นายตรีพล เจาะจิตต์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ประธานคณะทำงานด่านการเกษตร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุว่าโครงการนำเข้าโคเนื้อ 1 ล้านตัว เป็นเพียงแนวคิดเท่านั้นว่า ตนคิดว่านายสมศักดิ์พูดไม่จริง เพราะตนมีรายละเอียดโครงการดังกล่าวแล้ว ซึ่งในโครงการก็ได้บอกถึงเป้าหมาย งบประมาณ วิธีการ รวมถึงระยะเวลาในการดำเนินงานไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ที่ยังไม่มีการเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าเป็นโครงการที่รีบร้อนผิดสังเกต
ส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ ออกมาปฏิเสธเงินจำนวน 50 ล้านบาทนั้น นายตรีพลกล่าวว่า มีการพูดกันว่าหากจัดตั้งบริษัทร่วมทุนได้ โดยมีรัฐบาลร่วมทุนและค้ำประกันนั้น บริษัทร่วมทุนจะไม่ขาดทุนเพราะมีรัฐบาลค้ำประกัน และหากจัดตั้งได้สำเร็จ จะตอบแทนให้ผู้มีอำนาจที่ผลักดันเรื่องนี้ในอัตราตัวละ 500 บาท ดังนั้นจำนวนโคที่จะนำเข้า 1 ล้านตัวก็จะทำให้ผู้ที่ผลักดันเรื่องการนำเข้าโคได้รับ้งินตอบแทนจำนวน 500 ล้านบาท
‘การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว ก็ไม่ได้ระบุว่าผู้ที่มีอำนาจนั้นเป็นใคร อาจจะใหญ่ว่ารมต.สมศักดิ์ก็ได้ ผมสงสัยว่าทำไมท่านรมต.สมศักดิ์จึงออกมาโวยวาย สงสัยจะกินปูนร้อนท้องไปเอง และกลับมากล่าวหาว่าผมเป็นคนหัวใจบอด ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร เพราะตลอด 5 สมัย ผมไม่เคยทำอะไรผิดพลาด แต่รมต.สมศักดิ์ ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเกือบทุกครั้ง อย่างไรก็ตามผมคิดว่าถ้ารัฐบาลมีโครงการใหญ่ที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ควรจะทำเป็นขั้นเป็นตอน เช่น จัดสัมมนา หรือฟังความคิดเห็นจากเกษตรกรและองค์กรต่างๆบ้าง ไม่ใช่ว่าคิดจะทำอะไรก็ทำ ทั้งที่ไม่เคยมีความรู้และประสบการณ์มาก่อน ซึ่งหากภาคเอกชนทำโครงการเองผมจะไม่คิดคัดค้านเลย แต่นี่เอารัฐบาลไปค้ำประกัน เลยต้องศึกษากันให้รอบคอบ และที่สำคัญ รมต.สมศักดิ์ทำงานพลาดมาหายเรื่องแล้ว เช่น โรคไข้หวัดนกเป็นต้น’ นายตรีพลกล่าว
ทั้งนี้นายตรีพลยังได้กล่าวอีกว่า นายสมศักดิ์ เป็นคนที่สมองและหัวใจตายด้าน ด้วยเหตุผล 3 ประการคือ 1. ใช้สมองโกหกและปิดบังเรื่องโรคไข้หวัดนก และไม่สามารถควบคุมโรคระบาดได้ จึงก่อให้เกิดความเสียหายไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท สัตว์ปีกตาย 60 ล้านตัว โรคระบาด 60 จังหวัด คนเสียชีวิตไป 8 คน ซึ่งยังไม่มีทีท่าที่จะแสดงความรับผิด 2. ใช้สมองยืมเงินภาคเอกดชนไป 140 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปิดบังเรื่องโรคไข้หวัดนก และจะนำไปชดเชยให้กับเกษตรกรที่ทำลายสัตว์ปีก ขณะนี้ได้เบิกงบประมาณแผ่นดินได้แล้ว เหตุใดจึงไม่นำเงินจำนวน 140 ล้านบาทไปคืนภาคเอก 3. โครงการเนื้อ 1 ล้านตัว และจะเร่งรีบทำให้ทันปลายปี คือ พ.ย. — ธ.ค. 2547 จำนวน 300,000 ตัว เป็นตัวเมีย 200,000 ตัว โคตัวผู้ 100,000 ตัว ถ้านำโคเข้ามาจากต่างประเทศ คนที่คิดโครงการนี้สมองตายด้าน เพราะการคัดโคเพศเมียจำนวน 200,000 ตัว ต้องใช้เวลานาน เพราะต้องตรวจเลือด ดูอายุ ตรวจสอบอวัยวะสืบพันธ์ ซึ่งหากคำนวณแล้วใน 1 วันจะคัดโคได้จำนวน 200 ตัว ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาถึง 2 ปีครึ่งจึงจะคัดเลือกโคเสร็จสิ้น ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานจนเกินไป
รายการ หน่วยวัด 2547 2548 2549 รวม
1. เลี้ยงโคเพศเมีย
1.1 เกษตรกร ราย 100,000 100,000 100,000 300,000
1.2 จำนวนโคเพศเมีย ตัว 200,000 200,000 200,000 600,000
2. เลี้ยงโคเพศผู้
