วันนี้ (27 มิ.ย. 47) เวลา 14.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนเรียกทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศอิรักกลับสู่ประเทศไทยตามที่เคยบอกไว้ว่าจะพิจารณาถอนทหารกลับ หลังประเทศสหรัฐอเมริกามอบอำนาจคืนให้แก่รัฐบาลชั่วคราวของอิรักได้ปกครองตนเอง
นายองอาจ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีท่าทีใดๆในการเรียกทหารกลับ ทั้งที่สถานการณ์ในประเทศอิรักตอนนี้ยังมีการสู้รบอย่างหนักและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าปัจจุบันทหารไทยไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อมนุษยธรรมและฟื้นฟูประเทศอิรักมากนัก เนื่องจากสถานการณ์มีความรุนแรงมากจนทหารไทยไม่สามารถออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกค่ายได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์มีความหวั่นวิตกต่อกรณีผู้ก่อการร้ายในประเทศอิรักจับตัวประกันซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่เป็นประเทศพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกามาฆ่าตัดคอ เพื่อข่มขู่ไม่ให้ประเทศนั้นส่งทหารเข้าไปในอิรักอีก ซึ่งพรรคฯเห็นว่าหากผู้ก่อการร้ายมองว่าไทยเป็นประเทศพันธมิตรกับสหรัฐ ก็อาจจะมีการจับตัวประกันซึ่งเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ที่ประเทศอิรักไปฆ่าตัดคอบ้างก็ได้ ดังนั้นรัฐบาลควรต้องเร่งพิจารณาถอนทหารไทยออกจากอิรักโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของทหารและคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นั่น
‘ล่าสุดมีขบวนการกดดันสหรัฐฯและพันธมิตร โดยการจับตัวประกันชาวสหรัฐฯ และชาวเกาหลีที่เป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯในแถบเอเซีย ไปฆ่าตัดคอต่อหน้ากล้องให้คนดูทั่วโลก ต้องยอมรับว่าประเทศไทยถือเป็นพันธมิตรหนึ่งของสหรัฐในการส่งทหารเข้าไป และขณะนี้เราก็มีชาวไทยจำนวนหนึ่งอยู่ในอิรัก เพราะฉะนั้นสิ่งที่พรรคฯวิตกกังวลก็คือ ชาวไทยจำนวนหนึ่งอาจจะถูกจับไปเป็นตัวประกันเมื่อไหร่ ไม่มีใครทราบ และก็อาจจะถูกฆ่าตัดคอ เผยแพร่ภาพไปทั่วโลก เหมือนกับประชาชนชาติอื่นที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ซึ่งผมคิดว่าคงเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนคนไทยไม่ต้องการให้ภาพอย่างนั้นเกิดขึ้นกับพี่น้องร่วมชาติของเรา เพราะฉะนั้นพรรคฯ อยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตามที่เคยบอกเอาไว้ว่าจะพิจารณาในช่วงเดือน มิ.ย. นี้ และต้องยอมรับความจริงว่าขณะนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะไปทำงานด้านมนุษยธรรมตามที่กล่าวอ้าง รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้เวลาเนิ่นนานออกไปจนเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่พึงประสงค์ต่อทหารหรือชาวไทยในอิรัก ’ นายองอาจกล่าว
ทั้งนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าการคงทหารไทยในอิรักนั้น เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งในการก่อเหตุความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
นายองอาจ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีท่าทีใดๆในการเรียกทหารกลับ ทั้งที่สถานการณ์ในประเทศอิรักตอนนี้ยังมีการสู้รบอย่างหนักและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าปัจจุบันทหารไทยไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อมนุษยธรรมและฟื้นฟูประเทศอิรักมากนัก เนื่องจากสถานการณ์มีความรุนแรงมากจนทหารไทยไม่สามารถออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกค่ายได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์มีความหวั่นวิตกต่อกรณีผู้ก่อการร้ายในประเทศอิรักจับตัวประกันซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่เป็นประเทศพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกามาฆ่าตัดคอ เพื่อข่มขู่ไม่ให้ประเทศนั้นส่งทหารเข้าไปในอิรักอีก ซึ่งพรรคฯเห็นว่าหากผู้ก่อการร้ายมองว่าไทยเป็นประเทศพันธมิตรกับสหรัฐ ก็อาจจะมีการจับตัวประกันซึ่งเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ที่ประเทศอิรักไปฆ่าตัดคอบ้างก็ได้ ดังนั้นรัฐบาลควรต้องเร่งพิจารณาถอนทหารไทยออกจากอิรักโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของทหารและคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นั่น
‘ล่าสุดมีขบวนการกดดันสหรัฐฯและพันธมิตร โดยการจับตัวประกันชาวสหรัฐฯ และชาวเกาหลีที่เป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯในแถบเอเซีย ไปฆ่าตัดคอต่อหน้ากล้องให้คนดูทั่วโลก ต้องยอมรับว่าประเทศไทยถือเป็นพันธมิตรหนึ่งของสหรัฐในการส่งทหารเข้าไป และขณะนี้เราก็มีชาวไทยจำนวนหนึ่งอยู่ในอิรัก เพราะฉะนั้นสิ่งที่พรรคฯวิตกกังวลก็คือ ชาวไทยจำนวนหนึ่งอาจจะถูกจับไปเป็นตัวประกันเมื่อไหร่ ไม่มีใครทราบ และก็อาจจะถูกฆ่าตัดคอ เผยแพร่ภาพไปทั่วโลก เหมือนกับประชาชนชาติอื่นที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ซึ่งผมคิดว่าคงเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนคนไทยไม่ต้องการให้ภาพอย่างนั้นเกิดขึ้นกับพี่น้องร่วมชาติของเรา เพราะฉะนั้นพรรคฯ อยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตามที่เคยบอกเอาไว้ว่าจะพิจารณาในช่วงเดือน มิ.ย. นี้ และต้องยอมรับความจริงว่าขณะนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะไปทำงานด้านมนุษยธรรมตามที่กล่าวอ้าง รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้เวลาเนิ่นนานออกไปจนเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่พึงประสงค์ต่อทหารหรือชาวไทยในอิรัก ’ นายองอาจกล่าว
ทั้งนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าการคงทหารไทยในอิรักนั้น เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งในการก่อเหตุความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-