่วงเดือนมกราคม - เดือนพฤษภาคม 2547 มูลค่า 13,959 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก
มันเส้นจำนวน 1.24 ล้านตัน มูลค่า 3,476.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ
21.93 และ 19.61 ตามลำดับ และส่งออกในรูปมันอัดเม็ดปริมาณ 1.54 ล้านตัน มูลค่า 4,354.33 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 95.46 และ 109.99 ตามลำดับ โดยมีตลาดหลักในการส่งออกมันเส้นและมันอัด
เม็ด คือ ตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน และสหภาพยุโรป สำหรับการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง ตั้งแต่เดือน
มกราคม ถึง เดือนเมษายน 2547 มีการส่งออกในรูปของแป้งมันสำปะหลังดิบประมาณ 0.40 ล้านตัน มูลค่า
2,645.68 ล้านบาท ตลาดหลักได้แก่ ตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย
มาเลเซีย และจีน และมีการส่งออกในรูปแป้งมันสำปะหลังแปรรูปประมาณ 0.21 ล้านตัน มูลค่า 3,223.36
ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.99 และ 7.22 ตามลำดับ ในตลาดหลัก 5 ประเทศ คือ ตลาดญี่ปุ่น เน
เธอร์แลนด์ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินโดยนีเซีย และสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกผลิตภัณฑ์มัน
สำปะหลังอื่นๆ เช่น เม็ดสาคู มูลค่า 259.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2546 ร้อยละ
122.66
จากปริมาณความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่เพิ่มสูงขึ้น อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศยังได้ให้
แนวทางในการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพิ่มเติมไว้ว่า ระบบการค้าเสรีจะเข้ามามีบทบาทต่อการค้า
ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยทั้งในเวทีการค้าของ WTO และ FTA ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภายหลังจาก
การเปิดเสรีทางการค้าได้ส่งผลดีต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จาก
กรณีการลงนาม FTA ไทย - จีน ส่งผลสนับสนุนให้ปริมาณการค้าระหว่างไทย - จีน ในส่วนสินค้ามัน
สำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้น ประเด็นที่สำคัญที่ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการของไทยจะต้องให้ความสนใจ
มากขึ้นเป็นพิเศษ คือ การรักษามาตรฐานและคุณภาพของสินค้า อันจะส่งผลให้สินค้าไทยได้รับความเชื่อถือใน
ตลาดโลก และสามารถครองความเป็นหนึ่งในการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังได้ตลอดไป
--กรมการค้าต่างประเทศ มิถุนายน 2547--
-สส-
มกราคม ถึง เดือนพฤษภาคม 2547 การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
โดยมีมูลค่าการส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2546 ถึงร้อยละ 26.13 คิดเป็นมูลค่ากว่า
14,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อการส่งออกมันสำปะหลังไทย คือ การเปิดเขตเสรีทางการค้ากับ
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบกับแนวโน้มราคาธัญพืชอาหารสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่สำคัญ
ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวบาเล่ย์ และกากถั่วเหลือง มีการปรับตัวของราคาที่ค่อนข้างสูง จึงเป็นผลให้ผู้
ใช้และผู้นำเข้าให้ความสนใจมาใช้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทดแทนเพิ่มมากขึ้น ปริมาณการส่งออกจึงปรับตัวสูงขึ้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
ทั้งหมดของไทยในช่วงเดือนมกราคม - เดือนพฤษภาคม 2547 มูลค่า 13,959 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก
มันเส้นจำนวน 1.24 ล้านตัน มูลค่า 3,476.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ
21.93 และ 19.61 ตามลำดับ และส่งออกในรูปมันอัดเม็ดปริมาณ 1.54 ล้านตัน มูลค่า 4,354.33 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 95.46 และ 109.99 ตามลำดับ โดยมีตลาดหลักในการส่งออกมันเส้นและมันอัด
เม็ด คือ ตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน และสหภาพยุโรป สำหรับการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง ตั้งแต่เดือน
มกราคม ถึง เดือนเมษายน 2547 มีการส่งออกในรูปของแป้งมันสำปะหลังดิบประมาณ 0.40 ล้านตัน มูลค่า
2,645.68 ล้านบาท ตลาดหลักได้แก่ ตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย
มาเลเซีย และจีน และมีการส่งออกในรูปแป้งมันสำปะหลังแปรรูปประมาณ 0.21 ล้านตัน มูลค่า 3,223.36
ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.99 และ 7.22 ตามลำดับ ในตลาดหลัก 5 ประเทศ คือ ตลาดญี่ปุ่น เน
เธอร์แลนด์ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินโดยนีเซีย และสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกผลิตภัณฑ์มัน
สำปะหลังอื่นๆ เช่น เม็ดสาคู มูลค่า 259.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2546 ร้อยละ
122.66
จากปริมาณความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่เพิ่มสูงขึ้น อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศยังได้ให้
แนวทางในการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพิ่มเติมไว้ว่า ระบบการค้าเสรีจะเข้ามามีบทบาทต่อการค้า
ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยทั้งในเวทีการค้าของ WTO และ FTA ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภายหลังจาก
การเปิดเสรีทางการค้าได้ส่งผลดีต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จาก
กรณีการลงนาม FTA ไทย - จีน ส่งผลสนับสนุนให้ปริมาณการค้าระหว่างไทย - จีน ในส่วนสินค้ามัน
สำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้น ประเด็นที่สำคัญที่ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการของไทยจะต้องให้ความสนใจ
มากขึ้นเป็นพิเศษ คือ การรักษามาตรฐานและคุณภาพของสินค้า อันจะส่งผลให้สินค้าไทยได้รับความเชื่อถือใน
ตลาดโลก และสามารถครองความเป็นหนึ่งในการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังได้ตลอดไป
--กรมการค้าต่างประเทศ มิถุนายน 2547--
-สส-