2.1 เกษตรกร ราย 20,000 30,000 30,000 80,000
2.2 จำนวนโคเพศผู้ ตัว 100,000 150,000 150,000 400,000
รวมเกษตรกร ราย 120,000 130,000 130,000 380,000
รวมจำนวนโค ตัว 300,000 350,000 350,000 1,000,000
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-
ส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ ออกมาปฏิเสธเงินจำนวน 50 ล้านบาทนั้น นายตรีพลกล่าวว่า มีการพูดกันว่าหากจัดตั้งบริษัทร่วมทุนได้ โดยมีรัฐบาลร่วมทุนและค้ำประกันนั้น บริษัทร่วมทุนจะไม่ขาดทุนเพราะมีรัฐบาลค้ำประกัน และหากจัดตั้งได้สำเร็จ จะตอบแทนให้ผู้มีอำนาจที่ผลักดันเรื่องนี้ในอัตราตัวละ 500 บาท ดังนั้นจำนวนโคที่จะนำเข้า 1 ล้านตัวก็จะทำให้ผู้ที่ผลักดันเรื่องการนำเข้าโคได้รับ้งินตอบแทนจำนวน 500 ล้านบาท
‘การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว ก็ไม่ได้ระบุว่าผู้ที่มีอำนาจนั้นเป็นใคร อาจจะใหญ่ว่ารมต.สมศักดิ์ก็ได้ ผมสงสัยว่าทำไมท่านรมต.สมศักดิ์จึงออกมาโวยวาย สงสัยจะกินปูนร้อนท้องไปเอง และกลับมากล่าวหาว่าผมเป็นคนหัวใจบอด ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร เพราะตลอด 5 สมัย ผมไม่เคยทำอะไรผิดพลาด แต่รมต.สมศักดิ์ ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเกือบทุกครั้ง อย่างไรก็ตามผมคิดว่าถ้ารัฐบาลมีโครงการใหญ่ที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ควรจะทำเป็นขั้นเป็นตอน เช่น จัดสัมมนา หรือฟังความคิดเห็นจากเกษตรกรและองค์กรต่างๆบ้าง ไม่ใช่ว่าคิดจะทำอะไรก็ทำ ทั้งที่ไม่เคยมีความรู้และประสบการณ์มาก่อน ซึ่งหากภาคเอกชนทำโครงการเองผมจะไม่คิดคัดค้านเลย แต่นี่เอารัฐบาลไปค้ำประกัน เลยต้องศึกษากันให้รอบคอบ และที่สำคัญ รมต.สมศักดิ์ทำงานพลาดมาหายเรื่องแล้ว เช่น โรคไข้หวัดนกเป็นต้น’ นายตรีพลกล่าว
ทั้งนี้นายตรีพลยังได้กล่าวอีกว่า นายสมศักดิ์ เป็นคนที่สมองและหัวใจตายด้าน ด้วยเหตุผล 3 ประการคือ 1. ใช้สมองโกหกและปิดบังเรื่องโรคไข้หวัดนก และไม่สามารถควบคุมโรคระบาดได้ จึงก่อให้เกิดความเสียหายไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท สัตว์ปีกตาย 60 ล้านตัว โรคระบาด 60 จังหวัด คนเสียชีวิตไป 8 คน ซึ่งยังไม่มีทีท่าที่จะแสดงความรับผิด 2. ใช้สมองยืมเงินภาคเอกดชนไป 140 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปิดบังเรื่องโรคไข้หวัดนก และจะนำไปชดเชยให้กับเกษตรกรที่ทำลายสัตว์ปีก ขณะนี้ได้เบิกงบประมาณแผ่นดินได้แล้ว เหตุใดจึงไม่นำเงินจำนวน 140 ล้านบาทไปคืนภาคเอก 3. โครงการเนื้อ 1 ล้านตัว และจะเร่งรีบทำให้ทันปลายปี คือ พ.ย. — ธ.ค. 2547 จำนวน 300,000 ตัว เป็นตัวเมีย 200,000 ตัว โคตัวผู้ 100,000 ตัว ถ้านำโคเข้ามาจากต่างประเทศ คนที่คิดโครงการนี้สมองตายด้าน เพราะการคัดโคเพศเมียจำนวน 200,000 ตัว ต้องใช้เวลานาน เพราะต้องตรวจเลือด ดูอายุ ตรวจสอบอวัยวะสืบพันธ์ ซึ่งหากคำนวณแล้วใน 1 วันจะคัดโคได้จำนวน 200 ตัว ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาถึง 2 ปีครึ่งจึงจะคัดเลือกโคเสร็จสิ้น ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานจนเกินไป
รายการ หน่วยวัด 2547 2548 2549 รวม
1. เลี้ยงโคเพศเมีย
1.1 เกษตรกร ราย 100,000 100,000 100,000 300,000
1.2 จำนวนโคเพศเมีย ตัว 200,000 200,000 200,000 600,000
2. เลี้ยงโคเพศผู้
2.1 เกษตรกร ราย 20,000 30,000 30,000 80,000
2.2 จำนวนโคเพศผู้ ตัว 100,000 150,000 150,000 400,000
รวมเกษตรกร ราย 120,000 130,000 130,000 380,000
รวมจำนวนโค ตัว 300,000 350,000 350,000 1,000,000
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 มิ.ย. 2547--จบ--
-ดท-